สหภาพผู้เล่นบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBPA) ปฏิเสธข้อเสนอครั้งล่าสุดจากเจ้าของทีมในเรื่องส่วนแบ่งรายได้และเตรียมต่อสู้ทางกฎหมายจนสุ่มเสี่ยงทำให้ฤดูกาล 2011-2012 อาจต้องยกเลิก
การเจรจาระหว่างสหภาพผู้เล่นกับเจ้าของทีม NBA เพื่อต่อสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ฉบับใหม่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยประเด็นปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับส่วนแบ่งรายได้ที่มีมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท)
ผู้เล่นต้องการส่วนแบ่งรายได้ 52.5 เปอร์เซนต์ ซึ่งน้อยกว่าฉบับเก่าที่ได้รับ 57 เปอร์เซนต์ แต่เจ้าของทีมเสนอแบ่งรายได้แก่ผู้เล่นระหว่าง 49 - 51 เปอร์เซนต์
สำหรับการเจรจาครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) เจ้าของทีมยื่นข้อเสนอให้แบ่งรายได้กันคนละครึ่ง 50-50 เปอร์เซนต์ ถ้าหากสหภาพผู้เล่นยอมรับข้อเสนอใหม่นี้ ฤดูกาล 2011-12 ซึ่งถูกลดโปรแกรมการแข่งขันเหลือ 72 เกมก็จะสามารถเริ่มตามกำหนดการในวันที่ 15 ธันวาคมตามได้
แต่ปรากฎว่าสหภาพผู้เล่นไม่ยอมรับข้อเสนอใหม่ โดย บิลลี ฮันเตอร์ ผู้อำนวยการของสหภาพผู้เล่น เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวว่า การเจรจาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังกล่าวว่าอาจยุบสหภาพผู้เล่นทิ้งและใช้กระบวนการทางกฎหมายแทน
"เราเตรียมฟ้อง เอ็นบีเอ ในข้อหาละเมิดกฎหมายด้านการผูกขาด (Anti-trust) นั้นเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นสามารถดำเนินการต่อไปได้ การเจรจาข้อตกลงสิทธิประโยชน์ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง" ฮันเตอร์ กล่าว
ขณะที่ ดีเร็ค ฟิสเชอร์ ประธานสหภาพผู้เล่น กล่าวเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่น ข้อตกลงนี้มีผลเกี่ยวพันกับอาชีพของผู้เล่นทุกคนไม่ใช่คนหนึ่งคนใดในห้องนี้ เราไม่ต้องการให้การทำข้อตกลงจบๆไปเพียงแค่วันนี้ แต่เรามองถึงอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือมากกว่านั้น"
