คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
ในปัจจุบัน การท่าเรือไทย เอฟซี หนึ่งในตำนานสโมสรเก่าแก่ของประเทศไทย มีปัญหาเรื่องเงิน เป็นหนี้เป็นสิน ไม่จ่ายเงินเดือนนักเตะและทีมงาน ผลงานก็ย่ำแย่ กลายเป็นทีมบ๊วย เต็งตกชั้น บอร์ดบริหารคือคนที่มีอำนาจ มีสิทธิ์ในการกำหนดทิศทาง แต่ก็ไม่ได้ออกแรงทำอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
ส่วนเศรษฐีที่เข้ามาหาชื่อเสียงเพื่อหวังผลทางการเมืองในอนาคต ก็ไม่ได้หอบเงินมาเป็นทุนทำทีมอย่างที่หลายคนคาดหวัง ทำอะไรไม่ได้ก็ยืนขวาง เสียบคาเอาไว้ ไม่ถอยออกไปให้คนอื่นเข้ามาแก้ไข มันจึงเกิดเป็นสุญญากาศทางฟุตบอล ที่ใครตกอยู่ในสภาพนี้ก็จะคว้าอะไรไม่ได้เลย รอวันเสื่อม ซึ่งคนที่ต้องรับกรรม คือ บรรดานักเตะและทีมงาน รวมไปถึงกองเชียร์ที่ต้องเฝ้ามองทีมรักของพวกตนค่อยๆ พังทลาย หมดความภาคภูมิใจ และที่สำคัญ มันเกิดเป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทย ว่า ในยุคเฟื่องฟูที่ทีมต่างๆ ก้าวหน้าไปไกล แต่ การท่าเรือไทย ยังติดอยู่แค่ตรงนี้
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมไทยลีกแต่ละคู่ดูพื้นๆ แต่ที่สะดุดกึก กลายเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายหยิบยกขึ้นมาพูด และมีการตำหนิกันมากมายไปแล้วในสังคมออนไลน์ แต่ทาง สโมสรบางกอกกล๊าส กลับไม่กล้าเอาเรื่อง คงปล่อยให้สังคมตำหนิเอง เรื่องที่ว่าก็คือ ป้ายลามกกับการกระทำที่ต่ำมากของแฟน เพื่อนตำรวจ กลางสนามฟุตบอล
แม้ในต่างประเทศจะมีพวกชอบฉวยโอกาสวิ่งเปลือยกายในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเลือกที่มีผู้คนเยอะๆ เช่น ในสนามกีฬา คนจำพวกนี้ ฝรั่งเรียกว่า สตริกเคอร์ (Streaker) อันนั้นค่อนข้างอุจาด แต่ผมว่าสิ่งที่อุบาทว์ยิ่งกว่ามาก ก็คือ การที่แฟนบอล เพื่อนตำรวจ นำป้ายลามกมาชูกลางสนามฟุตบอล แถมพยายามยื่นให้กับ แรบบิต เกิร์ล และพูดจาส่อไปในทางชวนมีเพศสัมพันธ์ซะอีก หมอนี่คงสูญเสียความเป็นคนไทยที่มีคุณภาพ มาตรฐานทางความคิด มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี คือ เรียนไม่รู้ความถูกต้องไปแล้ว ดันคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่กระทำได้ เธอเหล่านั้นคงปลื้มและยินยอมให้ร่วมเพศ อันนี้เอ็งไม่ยี่หระต่อการหมิ่นศักดิ์ศรีของสุภาพสตรีเลยแม้แต่น้อย
ผมว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คนพวกนี้เลือกเสพสื่อที่ยัดเยียดแต่เรื่องอบายมุขมากเกินไป มันคอยหล่อหลอมสมองผู้อ่านจนกลายเป็นขยะทำลายสังคม ซึ่งสื่อพวกนี้ ไพล่ไปคิดว่า ฐานผู้อ่านคือชายวัยตั้งแต่ 15-35 ปี คนพวกนี้มันต้องตอบสนองความต้องการให้ด้วยเรื่องเพศ วาบหวิว โฆษณาแต่ละตัวใต้สะดือทั้งนั้น แล้วหากคนพวกนี้จะดูละครก็คงไม่พ้นช่องน้ำเน่า นี่ถือเป็นโชคดีที่คุณนายคนนั้นเด้งไปแล้ว ละครน้ำเน่า อิจฉา ด่า ตบ ขายนางเอกดาวโป๊ สำส่อน ทำลายภาพของสุภาพสตรีไทย และคอยทำลายความคิดในทางดีในสมองของผู้ชม เสี้ยมสอนคนให้เลว คงมีให้เห็นน้อยลง
ประเทศของผมเป็นประเทศที่การเปิดบ่อนพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ทำไมจึงมีหนังสือพิมพ์กีฬา เว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬาต่างๆ ลงโฆษณาเว็บไซต์พนันบอล มอมเมาผู้คนให้เสพติดการพนันกันทั้งประเทศ แล้วทางการไม่ทำการปราบปราม
ความจริง ผู้สนับสนุนวงการกีฬาที่ขายสินค้าอย่างอื่น ก็มีอีกเยอะมากมาย และผมยืนยันว่า กีฬาเป็นสิ่งบันเทิง ผู้คนสามารถสนุกกับการชมกีฬาได้ โดยไม่ต้องมีการพนันแม้แต่น้อย กรุณาอย่ายัดเยียดความเสื่อมให้สังคมของผมอีกเลย ผมเพียงแค่เสียดายที่ฝ่ายอธรรมครอบครองโลก และขอท้าทุกคนครับ ว่า ก่อนตายพี่หวินของผมก็ไม่มีทางยอมเลิกค้ากามและค้าบ่อน แม้จะทำลายสังคม แต่เงินมันดี และอีกอย่างหนึ่ง พี่หวิน ไม่เหมือน ป๊ะ กำพล ที่เลิกมอมเมาเยาวชนได้
ในปัจจุบัน การท่าเรือไทย เอฟซี หนึ่งในตำนานสโมสรเก่าแก่ของประเทศไทย มีปัญหาเรื่องเงิน เป็นหนี้เป็นสิน ไม่จ่ายเงินเดือนนักเตะและทีมงาน ผลงานก็ย่ำแย่ กลายเป็นทีมบ๊วย เต็งตกชั้น บอร์ดบริหารคือคนที่มีอำนาจ มีสิทธิ์ในการกำหนดทิศทาง แต่ก็ไม่ได้ออกแรงทำอะไรให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
ส่วนเศรษฐีที่เข้ามาหาชื่อเสียงเพื่อหวังผลทางการเมืองในอนาคต ก็ไม่ได้หอบเงินมาเป็นทุนทำทีมอย่างที่หลายคนคาดหวัง ทำอะไรไม่ได้ก็ยืนขวาง เสียบคาเอาไว้ ไม่ถอยออกไปให้คนอื่นเข้ามาแก้ไข มันจึงเกิดเป็นสุญญากาศทางฟุตบอล ที่ใครตกอยู่ในสภาพนี้ก็จะคว้าอะไรไม่ได้เลย รอวันเสื่อม ซึ่งคนที่ต้องรับกรรม คือ บรรดานักเตะและทีมงาน รวมไปถึงกองเชียร์ที่ต้องเฝ้ามองทีมรักของพวกตนค่อยๆ พังทลาย หมดความภาคภูมิใจ และที่สำคัญ มันเกิดเป็นรอยด่างในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทย ว่า ในยุคเฟื่องฟูที่ทีมต่างๆ ก้าวหน้าไปไกล แต่ การท่าเรือไทย ยังติดอยู่แค่ตรงนี้
