"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังรักษาฟอร์มการเล่นแข็งแกร่งไว้ได้ต่อเนื่อง ภายหลังบุกไปเอาชนะ เชลซี ถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 ในศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ร่วงหลังพ่ายให้แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1
ฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล
เกมคาร์ลิง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย "สิงห์บลู" เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เกมวันนี้ อังเดร บียาส-โบอาส จัดทีมสำรองพร้อมส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสเปนเจอกับทีมเก่า ส่วนลิเวอร์พูลของ เคนนี ดัลกลิช ใช้แอนดี คาร์โรล จับคู่ล่าตาข่ายกับ เครก เบลลามี ที่กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังเกมลีกนัดล่าสุดขอไม่ลงสนามเนื่องจากทำใจไม่ได้กับการเสียชีวิตของ แกรี สปีด ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ เพื่อนรักที่จากไปแบบปริศนา
เริ่มเกมได้ไม่นานเชลซีหวุดหวิดได้ลูกจุดโทษ หลังโคอาเตส เสียบสกัดใส่ ดาวิด ลุยซ์ ที่ควบบอลขึ้นมาล้มในกรอบเขตโทษ แต่ ฟิล ดาวน์ ผู้ตัดสินในเกมกลับเรียกให้ลุยซ์ ลุกขึ้นมาแถมควักใบเหลืองให้ หลังเจ้าตัวมองว่าลุยซ์ เจตนาพุ่งล้มเอาจุดโทษ ส่วนหงส์แดงได้ลุ้นบ้าง นาทีที่ 11 คาร์โรล ตวัดตัวยิงหน้าเขตโทษ แต่บอลออกหลังไป
แต่เมื่อเข้าสู่นาที 20 ลิเวอร์พูลก็ได้จุดโทษ จากการเจตนาทำแฮนด์บอลของอเล็กซ์ แต่โชคร้าย แอนดี คาร์โรล ผู้รับหน้าที่ซัดจุดโทษกลับยิงไปตรงตัว รอส เทิร์นบูล เซฟไว้ได้หวุดหวิด ส่วนนาที 25 แลมพาร์ด เกือบยิงประตูขึ้นนำให้เชลซีได้จากนอกเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
ท้ายครึ่งแรก มาลูดา เปิดบอลจากกราบขวาเข้าตรงกลางให้ ลูกากู โขกเหน่งๆ แต่บอลออกเสาแรก ส่วนหงส์แดง เกือบได้จุดโทษอีกรอบ หลังคาร์โรล โดนลุยซ์สะกิดล้ม แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้เป่าเป็นจุดโทษแต่อย่างใด จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลัง "สิงห์บลู" เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะขลุกขลิกหน้าประตู และเป็นลุยซ์ ฉวยโอกาสสะบัดศรีษะโหม่งเต็มๆ แต่โคอาเตส วิ่งมาเอาตัวบล็อกไว้ได้ทันทำให้หงส์แดงยังไม่เสียประตู แตั่นใดนั้นเองจังหวะสวนกลับนาที 57 เฮนเดอร์สัน จ่ายทะลุช่องทางขวาให้เบลลามี ควบบอลหลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนป้ายไปทางซ้ายให้มักซีที่รออยู่โล่งๆ ซัดเข้าไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูลนำก่อน 1-0
จากนั้นนาที 62 เดอะ ค็อป ก็ได้เฮลั่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อหงส์แดงออกนำเป็น 2-0 จังหวะฟรีคิกของเบลลามี วางยาวเข้ามาให้เคลลี ยืนโขกเหน่งๆลงพื้นเข้าประตูไป เล่นเอาเจ้าบ้านตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้ง ร้อนถึง อังเดร บียาส-โบอาส ต้องแก้เกมส่ง ฆวน มาตา เล่นแทน ลูกากู และ นิโกลาส์ อเนลกา แทนที่ของมาลูดา ส่วนเคนนี ดัลกลิช ก็ส่ง ชาร์ลี อดัม เล่นแทน ลูคัส ที่บาดเจ็บหัวเข่า
ท้ายเกม เจ้าบ้านโหมบุกกระหน่ำ แต่ไม่สามารถยิงประตูทีมเยือนได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ เชลซี ถึงกรุงลอนดอน 2-0 ตีตั๋วเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้ก่อนเป็นทีมแรก ส่วนเชลซี ยุติเส้นทางลุ้นแชมป์ไว้เพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ที่น่าสนใจ อาร์เซนอล ต้องพบกับความชอกช้ำ หลังเจอทีเด็ดของ เซร์คิโอ อกูเอโร ยิงประตูช่วงท้ายเกมนาที 83 ส่งผลให้ทีมเรือใบสีฟ้า บุกมาเอาชนะอาร์เซนอลถึงถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศตามลิเวอร์พูลไปอีกทีม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : รอส เทิร์นบูล,โชเซ โบซิงวา,อเล็กซ์,ไรอัน เบอร์ทรานด์,ดาวิด ลุยซ์,แฟรงค์ แลมพาร์ด,ฟลอร็องต์ มาลูดา,โอริโอล โรเมอู,โจชัวร์ แม็คเอคราน,เฟร์นานโด ตอร์เรส,โรเมลู ลูกากู
ลิเวอร์พูล : โชเซ เรนา,เจมี คาร์ราเกอร์,โชเซ เอ็นริเก,มาร์ติน เคลลี,เซบาสเตียน โคอาเตส,ลูคัส เลวา,มักซี โรดริเกซ,เจย์ สเปียร์ริง,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,เครก เบลลามี,แอนดี คาร์โรล
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 2-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์เซนอล 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี