“สิงห์บลู” เชลซี เฉือนชนะ “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิกา ซึ่งเหลือผู้เล่น 10 คน แบบหวุดหวิด 2-1 ในศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อคืนวันพุธที่ 4 เม.ย. 2555 รวมผลสองนัดชนะ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก เช่นเดียวกับ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ที่ถล่ม อาโปเอล นิโคเซีย อีก 5-2 รวมสองนัดเอาชนะ 8-2
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
เชลซี (อังกฤษ) 2 - 1 เบนฟิกา (โปรตุเกส) [รวมผลสองนัด เชลซี ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวมชนะ 3-1]
เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ เบนฟิกา หลังจากบุกเอาชนะนัดแรก 1-0 เกมนี้ โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือเจ้าถิ่นยังไว้วางใจ เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดยมี ฆวน มาตา และ ซาโลมง กาลู คอยสนับสนุน ทางฝั่งทีมเยือนของเทรนเนอร์ ฮอร์เก เฆซุส ก็วาง นิโคลัส ไกตัน, ออสการ์ คาร์โดโซ และ พาโบล ไอมาร์ เป็นสามประสานแดนหน้าเหมือนเดิมจากเกมนัดแรก
เริ่มเกมขึ้นมา เบนฟิกา เดินหน้าบุกใส่ทันที แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งไม่ได้ ขณะที่ เชลซี มีลุ้นครั้งแรกในนาที 8 จากจังหวะเตะมุม ดาวิด ลุยซ์ ได้วอลเลย์ทางเสาสอง แต่ถูก โจน คัพเดบียา กองหลังทีมเยือนตามมาบล็อกแบบหวุดหวิด อีก 3 นาทีถัดมา จอห์น โอบี มิเกล แทงบอลให้ ฆวน มาตา หลุดเข้าไปในเขตโทษซัดผ่านตัว อาร์เทอร์ ตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู เนื่องจากมิดฟิลด์ชาวสแปนิช ยืนตำแหน่งล้ำหน้าก่อน
ทั้งสองทีมทำเกมบุกสู้กันอย่างสนุก กระทั่งนาที 19 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษ หลังจาก แอชลีย์ โคล ซึ่งเติมเกมบุกขึ้นสูงถูกชนจาก ฆาบี การ์เซีย ล้มลงในกรอบ 18 หลา แฟรงค์ แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหาร แม้ อาร์เทอร์ พุ่งถูกทางแต่บอลลอดแขนเข้าประตูไปทำให้ เชลซี ออกนำ 1-0
“เหยี่ยวลิสบอน” พยายามใช้การยิงไกลเล่นงานเจ้าถิ่น ในนาที 25 ออสการ์ คาร์โดโซ ลองสับไกยิงอีกครั้งจากระยะ 30 หลา แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล อีก 4 นาทีถัดมาเป็นโอกาสใกล้เคียงที่สุดของทีมเยือน เริ่มจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ก่อนที่ เอ็กเซล วิทเซล โหม่งชงมาให้ คาร์โดโซ วอลเลย์ด้วยขวา แต่ติด จอห์น เทอร์รี ที่ยืนหน้าปากประตูบล็อกเอาไว้ได้
เกมของ เบนฟิกา ทำท่าว่าจะดี แต่นาที 40 กลับต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจาก มักซี เปไรรา ยันใส่ มิเกล จนถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป หลังจากนั้น เจ้าถิ่นใช้ความได้เปรียบตัวผู้เล่นเกือบบวกสกอร์เพิ่มในนาที 43 มาตา หลุดเข้าไปวอลเลย์ในเขตโทษ แต่เหินข้ามคาน และยืนล้ำหน้าก่อนแล้ว สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่มจบครึ่งแรกยังนำเพียงลูกเดียว
ทีมเยือนเริ่มต้นครึ่งหลังน่ากลัว ผ่านมา 3 นาที เกือบทำประตูตามตีเสมอ พาโบล ไอมาร์ประสานงานกับ นิโคลัส ไกตัน ก่อนที่จังหวะสุดท้าย คาร์โดโซ ซัดบริเวณกรอบเขตโทษ บอลกำลังจะเสียบใต้คาน แต่ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟเหินปัดออกหลัง จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ไอมาร์ สับไกยิงบริเวณริมเขตโทษด้านซ้าย บอลเข้าข้างตาข่าย
ขณะที่ เชลซี เกือบบวกสกอร์เพิ่มเช่นกันในนาที 50 ซาโลมง กาลู ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนผ่านมาทางเสาสอง รามิเรส ตามมาชาร์ต แต่ยิงจ่อๆ หน้าปากประตูไม่โดนพลาดโอกาสทองไป อีก 3 นาทีถัดมา เฟร์นานโด ตอร์เรส มีจังหวะตวัดยิงบนกรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบ อีเมอร์สัน หลุดโคนเสานิดเดียว
เจ้าถิ่นทำเกมบุกต่อเนื่อง นาที 56 มาตา ทำชิ่งกับ ตอร์เรส จนหลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษติดเซฟ อาร์เทอร์ บอลมาเข้าทาง ตอร์เรส พยายามดีดด้วยข้างเท้า แต่ก็ไม่ถนัด ทำให้บอลหลุดออกหลังไป “เหยี่ยวลิสบอน” เริ่มเปลี่ยนตัวผู้เล่น เนลสัน โอลิเวียรา และ ยานนิก ยาโล ลงมาแทน คาร์โดโซ และ ไกตัน ขณะที่เจ้าบ้านตัดสินใจพัก เทอร์รี แล้วส่ง แกรี เคฮิลล์ ลงมาคุมแดนหลังแทน
เกมรุกของทีมเยือนวูบวาบทันที ในนาที 65 กองหลัง เชลซี เคลียร์บอลในเขตโทษตัวเองไม่ดี บอลมาเข้าทาง ยาโล ซัดด้วยซ้ายแฉลบหลุดกรอบ จังหวะเตะมุมถัดมา ฆาบี การ์เซีย ได้โขกเน้นๆ แต่บอลตรงตัว เช็ก รับเข้าซอง หลังจากนั้นเจ้าถิ่นได้สวนกลับ มาตา ลากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ กาลู หลุดเข้าไปยิงในกรอบ 18 หลา แต่ อาร์เทอร์ ช่วยเซฟไม่ให้อาคันตุกะเสียประตู
นาที 70 เป็นโอกาสของ “สิงห์บลู” อีกครั้งจากการประสานงานของ มาตา และ กาลู ก่อนที่จังหวะสุดท้ายมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนหลุดเข้าไปซัดมุมแคบ แต่บอลถากเสาสองออกไป ขณะที่ทีมเยือนตอบโต้กลับ โจน คัพเดบียา เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ ยาโล โหม่งเหินข้ามคาน ก่อนที่ เบนฟิกา เปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย โรดริโก ลงมาแทนที่ บรูโน เซซาร์
ทั้งสองทีมผลัดกันแลกคนละหมัด นาที 75 โคล ได้บอลหลุดเข้าไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนผ่านเรียดมาหน้าประตู กาลู ตวัดยิงบอลเฉียดเสาแรก ขณะที่ โอลิเวียรา หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษให้ เบนฟิกา เช่นกัน แต่ เช็ก ป้องกันไม่ให้เจ้าถิ่นถูกตามตีเสมอ ต่อมานาที 79 ไอมาร์ มีโอกาสส่องฟรีคิกระยะ 25 หลา แต่บอลไปตรงตัวนายทวารร่างโย่งอีกครั้ง
กระทั่งนาที 84 ทีมเยือนมาได้ลุ้นเตะมุม ไอมาร์ เปิดบอลมาเข้าหัว ฆาบี การ์เซีย ขึ้นโหม่งคนเดียวผ่านมือ เช็ก ตุงตาข่ายให้ “เหยี่ยวลิสบอน” ตามตีเสมอ 1-1 กลับมามีความหวังในช่วงท้ายเกม ต่อมานาที 87 โอลิเวียรา มีโอกาสปั่นไซด์ก้อยบริเวณกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาสองออกไป
เบนฟิกา ขึงเกมบุกหนักจนทำให้เจ้าถิ่นปั่นป่วนไปทีเดียว แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี ได้โอกาสโต้กลับเร็ว ราอูล เมเรเลศ ตัวสำรองที่ลงมาแทน มาตา กระชากบอลขึ้นไปตะบันหน้าเขตโทษเสียบใต้คานอย่างสวยงามหมดสิทธิ์ที่ อาร์เทอร์ ป้องกันทันให้เจ้าถิ่นนำ 2-1 ก่อนรักษาสกอร์จนจบเกมเอาชนะไป รวมผลสองนัดชนะ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเจอกับ "แชมป์เก่า" บาร์เซโลนา โคตรทีมแดนกระทิงดุ ในวันที่ 18 และ 24 เม.ย.นี้
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่ลาลีกา สเปน เปิดรังซานติอาโก เบอร์นาบิว ถล่มเอาชนะ อาโปเอล นิโคเซีย จากไซปรัส 5-2 รวมผลสองนัดเอาชนะไปขาดลอย 8-2 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปเจอกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ของเยอรมนี
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, ดาวิด ลุยซ์, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ซาโลมง กาลู
เบนฟิกา - อาร์เทอร์, อีเมอร์สัน, ฆาบี การ์เซีย, โจน คัพเดบียา, มักซี เปไรรา, เนมานยา มาติช, เอ็กเซล วิทเซล, บรูโน เซซาร์, นิโคลัส ไกตัน, ออสการ์ คาร์โดโซ, พาโบล ไอมา
