xs
xsm
sm
md
lg

"ถั่วน้อย" ช่วยผีตีเจ๊าหงส์ 1-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คริส สมอลลิง (ซ้าย) เบียดแย่งบอลกับ สจวร์ต ดาวนิง
ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ กองหน้าเม็กซิกัน เป็นตัวสำรองลงสนามมาโหม่งประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ตามตีเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 จนแบ่งกันทีมละคะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด

ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์รับมือคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้ สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมฟิตกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบหลายเดือนเพื่อทำเกมร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ เดิร์ก เคาท์ ผู้ซึ่งซัดแฮททริกในเกมนัดล่าสุดของทั้งสองทีม ทางฝั่งทีมเยือน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจดร็อป เวย์น รูนีย์ เป็นเพียงสำรองทำให้ แดนนี เวลเบ็ก ยืนหน้าคนเดียว ปาร์ค จี ซอง และ แอชลีย์ ยัง คอยสนับสนุนทางริมเส้น

เปิดฉากครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำเกมสู้กันอย่างสูสี ต้องรอกระทั่งนาที 15 จึงมีโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ ปาทริซ เอฟรา ได้บอลหลุดขึ้นมาจนถึงเส้นหลัง ก่อนเปิดมาหน้าประตู บอลเลยมาทางเสาสอง ฟิล โจนส์ โหม่งเข้าข้างตาข่าย

ลิเวอร์พูล มีจังหวะหวาดเสียวในนาที 20 สจวร์ต ดาวนิง เขี่ยบอลสั้นจากลูกเตะมุมให้ เจอร์ราร์ด กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตู แต่ไม่มีใครชาร์จทัน บอลหลุดเสาสอง ถัดมานาที 25 ซัวเรซ มองเห็น ดาบิด เด เคอา นายด่านทีมเยือนออกมาไกลจากเส้นประตู จึงตวัดยิงไกลจากระยะร่วม 30 หลา บอลไม่ตรงกรอบ

เจ้าบ้านมีโอกาสทองที่จะทำสกอร์ออกนำในนาที 34 เมื่อ ชาร์ลี อดัม ลากบอลมายิงนอกเขตโทษ บอลติด จอนนี อีแวนส์ แต่มาเข้าทาง ซัวเรซ พยายามล็อกหลบ อีแวนส์ มาสับไกยิงด้วยซ้าย แต่บอลไปตรงตัว เด เคอา รับเข้าซอง ขณะที่ "ผีแดง" มีลุ้นอีกครั้งในนาที 40 ปาร์ค แย่งบอลได้จาก โฆเซ เอ็นริเก ตรงกลางสนาม ก่อนกระชากมาซัดหน้าเขตโทษ บอลหลุดเสาสองออกหลัง สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกทันทีเมื่อลงสนามมาในครึ่งหลัง แอชลีย์ ยัง สับไกยิงจากนอกเขตโทษในนาที 46 แต่บอลไม่ตรงกรอบ นาทีถัดมาปีกทีมชาติอังกฤษได้ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา เปเป เรนา นายทวารเจ้าถิ่นรับไม่อยู่ แต่ยังตามมาเก็บได้ในจังหวะสอง

หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง ในนาที 50 เคาท์ ได้โหม่งบอลจากลูกเตะมุมไปชนแขน อีแวนส์ แต่กรรมการไม่ว่าอะไร อีก 4 นาทีถัดมา ซัวเรซ สับไกยิงจากนอกเขตโทษ แต่ เด เคอา ไม่พลาดล้มตัวรับเข้าซอง

กระทั่งนาที 66 อดัม พยายามกระชากบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษจนถูก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำฟาวล์ล้มลงได้ลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ด ปั่นบอลทะลุกำแพงส่งบอลตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 หลังจากเสียประตู เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจปรับเปลี่ยนทีมส่ง นานี, เวย์น รูนีย์ และ ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ลงมาในสนามแทน ปาร์ค, ยัง และ ฟิล โจนส์

เกมรุกของ "ผีแดง" ดีขึ้นเป็นลำดับ จนมาถึงนาที 80 ก็ได้ลูกเตะมุม นานี เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ เวลเบ็ก โหม่งเช็ดไปทางเสาสอง ชิชาริโต วิ่งมาโขกเต็มศีรษะทำให้ทีมเยือนไล่ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล เกือบทำสกอร์พลิกนำอีกครั้งใน 2 นาทีถัดมา เคาท์ ชาร์จลูกเปิดของ สจวร์ต ดาวนิง แต่ เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลังไป

ช่วงท้ายเกม ทีมของเคนนี ดัลกลิช พยายามทำเกมบุกอย่างหนักจนมีโอกาสลุ้นประตูอีก 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ตัวสำรอง แต่ยังดีที่ เค เคอา ปัดทิ้งออกไปแบบหวุดหวิดทำให้สุดท้ายจบเกมไม่มีประตูเพิ่มจบเกมเสมอกัน 1-1 แบ่งกันทีมละคะแนน โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีเพิ่ม 20 คะแนนรั้งจ่าฝูงของตารางต่อ แต่ต้องรอผลของคู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ แอสตัน วิลลา ที่จะลงสนามต่อไป ขณะที่ ลิเวอร์พูล มี 14 คะแนนขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, โฆเซ เอ็นริเก, มาร์ติน เคลลี, ลูคัส, ชาร์ลี อดัม, สตีเวน เจอร์ราร์ด, สจวร์ต ดาวนิง, หลุยส์ ซัวเรซ, เดิร์ก เคาท์
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, จอนนี อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, คริส สมอลลิง, ไรอัน กิ๊กส์, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ฟิล โจนส์, แอชลีย์ ยัง, ปาร์ค จี ซอง, แดนนี เวลเบ็ก

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 15 ต.ค.
ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
[1-0 : สตีเวน เจอร์ราร์ด น.68], [1-1 : ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ น.80]

แมนฯ ซิตี ชนะ แอสตัน วิลลา 4-1
[1-0 : มาริโอ บาโลเตลลี น.28], [2-0 : อดัม จอห์นสัน น.46], [3-0 : แวงซองต์ กอมปานี น.52], [3-1 : สตีเฟน วอร์น็อก น.64], [4-1 : เจมส์ มิลเนอร์ น.70]

นอริช ชนะ สวอนซี 3-1
[1-0 : แอนโธนีย์ พิลคิงตัน น.1], [2-0 : รัสเซลล์ มาร์ติน น.10], [2-1 : แดนนี เกรแฮม น.12], [3-1 : แอนโธนีย์ พิลคิงตัน น.62]

ควีนส์ปาร์ก เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1
[1-0 : ไฮดาร์ เฮลกูสัน น.15], [1-1 : คริสโตเฟอร์ แซมบา น.23]

สโต๊ค ซิตี ชนะ ฟูแลม 2-0
[1-0 : โจนาธาน วอลเตอร์ส น.80], [2-0 : รอรีย์ ดีแลป น.86]

วีแกน แพ้ โบลตัน 1-3
[0-1 : ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ น.4], [1-1 : โมฮาเหม็ด ดิยาเม น.39], [1-2 : ดาวิด เอ็นก็อก น.45+3], [1-3 : คริส อีเกิลส์ น.90+2]

เชลซี ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1
[1-0 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ น.31], [2-0 : จอห์น เทอร์รี น.45], [3-0 : รามิเรส น.61], [3-1 : อปอสโดลอส เวลลิออส น.81]


แดนนี เวลเบ็ก กระชากบอลแหวกผู้เล่น ลิเวอร์พูล
ปาทริซ เอฟรา (ซ้าย) พยายามบังบอลจาก หลุยส์ ซัวเรซ
เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอมาชมเกมแดงเดือดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น