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกมไทยลีกแต่ละคู่ดูพื้นๆ แต่ที่สะดุดกึก กลายเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายหยิบยกขึ้นมาพูด และมีการตำหนิกันมากมายไปแล้วในสังคมออนไลน์ แต่ทาง สโมสรบางกอกกล๊าส กลับไม่กล้าเอาเรื่อง คงปล่อยให้สังคมตำหนิเอง เรื่องที่ว่าก็คือ ป้ายลามกกับการกระทำที่ต่ำมากของแฟน เพื่อนตำรวจ กลางสนามฟุตบอล
แม้ในต่างประเทศจะมีพวกชอบฉวยโอกาสวิ่งเปลือยกายในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเลือกที่มีผู้คนเยอะๆ เช่น ในสนามกีฬา คนจำพวกนี้ ฝรั่งเรียกว่า สตริกเคอร์ (Streaker) อันนั้นค่อนข้างอุจาด แต่ผมว่าสิ่งที่อุบาทว์ยิ่งกว่ามาก ก็คือ การที่แฟนบอล เพื่อนตำรวจ นำป้ายลามกมาชูกลางสนามฟุตบอล แถมพยายามยื่นให้กับ แรบบิต เกิร์ล และพูดจาส่อไปในทางชวนมีเพศสัมพันธ์ซะอีก หมอนี่คงสูญเสียความเป็นคนไทยที่มีคุณภาพ มาตรฐานทางความคิด มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี คือ เรียนไม่รู้ความถูกต้องไปแล้ว ดันคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่กระทำได้ เธอเหล่านั้นคงปลื้มและยินยอมให้ร่วมเพศ อันนี้เอ็งไม่ยี่หระต่อการหมิ่นศักดิ์ศรีของสุภาพสตรีเลยแม้แต่น้อย
ผมว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา คนพวกนี้เลือกเสพสื่อที่ยัดเยียดแต่เรื่องอบายมุขมากเกินไป มันคอยหล่อหลอมสมองผู้อ่านจนกลายเป็นขยะทำลายสังคม ซึ่งสื่อพวกนี้ ไพล่ไปคิดว่า ฐานผู้อ่านคือชายวัยตั้งแต่ 15-35 ปี คนพวกนี้มันต้องตอบสนองความต้องการให้ด้วยเรื่องเพศ วาบหวิว โฆษณาแต่ละตัวใต้สะดือทั้งนั้น แล้วหากคนพวกนี้จะดูละครก็คงไม่พ้นช่องน้ำเน่า นี่ถือเป็นโชคดีที่คุณนายคนนั้นเด้งไปแล้ว ละครน้ำเน่า อิจฉา ด่า ตบ ขายนางเอกดาวโป๊ สำส่อน ทำลายภาพของสุภาพสตรีไทย และคอยทำลายความคิดในทางดีในสมองของผู้ชม เสี้ยมสอนคนให้เลว คงมีให้เห็นน้อยลง
ประเทศของผมเป็นประเทศที่การเปิดบ่อนพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ทำไมจึงมีหนังสือพิมพ์กีฬา เว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬาต่างๆ ลงโฆษณาเว็บไซต์พนันบอล มอมเมาผู้คนให้เสพติดการพนันกันทั้งประเทศ แล้วทางการไม่ทำการปราบปราม
ความจริง ผู้สนับสนุนวงการกีฬาที่ขายสินค้าอย่างอื่น ก็มีอีกเยอะมากมาย และผมยืนยันว่า กีฬาเป็นสิ่งบันเทิง ผู้คนสามารถสนุกกับการชมกีฬาได้ โดยไม่ต้องมีการพนันแม้แต่น้อย กรุณาอย่ายัดเยียดความเสื่อมให้สังคมของผมอีกเลย ผมเพียงแค่เสียดายที่ฝ่ายอธรรมครอบครองโลก และขอท้าทุกคนครับ ว่า ก่อนตายพี่หวินของผมก็ไม่มีทางยอมเลิกค้ากามและค้าบ่อน แม้จะทำลายสังคม แต่เงินมันดี และอีกอย่างหนึ่ง พี่หวิน ไม่เหมือน ป๊ะ กำพล ที่เลิกมอมเมาเยาวชนได้
