xs
xsm
sm
md
lg

ผียิงสาลิกา 10 ตัวไม่เข้าเจ๊า 1-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมรุกกระหน่ำระลอกแล้วระลอกเล่าแต่ก็เจาะ นิวคาสเซิล ไม่สำเร็จ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกกระหน่ำเข้าใส่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คนในช่วงท้ายเกมอย่างบ้าคลั่ง แต่สุดท้ายก็เจาะไม่เข้ารวมทั้งถูก ทิม ครูล โชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้ง ทำให้จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2554
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

บิ๊กแมตช์ประจำคืนวันเสาร์ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเปิดบ้านต้อนรับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ที่เพิ่งปราชัยหนแรกในฤดูกาลนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยการพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี เกมนี้เจ้าถิ่นได้ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษหายเจ็บสะโพกกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ อีกครั้ง แต่ก็เพิ่งเสีย อันแดร์สัน ที่เจ็บเข่าพักยาวจนถึงต้นปีหน้า

ส่วนทีมเยือนไร้เงา ชีค ติโอเต กองกลางตัวตัดเกมที่เจ็บเข่า และ ลีออน เบสต์ หัวหอกที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ขณะเดียวกันก็ส่งเด็กเก่าของเจ้าบ้านอย่าง กาเบรียล โอแบร์ตอง และ แดนนี ซิมป์สัน ลงสนามพร้อมกัน ด้านแดนหน้าใช้บริการของ อาเต็ม เบน อาร์ฟา กับ เดมบา บา

เปิดฉากในช่วงแรก “ปิศาจแดง” มีลุ้นก่อนโดย ชิชาริโต ได้โอกาสซัด 2 หนในนาทีที่ 6 และ 7 ตามลำดับ แต่ก็ไม่ผ่านมือ ทิม ครูล ส่วน “สาลิกาดง” ก็ตอบโต้คืนในนาทีที่ 11 เมื่อ เบน อาร์ฟา วางบอลให้ บา จับบอลลงแล้วกดเรียด ทว่า ดาบิด เด เคอา ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ก่อนที่บอลจะเสียบเสาแรก ตามด้วยนาทีที่ 19 โอแบร์ตอง โยกหลอก ปาทริซ เอฟรา แล้วหยอดไปที่เสาไกลให้ ไรอัน เทย์เลอร์ เติมขึ้นมายิงแต่โดนไม่เต็มเท้า ลูกเข้ามือ เด เคอา

ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตู 2 ครั้งติดต่อกัน เริ่มจากจังหวะสวนกลับนาทีที่ 30 หลุยส์ นานี จ่ายทะลุช่องให้ ชิชาริโต หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษทว่าเสียหลักเนื่องจากสนามลื่นทำให้ช้อนใต้ลูกโด่งหลุดกรอบไปไกล จากนั้นนาทีที่ 31 ฟาบิโอ ดา ซิลวา วางบอลจากกราบขวาให้ ไรอัน กิกส์ โฉบเข้ามาดีดเล่นทาง แต่ ทิม ครูล โชว์ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่ทันไร ปิศาจแดงก็ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 49 จากจังหวะที่ รูนีย์ ปั่นฟรีคิกไปติดกำแพงแล้วกระดอนมาให้ซ้ำอีกครั้ง สตีเวน เทย์เลอร์ พยายามสกัดแต่ลูกไปติดตัว ชิชาริโต กระดอนกลับเข้าไปซุกก้นตาข่าย ถัดมา 2 นาที ฟาบิโอ เติมขึ้นมาแล้วทำชิ่งกับ ชิชาริโต ก่อนล็อกหลบ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี แล้วกระทุ้งด้วยขวาส่งลูกเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเจ็บใจ

