ยุทธนา แจ่มกระจ่าง ตัวแทนแฟนบอลการท่าเรือไทย เอฟซี เผยไม่ติดใจเอาความกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังจากเกิดเหตุขว้างปาแก้วน้ำกัน ขณะที่บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) ออกมาสรุปว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิด
เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง “กิเลนผยอง” กับ “สิงห์เจ้าท่า” ซึ่งฝ่ายแรกเปิดสนามเอสซีจี สเตเดียม ถล่มเอาชนะไป 5-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในนาทีที่ 85 โดยกองเชียร์การท่าเรือไทยอ้างว่ามีแก้วน้ำถูกขว้างลงมาจากอัฒจันทร์ชั้น 2 ซึ่งมีแฟนบอลสวมเสื้อเมืองทองฯ นั่งอยู่ก่อนที่จะมีการตอบโต้กัน ทำให้เกมหยุดลงไปราว 5 นาที ก่อนจะกลับมาแข่งขันต่อจนจบเกม
ล่าสุด ยุทธนา แจ่มกระจ่าง หนึ่งในแกนนำแฟนคลับการท่าเรือไทย ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลังว่าไม่มีอะไรรุนแรงตามที่เป็นข่าว ทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจผิด ซึ่งจุดเกิดเหตุบนอัฒจันทร์ชั้น 2 เป็นที่นั่งของพนักงานเอสซีจี โดยในขณะนั้นมีเพียงแค่แก้วพลาสติกกับน้ำแข็งที่ตกลงมาบริเวณที่นั่งของแฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” และก็พอใจกับท่าทีของ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการกีฬาของ “กิเลนผยอง” ที่รีบออกมาขอโทษพร้อมทั้งบอกว่ายินดีรับผิดชอบหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนยืนยันว่าไม่คิดมีปัญหากับแฟนบอลทีมไหนอย่างแน่นอน
ขณะที่ “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการทีมเอสซีจี เมืองทองฯ ก็ออกมาย้ำเช่นกันว่าไม่มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันรุนแรง ซึ่งหลังจากนี้สโมสรจะทำกำแพงใสขึ้นมาเป็นแนวกั้นบนอัฒจันทร์ชั้น 2 เพื่อป้องกันการขว้างปาในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าไม่น่าจะทันสำหรับบิ๊กแมตช์วันพุธที่ 28 มีนาคมนี้ ซึ่งมีคิวเปิดสนามเอสซีจี สเตเดียม ต้อนรับ บางกอกกล๊าส ทีมอันดับ 5 ของตาราง โดยอาจจะพร้อมใช้งานในวันที่ 8 เมษายนซึ่งเฝ้ารังพบ ทีโอที เอสซี
ด้านบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนที่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะมอบหมายให้ ดนัย มงคลสิริ ตัวแทนคณะอนุกรรมการฯ เป็นผู้ชี้แจงบทสรุปจากที่ประชุม
โดย ดนัย มงคลสิริ ชี้แจงเหตุในคู่เอสซีจี เมืองทองฯ กับ การท่าเรือไทย ว่าเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งมีแก้วน้ำหล่นลงมาจากอัฒจันทร์ชั้น 2 โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นจึงไม่มีการพิจารณาบทลงโทษทั้งสองทีมแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่แฟนบอลศรีสะเกษไปเผาหุ่นประท้วงทีม อีสาน ยูไนเต็ด หน้าสนามทุ่งบูรพา ในเกมเปิดบ้านชนะ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ถือว่าสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ทีพีแอลแจกแจงว่าหากแฟนบอลกูปรีพลัดถิ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายนอกสนามก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง แต่ถ้ามีการก่อเหตุในสนามก็จะลงโทษทีมเหย้าในข้อหาไม่สามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้ ทั้งนี้ได้ฝากให้ทีมที่จะต้อนรับการไปเยือนของ อีสาน ยูไนเต็ด เพิ่มความเข้มงวดสำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้มีเหตุบานปลายเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สรุปบทลงโทษทีมต่างๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย การท่าเรือไทย และ วัวชน ยูไนเต็ด ถูกปรับ 10,000 บาทข้อหามีผู้เล่นรับใบเหลือง-ใบแดง 5 คน ส่วน อาร์มี่ ยูไนเต็ด ถูกปรับ 10,000 บาทเนื่องจากแฟนบอลปาถุงน้ำแข็งลงมาในสนามเพราะไม่พอใจ นพพล ผลอุดม กองหน้าทีโอที เอสซี ที่แสดงกิริยายั่วยุต่อหน้าต่อตา ส่วน จักรพันธ์ ปั่นปี ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ ชลบุรี เอฟซี ถูกห้ามทำหน้าที่ข้างสนาม 2 นัด ปรับ 10,000 บาท หลังจากใช้วาจาไม่สุภาพกับผู้ตัดสินในเกมบุกไปเสมอ บางกอกกล๊าส 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
เกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง “กิเลนผยอง” กับ “สิงห์เจ้าท่า” ซึ่งฝ่ายแรกเปิดสนามเอสซีจี สเตเดียม ถล่มเอาชนะไป 5-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในนาทีที่ 85 โดยกองเชียร์การท่าเรือไทยอ้างว่ามีแก้วน้ำถูกขว้างลงมาจากอัฒจันทร์ชั้น 2 ซึ่งมีแฟนบอลสวมเสื้อเมืองทองฯ นั่งอยู่ก่อนที่จะมีการตอบโต้กัน ทำให้เกมหยุดลงไปราว 5 นาที ก่อนจะกลับมาแข่งขันต่อจนจบเกม
ล่าสุด ยุทธนา แจ่มกระจ่าง หนึ่งในแกนนำแฟนคลับการท่าเรือไทย ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภายหลังว่าไม่มีอะไรรุนแรงตามที่เป็นข่าว ทุกอย่างเกิดจากความเข้าใจผิด ซึ่งจุดเกิดเหตุบนอัฒจันทร์ชั้น 2 เป็นที่นั่งของพนักงานเอสซีจี โดยในขณะนั้นมีเพียงแค่แก้วพลาสติกกับน้ำแข็งที่ตกลงมาบริเวณที่นั่งของแฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” และก็พอใจกับท่าทีของ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการกีฬาของ “กิเลนผยอง” ที่รีบออกมาขอโทษพร้อมทั้งบอกว่ายินดีรับผิดชอบหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตนยืนยันว่าไม่คิดมีปัญหากับแฟนบอลทีมไหนอย่างแน่นอน
ขณะที่ “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการทีมเอสซีจี เมืองทองฯ ก็ออกมาย้ำเช่นกันว่าไม่มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันรุนแรง ซึ่งหลังจากนี้สโมสรจะทำกำแพงใสขึ้นมาเป็นแนวกั้นบนอัฒจันทร์ชั้น 2 เพื่อป้องกันการขว้างปาในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าไม่น่าจะทันสำหรับบิ๊กแมตช์วันพุธที่ 28 มีนาคมนี้ ซึ่งมีคิวเปิดสนามเอสซีจี สเตเดียม ต้อนรับ บางกอกกล๊าส ทีมอันดับ 5 ของตาราง โดยอาจจะพร้อมใช้งานในวันที่ 8 เมษายนซึ่งเฝ้ารังพบ ทีโอที เอสซี
ด้านบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วง เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนที่ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะมอบหมายให้ ดนัย มงคลสิริ ตัวแทนคณะอนุกรรมการฯ เป็นผู้ชี้แจงบทสรุปจากที่ประชุม
โดย ดนัย มงคลสิริ ชี้แจงเหตุในคู่เอสซีจี เมืองทองฯ กับ การท่าเรือไทย ว่าเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งมีแก้วน้ำหล่นลงมาจากอัฒจันทร์ชั้น 2 โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นจึงไม่มีการพิจารณาบทลงโทษทั้งสองทีมแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่แฟนบอลศรีสะเกษไปเผาหุ่นประท้วงทีม อีสาน ยูไนเต็ด หน้าสนามทุ่งบูรพา ในเกมเปิดบ้านชนะ โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ถือว่าสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ทีพีแอลแจกแจงว่าหากแฟนบอลกูปรีพลัดถิ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายนอกสนามก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง แต่ถ้ามีการก่อเหตุในสนามก็จะลงโทษทีมเหย้าในข้อหาไม่สามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้ ทั้งนี้ได้ฝากให้ทีมที่จะต้อนรับการไปเยือนของ อีสาน ยูไนเต็ด เพิ่มความเข้มงวดสำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้มีเหตุบานปลายเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สรุปบทลงโทษทีมต่างๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย การท่าเรือไทย และ วัวชน ยูไนเต็ด ถูกปรับ 10,000 บาทข้อหามีผู้เล่นรับใบเหลือง-ใบแดง 5 คน ส่วน อาร์มี่ ยูไนเต็ด ถูกปรับ 10,000 บาทเนื่องจากแฟนบอลปาถุงน้ำแข็งลงมาในสนามเพราะไม่พอใจ นพพล ผลอุดม กองหน้าทีโอที เอสซี ที่แสดงกิริยายั่วยุต่อหน้าต่อตา ส่วน จักรพันธ์ ปั่นปี ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ ชลบุรี เอฟซี ถูกห้ามทำหน้าที่ข้างสนาม 2 นัด ปรับ 10,000 บาท หลังจากใช้วาจาไม่สุภาพกับผู้ตัดสินในเกมบุกไปเสมอ บางกอกกล๊าส 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา