แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมเงินถังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีสิทธิ์ถูกตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ หลังมีรายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) อาจสั่งระงับสัญญาการเป็นผู้สนับสนุน “เรือใบสีฟ้า” ของสายการบินเอติฮัด เนื่องจากเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเจ้าของสโมสร
สายการบินเอติฮัด เข้ามาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของทีมดังย่านอีสต์แลนด์สด้วยวงเงิน 400 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) แต่ล่าสุด สภายุโรป (Council of Europe) ได้เข้ามาตรวจสอบโดยทำรายงานส่ง ยูฟ่า ว่าการทำสัญญาดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดกฎ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ (Financial Fair Play) ซึ่งสโมสรจะต้องใช้จ่ายภายใต้จำนวนรายรับที่ได้มาเท่านั้น
ซึ่งรายงานของสภายุโรปที่ส่งมาถึงมือยูฟ่ามีใจความว่า “สโมสรต่างๆ จะต้องลบข้อสงสัยเรื่องความพยายามในการเพิ่มเงินทำทีมในช่องทางอื่นเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการร้องขอผู้สนับสนุนให้เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเพื่อลดหรือกำจัดตัวเลขที่มีการขาดดุล ซึ่งการสอดส่องดูแลนี้เป็นไปเพื่อการป้องกันไม่ให้หลีกเลี่ยงการทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”
“สำหรับกรณีที่เข้าข่ายดังกล่าว คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีสัญญามูลค่า 400 ล้านปอนด์กับสายการบินเอติฮัด ซึ่ง เอติฮัด เป็นบริษัทของราชวงศ์อาบูดาบี และกลุ่มทุนอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (เอดียูจี) ก็เป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการดำเนินธุรกิจในทางที่ไม่ชอบ ยูฟ่า ก็ควรจะสั่งห้ามสโมสรไม่ให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของอย่างใกล้ชิดมาเป็นผู้สนับสนุน ตลอดจนสังเกตการใช้จ่ายของบรรดาผู้สนับสนุนของสโมสรต่างๆ ไม่ให้ใช้จ่ายเกินขอบเขตที่กำหนด”
ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี ไม่ใช่สโมสรชั้นนำในยุโรปเพียงสโมสรเดียวที่ถูกสภายุโรปจับตามอง แต่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมเศรษฐีใหม่ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ก็ตกเป็นเป้าด้วย เนื่องจากมีเจ้าของสโมสรเป็นหนึ่งในราชวงศ์ของกาตาร์ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “เปแอสเช” ก็เพิ่งประกาศว่าได้ กาตาร์ เนชันแนล แบงค์ ซึ่งดูแลกิจการโดยราชวงศ์กาตาร์เข้ามาทำสัญญาเป็นผู้สนับสนุนใหญ่รายใหม่
สายการบินเอติฮัด เข้ามาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของทีมดังย่านอีสต์แลนด์สด้วยวงเงิน 400 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20,000 ล้านบาท) แต่ล่าสุด สภายุโรป (Council of Europe) ได้เข้ามาตรวจสอบโดยทำรายงานส่ง ยูฟ่า ว่าการทำสัญญาดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดกฎ ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ (Financial Fair Play) ซึ่งสโมสรจะต้องใช้จ่ายภายใต้จำนวนรายรับที่ได้มาเท่านั้น
ซึ่งรายงานของสภายุโรปที่ส่งมาถึงมือยูฟ่ามีใจความว่า “สโมสรต่างๆ จะต้องลบข้อสงสัยเรื่องความพยายามในการเพิ่มเงินทำทีมในช่องทางอื่นเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่นการร้องขอผู้สนับสนุนให้เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเพื่อลดหรือกำจัดตัวเลขที่มีการขาดดุล ซึ่งการสอดส่องดูแลนี้เป็นไปเพื่อการป้องกันไม่ให้หลีกเลี่ยงการทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”
“สำหรับกรณีที่เข้าข่ายดังกล่าว คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีสัญญามูลค่า 400 ล้านปอนด์กับสายการบินเอติฮัด ซึ่ง เอติฮัด เป็นบริษัทของราชวงศ์อาบูดาบี และกลุ่มทุนอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (เอดียูจี) ก็เป็นเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการดำเนินธุรกิจในทางที่ไม่ชอบ ยูฟ่า ก็ควรจะสั่งห้ามสโมสรไม่ให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของอย่างใกล้ชิดมาเป็นผู้สนับสนุน ตลอดจนสังเกตการใช้จ่ายของบรรดาผู้สนับสนุนของสโมสรต่างๆ ไม่ให้ใช้จ่ายเกินขอบเขตที่กำหนด”
ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี ไม่ใช่สโมสรชั้นนำในยุโรปเพียงสโมสรเดียวที่ถูกสภายุโรปจับตามอง แต่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมเศรษฐีใหม่ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ก็ตกเป็นเป้าด้วย เนื่องจากมีเจ้าของสโมสรเป็นหนึ่งในราชวงศ์ของกาตาร์ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “เปแอสเช” ก็เพิ่งประกาศว่าได้ กาตาร์ เนชันแนล แบงค์ ซึ่งดูแลกิจการโดยราชวงศ์กาตาร์เข้ามาทำสัญญาเป็นผู้สนับสนุนใหญ่รายใหม่