เอเยนซี-อังเดร บียาส-โบอาส เตรียมฝ่าด่านสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อขาเก้าอี้กุนซือประจำถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยการยกพล เชลซี ไปเยือนถิ่น ซาน เปาโล ของ นาโปลี เพื่อทำศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ โดยอาจจะหั่น เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปนชุดแชมป์โลก 2010 ที่ฟอร์มกำลังกู่ไม่กลับ
อาร์เซนอล และ เชลซี คือ 2 ตัวแทนจากอังกฤษที่เหลือรอดถึงรอบน็อกเอาท์ แชมเปียนส์ ลีก แต่รายแรกตกรอบไปแล้วครึ่งตัวหลังจากนัดแรกเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบุกพ่าย เอซี มิลาน 0-4 ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของอีกทีมจากกรุงลอนดอนเช่นเดียวกันที่จะต้องกู้หน้า แต่เหนืออื่นใด โบอาส นายใหญ่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ต้องสู้เพื่อตัวเอง เนื่องจากจำเป็นต้องมีถ้วยติดมือ เพราะผลงานบนเวที พรีเมียร์ชิป ไม่สู้ดีรูดรั้งอันดับ 5 ส่วนศึก เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมต้องรีเพลย์หลัง 3 วันก่อนหน้านี้เล่นในรังต้องไล่ตีเสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี 1-1
สื่อพยายามกดดัน โบอาส ด้วยการเกาะติดความเคลื่อนไหวของ โรมัน อบราโมวิช เพราะเจ้าของทีมมหาเศรษฐีชาวรัสเซียระยะหลังไม่ค่อยอดทนกับการให้เวลากุนซือพิสูจน์ตัวเองเคยไล่ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ที่คุมไม่ถึงฤดูกาลออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม กุส ฮิดดิงค์ ที่เคยดึงเข้ามาทำทีมระยะสั้นจนได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2009 หนีไปรับงานกุมบังเหียน อันซี มาคาชคาลา
ดังนั้นเกมเยือน นาโปลี อาจเป็นการชี้ชะตา โบอาส ที่พา ปอร์โต คว้าทริปเปิลแชมป์เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อนจะผละมารับงานที่ เชลซี เพราะ อบราโมวิช อยากสัมผัสถ้วย แชมเปียนส์ ลีก ทั้ง โชเซ มูรินโญ อัฟราม แกรนท์ และ คาร์โล อันเชล็อตติ ต่างไม่สามารถพาทีมไปถึงฝั่งฝัน ขนาดรายหลังสุดกุนซือชาวอิตาเลี่ยนได้แชมป์ พรีเมียร์ชิป และ เอฟเอ คัพ ยังต้องโบกมือลาทีมไปเลย
เชลซี ชนะเพียงแค่ 2 นัดจาก 10 เกมหลังสุดในลีก ทำให้ก่อนเกม โบอาส ต้องออกมากระตุ้นลูกทีม "เราจำต้องการแรงผลักดันพิเศษในเรื่องของหัวจิตหัวใจโดยเฉพาะความเชื่อมั่นบนสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ จะมาพร้อมผลการแข่งขันที่ดีจากนั้นก็จะกลับเข้าสู่วงโคจรของมันเพื่อคว้าชัยให้ได้ต่อเนื่อง แม้ นาโปลี จะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่ว่าเราก็มีดีพอตัวเหมือนกัน"
ความพร้อมของทีมเยือน โบอาส ยังยึดระบบ 4-3-3 แต่กองหน้าตัวเป้าจะไม่ใช่หน้าที่ของ ตอร์เรส หลังพิสูจน์ตัวเองไม่สำเร็จช่วงที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ไปรับใช้ชาติศึก แอฟริกัน เนชันส์ คัพ ก่อนจะอกหักแพ้จุดโทษ แซมเบีย ในนัดชิงได้พักและพร้อมลงเล่นในเกมนี้ ตัวสนับสนุน 2 ฝั่งคงเป็น ฮวน มาตา กับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ส่วนกองกลาง แฟรงค์ แลมพาร์ด อาจได้สตาร์ทตัวจริงหลังเป็นสำรองเกม เอฟเอ คัพ ที่เสมอ เบอร์มิงแฮม ส่วนแนวรับมีข่าวดี จอห์น เทอร์รี อาจสลัดอาการบาดเจ็บลงคุมแผงบิ๊กโฟร์ เช่นเดียวกับ แอชลีย์ โคล แบ็กซ้าย
ส่วนเจ้าถิ่น นาโปลี ผ่านด่านหินกรุ๊ปออฟเดธเข้ามาได้ ผลงานใน กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ถือว่าตกลงไปเล็กน้อยรั้งอันดับ 6 แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบุกถล่ม ฟิออเรนตินา 3-0 แต่เกมนี้จะไม่มี วอลเตอร์ มาสซาร์รี ที่ทำได้แค่นั่งดูบนอัฒจันทร์เนื่องจากติดโทษห้ามคุมทัพข้างสนาม หลังจากผลักนักเตะคู่ต่อสู้รอบแบ่งกลุ่ม
แต่ถือว่าขุมกำลังของยอดทีมจากเมืองเนเปิลส์น่ากลัวโดยเฉพาะ 3 ประสานแนวรุกทั้งคู่หน้า เอดินสัน ควานี กับ เอซกีเอล ลาเวสซี และตัวรุกอย่าง มาเร็ค ฮามซิค แต่ไม่มี ฮูโก คัมปาญาโน กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ ทว่าตัวตัดเกมห้องเครื่องที่น่าจะสู้กับ เชลซี อย่างพอฟัดพอเหวี่ยงก็มีทั้ง ก็อคคาน อินแลร์ และ วอลเตอร์ การ์โน
ก่อนเกม คาวานี ที่ซัดไปแล้ว 15 ประตูผลงานยังดีต่อเนื่องจากปีที่แล้วกล่าวขู่อาคันตุกะจากรุงลอนดอนว่า "เรากำลังมองไปถึงเกม แชมเปียนส์ ลีก อังคารนี้อย่างใจจดจ่อน่าจะเป็นแมตช์ที่ยอดเยี่ยม ทีมตั้งใจจะทำผลงานการแข่งขันที่ดีมาฝากแฟนบอลที่ตามเข้ามาเชียร์ในถิ่น ซาน เปาโล อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้รายนี้ก็จะเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน"