ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ถล่ม โบลตันไป 3-1 จาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,มาร์ติน สเคอร์เทล และ ชาร์ลี อดัม ในเกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมเบียดเชลซี ขึ้นแท่นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเป็นที่เรียบร้อย
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-1 โบลตัน
เกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 7 ของตาราง เปิดแอนฟิล์ด รับการมาเยือนของ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน ซึ่งหากเกมนี้ "หงส์แดง" เก็บ 3 คะแนนได้ ก็จะมีลุ้นขึ้นตำแหน่งจ่าฝูงทันที
เริ่มเกมได้ 2 นาที หงส์แดงได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา จากจังหวะฟาลว์ของไนเจล รีโอ-โคเกอร์ ก่อนที่อดัม สังหารด้วยซ้ายแต่บอลไปติดกำแพงผู้เล่นของโบลตัน และโดนเคลียร์ทิ้งออกไปได้ จากนั้นนาทีที่ 7 ดาวนิง รับบอลจากเฮนเดอร์สัน ตรงแดนกลาง วิ่งควบไปดวลกับผู้รักษาประตู สุดท้ายโดนแนวรับของโบลตัน วิ่งมาสกัดไว้ได้ทัน
ลิเวอร์พูลบุกต่อเนื่อง จนนาทีที่ 14 หงส์ก็ได้ประตูขึ้นนำ ซัวเรซ เปิดบอลโค้งไปให้ดาวนิง ยิงติดเซฟยัสเคลายเนน บอลลอยไปเข้าทางเคาท์ ก่อนจ่ายให้เฮนเดอร์สัน ซัดประตูแรกของตัวเองกับทีมเป็น 1-0 จากนั้นโบลตันหาโอกาสเอาคืนบ้าง นาที 17 เปตรอฟ ยิงจากมุมเสาแรก แต่เรนายังเซฟไว้ได้
โบลตันยังเดินเกมตามถนัดไม่ได้ นาที 21 เกือบเสียประตูเพิ่ม เฮนเดอร์สัน เปิดบอลจากด้านขวา แต่เคาท์ วิ่งมาชาร์จไม่ทัน บอลหลุดออกหลังไป นาที 23 ดาวนิง แทงให้ซัวเรซ ควบบอลหลุดกับดักล้ำหน้า สุดท้ายชิปบอลแรงเกิน บอลลอยข้ามคานอย่างน่าเสียดาย จากนั้น มาร์ติน สเคอร์เทล ถูกส่งลงมาแทน มาร์ติน เคลลี ที่มีปัญหาบาดเจ็บ
นาที 32 ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้ จังหวะเปิดมุมให้อิวาน คลาสนิก วิ่งมาชาร์จ แต่บอลโดนหน้าแข้งออกข้างไป จากนั้นนาที 35 ซัวเรซ เปิดบอลเลี้ยวผ่านหน้าประตูให้เฮนเดอร์สัน โหม่งชงเข้าจังหวะสังหารของเคาท์ แต่ยิงไปตรงตัวยัสเคลายเนน หงส์ยังบวกประตูเพิ่มไม่ได้
ลิเวอร์พูลได้ลุ้นส่งท้ายครึ่งแรก ซัวเรซ วางบอลยาวไปให้เคาท์ทางขวา ก่อนพาบอลเข้ากรอบเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงเอง แต่บอลลอยข้ามคานไป จากนั้นก็สไตน์สสัน กองหลังทีมเยือนไปทำแฮนด์บอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกฟรีคิก และเป็นดาวนิง ยิงออกหลัง จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลขึ้นนำโบลตันไปก่อน 1-0
ครึ่งหลัง ซัวเรซ โดนแผงหลังของโบลตันแซะล้มในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ฟาล์วกับเจ้าบ้าน นาที 49 ซัวเรซ แทงออกทางขวาให้เฮนเดอร์สัน เปิดยาวเข้าหน้าเขตโทษ สุดท้ายบอลชนเสาออกหลังไปและนาที 51 ลิเวอร์พูลก็ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 อดัม เปิดมุมจากด้านขวา ก่อนที่สเคอร์เทล สลัดตัวประกบวิ่งมาโหม่งเข้าประตูแบบไม่เหลือ จากนั้นได้เพิ่มอีก นาที 52 เคาท์ จ่ายให้อดัม ยิงลอดขาแซท ไนท์ เข้าประตูอย่างเหนือชั้น เจ้าบ้านบวกเพิ่มเป็น 3-0
โบลตันแทบไม่มีโอกาสขึ้นมาเล่นในแดนของลิเวอร์พูลช่วงครึ่งหลัง แต่นาที 66 คลาสนิก ได้โอกาสยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่กองหลังเจ้าบ้านยังวิ่งมาสกัดได้ทัน จากนั้นลิเวอร์พูลยังไม่ผ่อนเกม บุกแหลกเหมือนเดิม แต่ยังบวกประตูเพิ่มไม่ได้
หงส์แดงเกือบได้จุดโทษนาที 75 พอล โรบินสัน สกัดซัวเรซ จากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินยังไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ เล่นเอาแฟนบอลโห่กันเกรียว จากนั้น เคนนี ดัลกลิช กุนซือเจ้าบ้านส่ง มักซี โรดริเกซ และ แอนดี คาร์โรล ลงมาแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
ช่วงท้าย โบลตัน พยายามทวงประตูคืนจนทำสำเร็จ คาร์ราเกอร์ จับบอลพลาดถูก เปตรอฟ ฉก โดยวิ่งจี้จะแก้ตัวแต่กลายเป็นจิ้มบอลเข้าทาง อิวาน คลาสนิก ยิงเป็น 1-3 จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะโบลตัน 3-1 เป็นชัยชนะนัดที่ 2 ของฤดูกาลนี้ของหงส์แดง และผลดังกล่าวส่งให้ลิเวอร์พูล เบียดเชลซีขึ้นครองตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ หลังมีประตูได้เสียดีกว่า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โชเซ เรนา,ดาเนียล แอ็กเกอร์,เจมี คาร์ราเกอร์,โชเซ เอ็นริเก,มาร์ติน เคลลี,ชาร์ลี อดัม,ลูคัส เลวา,สจ๊วต ดาวนิง,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,หลุยส์ ซัวเรซ,เดิร์กเคาท์
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคลายเนน,แซท ไนท์,แกรี เคฮิลล์,พอล โรบินสัน,เกรตาร์ สไตน์สสัน,ฟาบริซ มูอัมบา,ไนเจล รีโอ-โคเกอร์,มาร์ติน เปตรอฟ,คริส อีเกิลส์,อิวาน คลาสนิก,เควิน เดวียส์