หลังจากเสียประตู นิวคาสเซิล ก็เดินหน้าเปิดเกมรุกหวังทวงประตูตีเสมอ นาทีที่ 60 โคลอชชินี ได้โอกาสล้มตัววอลเลย์จ่อๆ ลูกกระดอนพื้นหนึ่งที แต่ เด เคอา ยังไวพอผวาปัดข้ามคานออกไป แต่แล้วนาทีที่ 62 เดอะ แม็กพายส์ ก็มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ล้มตัวสไลด์ดัก เบน อาร์ฟา ทั้งคนทั้งบอล ซึ่งผู้ตัดสิน ไมค์ โจนส์ ปรึกษากับผู้กำกับเส้นก่อนให้เป็นจุดโทษ เดมบา บา รับหน้าที่สังหารไม่พลาดตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 64

ล่วงมาถึงนาทีที่ 79 สาลิกาดงต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ โฮนาส กูเตียร์เรซ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วก่อนหน้านี้หวด นานี จากด้านหลังแบบดื้อๆ จึงรับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ซึ่งจังหวะต่อมา เนมานยา วิดิช ได้โขกจ่อๆ ติดตัว ครูล แบบหวุดหวิด นาทีที่ 83 เอฟรา ยิงไซด์ก้อยหน้าเขตโทษทำท่าจะเสียบเสา แต่ ครูล ยังบินปัดออกหลังได้อย่างเหนียวแน่นอีก 4 นาทีให้หลัง ชิชาริโต ได้โหม่งสะบัดส่งลูกหนีมือ ครูล ได้แล้ว ทว่า แดนนี ซิมป์สัน ยังยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาหวดเคลียร์ออกจากเส้นได้อย่างจวนเจียน

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายนาทีที่ 4 ชิชาริโต มีโอกาสเข้าฮอสระยะเผาขนตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากหัวหอกทีมชาติเม็กซิโกอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าเพียงครึ่งช่วงตัว จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงืทำได้แค่เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 แต้ม ทำให้ "ปิศาจแดง" มี 30 คะแนนรั้งอันดับ 2 ต่อไป ตามหลัง แมนฯ ซิตี จ่าฝูงอยู่ 4 แต้ม ส่วน "สาลิกาดง" เก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนน ยึดอันดับ 4 เอาไว้ได้อีก 1 สัปดาห์

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ดาบิด เด เคอา, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, หลุยส์ นานี, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิกส์, แอชลีย์ ยัง, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด - ทิม ครูล, แดนนี ซิมป์สัน, สตีเวน เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี, ไรอัน เทย์เลอร์, กาเบรียล โอแบร์ตอง, โยอัน กาบาย, แดนนี กัทธรี, โฮนาส กูเตียร์เรซ, อาเต็ม เบน อาร์ฟา, เดมบา บา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-1 (รอรี ดีแล็ป 1-0 นาที 28), (เกล็น วีแลน 2-0 นาที 58), (ปีเตอร์ เคราช์ 3-0 นาที 72), (รูเบน โรชินา 3-1 นาที 86)

โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 (มารูยาน เฟลลายนี 0-1 นาที 49), (อปอสโตลอส เวลลิออส 0-2 นาที 78)

เชลซี ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 (จอห์น เทอร์รี 1-0 นาที 7), (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2-0 นาที 30), (ฆวน มาตา 3-0 นาที 45)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1 (ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ 1-0 นาที 49), (เดมบา บา 1-1 จุดโทษ นาที 64)

นอริช ซิตี ชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2-1 (รัสเซลล์ มาร์ติน 1-0 นาที 15), (ลุค ยัง 1-1 นาที 59), (แกรนท์ โฮลท์ 2-1 นาที 73)

ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วีแกน แอธเลติก 1-2 (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 1-0 นาที 8), (ฆอร์ดี โกเมซ 1-1 จุดโทษ นาที 44), (ฟรังโก ดิ ซานโต 1-2 นาที 90+3)

เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-3 (ยุสซุฟ มูลุมบู 1-0 นาที 10), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-1 นาที 26), (เจอร์เมน เดโฟ 1-2 นาที 81), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-3 นาที 90+3)

อาร์เซนอล เสมอ ฟูแลม 1-1 (โธมัส แฟร์มาเลน 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 65), (โธมัส แฟร์มาเลน 1-1 นาที 82)



เชลซี คืนฟอร์มถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น