"สิงห์บลู" เชลซี ของอังเดร-บียาส โบอาส ที่ไม่มี จอห์น เทอร์รี ยืนค้ำแนวรับเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่า บุกไปพ่าย นาโปลี 1-3 ทั้งที่ยิงนำก่อนในครึ่งแรก ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา
ยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
นาโปลี 3-1 เชลซี
ที่สนามสตาดิโอ ซาน เปาโล เนเปิลส์ นาโปลี ทีมอันดับ 6 ของศึกกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี อันดับ 5 แห่งพรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัดนี้ถือเป็นการชี้ชะตาของ อังเดร-บียาส โบอาส กุนซือหนุ่มของ "สิงห์บลู" ว่าจะได้ทำทีมต่อหรือไม่? ด้านแนวรุกทีมเยือนส่ง ดาเนียล สเตอริดจ์ ยืนคู่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดยไม่มี จอห์น เทอร์รี ยืนค้ำแดนหลังเนื่องจากบาดเจ็บต้องพักยาว 2 เดือน ส่วนเจ้าบ้านส่ง 3 ประสาน เอดินสัน คาวานี,เอซกีเอล ลาเวซซี และ มาเร็ค ฮามซิค ป่วนแนวรับเชลซี
เริ่มเกมมา 4 นาที เป็นนาโปลี ที่ได้ทักทายก่อน อินแลร์ วางบอลยาวครึ่งสนามให้คาวานี กระชากบอลหนีแนวรับของเชลซี ไปดวลกับ ปีเตอร์ เช็ค ทว่านายด่านของ "สิงห์บลู" ยังวิ่งออกมาตัดบอลออกหลังได้ทันการณ์ จากนั้นนาทีที่ 9 คาวานี ได้โอกาสซัดอีกครั้งด้วยขวา แต่เช็ก ใช้ขาเซฟช่วยทีมไว้ได้อีกครั้ง
ผ่านไปแค่ 10 นาที ม้านั่งสำรองเชลซีมีการขยับส่ง แอชลีย์ โคล ลงสนามแทน โชเซ โบซิงวา ที่มีปัญหาบาดเจ็บไปปะทะกับ คามปาญาโร กองหลังทีมเจ้าถิ่น ส่วนนาโปลี บุกไม่หยุดหวังยิงประตูนำ นาที 19 ลาเวซซี แทงให้มาจโจ วิ่งเติมไปยิงบริเวณเขตโทษด้านขวา แต่เช็กยังเหนียวโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมอีกรอบ
แต่แล้วนาที 27 เชลซี ที่โดนแนวรุกของนาโปลี เล่นงานอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง กลับมายิงประตูได้จากความผิดพลาดของแนวรับทีมเจ้าบ้าน ดร็อกบา วางบอลโด่งเข้าเขตโทษ แต่คันนาวาโร สกัดบอลพลาดเข้าทางปืนให้มาตาวิ่งมาแปด้วยซ้ายนิ่มๆเข้าไป 1-0 เล่นเอาแฟนทีมเยือน และ โบอาส สะใจทั้งสนาม
หลังได้ประตู ลูกทีมของโบอาส ได้ใจบุกขึ้นมายิงประตูเรื่อยๆ แต่ยังทำไม่ได้ กระทั่งนาที 38 นาโปลี ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกยิงของ ลาเวซซี ที่ฝ่าแนวรับวิ่งขึ้นมายิงนอกกรอบเขตโทษผ่านมือ เช็ค เข้าไป และท้ายครึ่งแรก ฮามซิค เปิดบอลจากฝั่งขวาให้ คาวานี กระโดดสะบัดหัวไหล่พาบอลซุกตาข่ายเป็น 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกแลกหวังยิงประตู แต่ยังไม่มีฝ่ายใดทำได้ นาที 50 มาตา วิ่งมากดด้วยซ้ายนอกเขตโทษแต่ไปตรงตัว เดอ ซานติส ก่อนที่นาโปลี ฉวยโอกาสเล่นเกมสวนกลับอย่างรวดเร็ว คาวานี ป้ายออกขวาให้ลาเวซซี ลากขึ้นไปมุมกะโหลกฝั่งซ้าย แต่ซัดด้วยซ้ายบอลกลิ้งผ่านเสาไกลออกไปนิดเดียว
เกมรุกของเจ้าถิ่นดูตื้อไปถนัดตา กลายเป็น เชลซี ฮึดไล่บี้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และเกือบตีเสมอได้นาที 59 โคล เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าเป้าให้ดร็อกบา เตรียมสับไกสังหารแต่อโรนิกา มาสะกิดบอลออกหลังไปได้ก่อน ส่วน เคฮิลล์ ก็เทกตัวโหม่งจากลูกเปิดมุม แต่บอลออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม เกมรับของเชลซีแสดงให้เห็นความผิดพลาดอีกครั้งนาที 65 และมาเสียประตูให้นาโปลีขึ้นนำ 3-1 คามปาญาโร เปิดบอลครึ่งสนามให้คาวานี วิ่งไปป้ายบอลออกซ้าย ก่อนที่ลาเวซซี จะวิ่งมายิงตูมเดียวเข้าประตูไปชนิดที่ ปีเตอร์ เช็ก หมดสิทธิ์เซฟช่วยทีมไว้ได้ ทำให้โบอาส ต้องแก้เกมส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด และ มิเกล เอสเซียง เล่นแทน มาลูดา และ เมยเรเลส นาที 70
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย นาโปลี เกือบได้ประตูหนีห่างจากลูกยิงระยะไม่เกิน 5 หลาของมาจโจ แต่เป็น โคล ที่ใช้ขาสกัดบอลได้จากเส้นประตู และสุดท้ายก็ไม่มีฝ่ายทำประตูเพิ่มได้ จบเกม นาโปลี เปิดบ้านชนะ เชลซี 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายแทบครึ่งค่อนตัว ส่วนเชลซี หากยังหวังตีตั๋วเข้ารอบต่อไป จำเป็นต้องยิงเอาชนะ 2-0 ให้ได้ในการเล่นเกมในบ้านนัดหน้า เนื่องจากมีประตูทีมเยือนอยู่ในมือหนึ่งลูกแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นาโปลี : มอร์แกน เดอ ซานติส,เปาโล คันนาวาโร,ซัลวาตอเร อโรนิกา,ฮูโก คามปาญาโร,วอลเตอร์ การ์กาโน,กอกคาน อินแลร์,ฮวน ซูนิกา,คริสเตียน มาจโจ,มาเร็ค ฮามซิค,เอดินสัน คาวานี,เอซกีเอล ลาเวซซี
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค,แกรี เคฮิลล์,ดาบิด ลุยซ์,โชเซ โบซิงวา,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ราอูล เมเรยเลส,ฟลอร็องต์ มาลูดา,รามิเรส,ฮวน มาตา,ดิดิเยร์ ดร็อกบา,ดาเนียล สเตอร์ริดจ์