เอเยนซี่ - รอรีย์ แมคอิลรอย ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งโปรหมายเลขหนึ่งโลกได้อย่างภาคภูมิ หลังคว้าแชมป์ ฮอนด้า คลาสสิก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชัยชนะเหนืออดีตมือหนึ่งโลกอย่างไทเกอร์ วูดส์ ที่ไล่กวดโปรหนุ่มจากเบลฟาสต์ด้วยการทำเบอร์ดี้และ อีเกิ้ล แต่สุดท้าย รอรีย์ เรียกฟอร์มเก่งของตนเองออกมาทั้งหมดจนเอาเฉือนเอาชนะวูดส์ไปด้วยสกอร์รวมที่เหนือกว่า 2 สโตรก ขณะที่ อดีตโปรหมายเลขหนึ่งโลกผลงานบนสนาม พีจีเอเนชั่นแนล เรียกได้ว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ได้ครองตำแหน่งรองแชมป์จากรายการเดอะเพลเยอร์ ในปี 2009
การแข่งขันวันสุดท้ายของกอล์ฟพีจีเอทัวร์ รายการฮอนด้า คลาสสิก ณ สนาม พีจีเอ เนชันแนล แชมเปียน คอร์ส มีสกอร์ให้ลุ้นอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทเกอร์ วูดส์ นั้นไล่ทำสกอร์ตามรอรีย์ แมคอิลรอย ที่เป็นผู้นำตั้งแต่วันที่สามอยู่สองโสตรก โดยวูดส์ นั้นทำอีเกิลในหลุมที่สามและสี่ เรียกเสียงเชียร์อย่างกึกก้อง จนทำให้โปรให้โปรจากไอร์แลนด์เหนือ นั้นรู้สึกได้ว่าเสียงเชียร์ดังกล่าวต้องไม่ใช่แค่สกอร์เบอร์ดี้ธรรมดาแน่โดย
เมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบในอีกฟากสนาม แน่นอนว่าความกดดันทั้งมวลตกมาอยู่บนสองบ่าของโปรหนุ่มวัย 22 ปี ที่กำลังจะลงเล่นในหลุมซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดที่ยากที่สุดของสนาม พีจีเอ เนชั่นแนล ซึ่งมีชื่อว่า "แบร์ แทรป" (Bear Trap) ซึ่งอยู่ในหลุมที่ 15 – หลุมที่ 17 โดยการประคองตัวของ รอรีย์ กับผลงานเซฟพาร์ทำให้เจ้าตัวสามารถรักษาสกอร์วันสุดท้ายอยู่ที่ 1 อันเดอร์พาร์ 69เมื่อรวมทั้งสี่วันทำให้โปรหนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือ เอาชนะ”พญาเสือ” ที่ตามไล่ล่าไปด้วยผลงานที่เหนือกว่า สองโสตรก คว้าแชมปพร้อมรับเงินรางวัลชนะเลิศ 1,026,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 33 ล้านบาท) และขึ้นครองตำแหน่งโปรหมายเลขหนึ่งโลกไปอย่างสมศักดิ์ศรี
ทั้งนี้รอรีย์ ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันโดยเผยความรู้สึกในช่วงที่ไทเกอร์ วูดส์ กำลังทำสกอร์ไล่ตามชนิดหายใจรดต้นคอว่า "ผมได้ยินเสียงเชียร์ผู้ชมที่ตามก๊วนของไทเกอร์ มันดังมากแม้ว่าเราจะอยู่ห่างกันที่สำคัญเสียงดังกล่าวไม่ได้ดังเพราะวูดส์ทำเบอร์ดี้ แต่มันต้องเหนือกว่านั้นอย่างแน่นอน"
ซึ่งท้ายที่สุดโปรหนุ่มจากเบลฟาสต์ ก็สามารถผ่านความกดดัน และ คว้าแชมป์มาครองได้ซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึง แชมป์และตำแหน่งมือหนึ่งโลกว่า “นี่คือชัยชนะที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้ตัวว่าไทเกอร์ วูดส์ กำลังไล่หลังเรามา และผมก็รู้ดีว่าการเล่นให้ไม่ให้เสียเลยจะเป็นการปลอดภัยที่สุด จบวันด้วยสกอร์ หนึ่งอันเดอร์พาร์ ในสภาพของการแข่งขันแบบนี้ผมถือว่าผลงานที่ดีแล้ว ส่วนตำแหน่งหมือหนึ่งโลกนั้นเป็นเรื่องที่ผมฝันมาตลอดและไม่คิดว่ามันจะมาถึงในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้”
สำหรับ แมคอิลรอย นั้นกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 16 ที่คว้าตำแหน่งโปรหมายเลขหนึ่งโลกไปครอง นับตั้งแต่มีการจัดตั้งเวิลด์กอล์ฟ แรงกิ้งในปี 1986 และเป็นนักกอล์ฟรายที่สี่ในช่วง 16 เดือนนับตั้งแต่ไทเกอร์ วูดส์ อยู่ในตำแหน่งนี้มายาวนานกว่า 5 ปี ซึ่ง การขึ้นสู่ตำแหน่งสูงที่สุดของนักกอล์ฟสำหรับรอรีย์ นั้นเป็นการขึ้นไปแทนตำแหน่งของ ลุค โดนัลด์ โปรชาวอังกฤษ ที่ไม่ได้ลงสนามในรายการนี้ และนอกจากนี้ รอรีย์ ยังกลายเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดรายที่สองที่คว้าตำแหน่งมือหนึ่งโลกไปครอง โดยคนแรกที่ทำได้คือ ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งครองตำแหน่งเดียวกันนี้ในปี 1997 หลังจากคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ในปี 1997 เวลานั้นวูดส์มีอายุ 21 ปี
สำหรับไทเกอร์ วูดส์ นั้นผลงานวันสุดท้ายที่เหวี่ยงสวิงไล่ตามรอรีย์ ด้วยการทำสองอีเกิล จนไล่โปรหนุ่มรุ่นน้องเหลือเพียงแค่สองสโตรก แม้จะไปไม่ถึงแชมป์แต่สกอร์วันสุดท้ายที่พาร์ 62 นับว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เจ้าตัวหวนกลับมาลงสนามอีกครั้ง และนับเป็นรองแชมป์ในพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ปี 2009 ในรายการเดอะทัวร์แชมเปี้ยนชิป ซึ่งการครองตำแหน่งรองแชมป์ของวูดส์ นั้นเป็นอันดับที่สองร่วมกับ ทอม กิลลิส ที่ทำเบอร์ดี้ ในหลุมสุดท้ายและจบวันด้วยสกอร์พาร์ 69
ตามสถิติของ วูดส์ ในอดีตนั้น หากเจ้าตัวสามารถติดอยู่ในลีดเดอร์บอร์ดวันสุดท้ายโอกาสที่แชมป์จะตกเป็นของโปรรายอื่นนั้นเป็นเรื่องยาก และยิ่งผู้นำมีสกอร์ห่างเพียงแค่สองสโตรก “พญาเสือ” ย่อมไล่ตะปบโทรฟี่มาครองได้อย่างไม่ยากเย็น แต่คราวนี้ดูเหมือนสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายเมื่อคู่แข่งของวูดส์ คือโปรอัจฉริยะอย่าง รอรีย์ แมคอิลรอย นักกอล์ฟที่เพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คือนักกอล์ฟรุ่นน้องที่เคยออกมาพูดผ่านสื่อว่า “หมดเวลาของไทเกอร์ วูดส์ แล้ว” ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ดีแต่ปากและเขาคือของจริง
หากฤดูกาลแข่งขันตามตารางของพีจีเอทัวร์ระบุว่าเริ่มต้นไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่าน แต่ถ้าพิจารณาจากการขับเคี่ยวในฮอนด้า คลาสสิก ดูเหมือนยูเอส พีจีเอทัวร์ เพิ่งจะเริ่มต้น โดยเฉพาะการปะทะวงสวิงระหว่าง รอรีย์ และ ไทเกอร์ วูดส์ ที่ เออร์นี่ย์ เอลส์ กล่าวไว้หลังจบการแข่งขันว่า "วูดส์คนเดิมได้กลับมาแล้ว หลังจากนี้การแข่งขันในทัวร์ฯต้องสนุกขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน"
