ทีมชาติไทย เล่นได้ดีขึ้นจากนัดแรกแต่ยังจบสกอร์ไม่เฉียบขาดก่อนถูก นอร์เวย์ บดบี้เอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 1-0 ส่งผลให้ "ช้างศึก" ยังไม่มีคะแนน หมดโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 41 แน่นอนแล้ว
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 41 นัดที่ 2
ไทย 0–1 นอร์เวย์
ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทีมชาติไทย ลงแข่งนัดที่สองกับ นอร์เวย์ ในสถานการณ์หลังพิงฝาโดยต้องเอาชนะสถานเดียวจึงจะมีลุ้นคว้าแชมป์ เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง ศราวุธ มาสุข ดาวรุ่งตัวจี๊ดจาก จามจุรี ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกมาแทน สมปอง สอเหลบ ลงทำเกมริมเส้นฝั่งขวา ส่วน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กลับมาเฝ้าเสาแทน กวิน ธรรมสัจจานันท์ ขณะที่กองหน้าตัวเป้าใช้ กีรติ เขียวสมบัติ ด้าน “ไวกิ้ง” นำทัพโดย แม็กนุส เอเครม กองกลางตัวคุมเกม อดีตเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และศูนย์หน้า โจ อิง เก เบอร์เกต
เริ่มเกมทั้งสองทีมต่างเปิดฉากบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้น ก่อนที่ “ช้างศึก” จะได้ลุ้นหวาดเสียวในนาทีที่ 3 เมื่อ ศราวุธ พาบอลขี้นมาทางขวาแล้วจ่ายย้อนกลับมาให้ สุมัญญา ปุริสาย กดหน้าเขตโทษส่งบอลหลุดเสาสองออกหลัง จากนั้นนาทีที่ 20 สุรีย์ สุขะ วางบอลยาวให้ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ดูดบอลลงในเขตโทษแล้วแตะคืนมาให้ กีรติ กดด้วยซ้าย แต่ลูกเบาเกินไปจึงถูก เอสเพน เพ็ตเตอร์เซน ล้มตัวรับไว้ได้
นาทีที่ 21 ไทย น่าได้ประตูอย่างยิ่งจากการต่อบอลขึ้นมาอย่างสวยงามทางฝั่งขวาก่อนที่ สุรีย์ จะล็อกหลบ ลาร์ส วิลส์วิค จนหลังหักแล้วตะบันในเขตโทษด้วยซ้าย ทว่า เพ็ตเตอร์เซน ยังทุบทิ้งออกไปได้ก่อนบอลเสียบเสาแรก ขณะที่ นอร์เวย์ ก็เกือบมีสกอร์เช่นกันในอีก 5 นาทีต่อมา เมื่อ มาร์คุส เฮนริคเซน ลองส่องหน้าเขตโทษ ทว่า สินทวีชัย ยังล้มตัวปัดออกหลังไปได้ นาทีที่ 44 ไวกิ้ง น่าได้ประตูอย่างยิ่ง เมื่อ ฮาร์มีท ซิงห์ จ่ายทะลุช่องให้ เบอร์เกต หลุดเข้าไปล่อเป้า แต่ สินทวีชัย ยังล้มตัวเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง ไทย ทยอยเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายรายโดยหนึ่งในนั้นมี “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวหลักที่ยังไม่ฟิตเต็มร้อยถูกเข็นลงสนามด้วย แต่ทีมเยือนเกือบเจาะตาข่ายได้นาทีที่ 62 จากจังหวะที่ วาลอน เบริชา กลับตัวยิงเน้นๆ ในเขตโทษลูกทำท่าจะเสียบเสาสอง แต่ สินทวีชัย โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นนาทีที่ 68 ก็เป็นทีของ “ช้างศึก” บ้างหลังจาก เอฟเวน ฮอฟแลนด์ สกัดบอลไม่ดีจนถูก ธีรศิลป์ ฉกเข้าไปกระดกบอลข้ามตัว เพ็ตเตอร์เซน ทว่าลูกลอยไปตกบนตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
ผ่านมาถึงนาทีที่ 79 ทีมเยือนคุกคามได้น่ากลัวอีกครั้งจากจังหวะที่ แม็กนุส เอเครม เปิดฟรีคิกมุมธงด้านขวาให้ เฮนริคเซน โฉบเข้ามาโหม่งที่เสาแรกเฉี่ยวสามเหลี่ยมเสาไกลนิดเดียวก่อนที่จะพังประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 84 จากจังหวะที่ สินทวีชัย ตัดบอลเปิดจากด้านข้างไม่ดี ลูกหลุดไปถึง ทอเร เรกินุสเซน ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลังชาร์จเผาขนไม่เหลือ
จากนั้นนาทีที่ 87 "ช้างศึก" ชวดตีเสมออย่างน่าเจ็บใจเมื่อ สุรชาติ สารีพิมพ์ กองหน้าที่ลงมาแทน "ลีซอ" ได้หลุดเข้าไปกระทุ้งในเขตโทษด้านขวา แต่ เพ็ตเตอร์เซน ก็ยังออกมาบล็อกได้ไว กระทั่งจบเกม นอร์เวย์ เฉือนชนะ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน แต่ยังรั้งอันดับ 2 เนื่องจาก เกาหลีใต้ ที่มี 4 แต้มเท่ากันจากการเสมอ เดนมาร์ก 0-0 ในคู่แรกมีผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า ขณะที่ ไทย แข่ง 2 นัดยังไม่มีคะแนน อยู่อันดับสุดท้าย หมดลุ้นแชมป์แน่นอนแล้ว โดยเหลือโปรแกรมอีก 1 นัดในวันเสาร์ที่ 21 มกราคมนี้ ซึ่งจะพบ เดนมาร์ก ในเวลา 19.00 น.
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ไทย – ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กองหลัง สุรีย์ สุขะ, ชลทิตย์ จันทคาม, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ศุภชัย คมศิลป์ กองกลาง ศราวุธ มาสุข, จักรพันธ์ แก้วพรม, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าตัวต่ำ สุมัญญา ปุริสาย กองหน้าตัวเป้า กีรติ เขียวสมบัติ
นอร์เวย์ – ผู้รักษาประตู เอสเพน เพ็ตเตอร์เซน กองหลัง สเตฟเฟน ฮาเกน, เอฟเวน ฮอฟแลนด์, เวการ์ด ฟอร์เรน, ลาร์ส วิลส์วิค กองกลาง ทาริค เอลยูนุสซี, มาร์คุส เฮนริคเซน, แม็กนุส เอเครม, ฮาร์มีท ซิงห์, ,วาลอน เบริชา กองหน้า โจ อิงเก เบอร์เกต