การที่ลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ล็อกเอาท์นานเกิน จากการล่าช้าในการเจรจาระหว่าง บรรดาเจ้าของทีมกับสหภาพผู้เล่น (NBPA) จึงก่อให้เกิดผลกระทบเรื่องยอดขายเสื้อที่ลดลงฮวบทีเดียว
นับตั้งแต่ "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ฉบับเก่าหมดลงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม เดวิด สเติร์น ประธาน NBA ใช้เวลาถึง 147 วัน ในการเรียกตัวแทนเจ้าของทีม (30 แฟรนไชส์) มานั่งถกรายละเอียดการต่อสัญญากับฟากสหภาพผู้เล่น จนลุล่วงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี จากความล่าช้าในการปลดล็อกเอาท์ ส่งผลเสียต่อเรื่องธุรกิจการขายเสื้อแข่ง NBA อย่างยิ่ง โดย มาร์แชล โคเฮน หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องกีฬาเผยกับสำนักข่าว NBC ของสหรัฐฯ ทำนองว่า "การล็อกเอาท์นำมาซึ่งความเจ็บปวดแก่เรา โดยเสื้อแข่ง NBA อย่างเช่น เลอบรอน เจมส์ ของไมอามี ฮีท ฤดูกาลก่อนขายได้มากที่สุด แต่ตอนนี้ลดลงไปถึง 38 เปอร์เซ็นต์ แม้หลังเสร็จสิ้นการล็อกเอาท์ แต่บรรดาผู้ค้าปลีกคงต้องลดราคาขายกันลงมา"
มีรายงานว่าเมื่อฤดูกาลก่อน สินค้าทั้งหลายของ NBA ขายได้เงินถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท) ทว่าเมื่อจำนวนเกมลดลงถึง 480 เกม ทำให้ยอดขายในปีนี้คงเหลือเพียง 1 พันล้านเหรียญฯ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) โดยบรรดาร้านค้าของ NBA คงต้องทำโปรโมชันลดราคากันลง 15-20 เปอร์เซ็นต์ หรือสินค้าบางรายการอาจต้องขายตัดราคากันครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
