"ขุนพลช้างศึก" ทีมชาติไทย เปิดสนามศุภชลาศัย พ่ายให้กับ ทีมชาติออสเตรเลีย 0-1 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มดี รอบ 3 คง 4 แต้มเท่าเดิมทำให้ต้องลุ้นอีกคู่คืนนี้ระหว่าง ซาอุดิอาระเบีย พบ โอมาน เนื่องจาก ซาอุฯ มี 5 แต้ม ส่วน "จิงโจ้" เก็บ 12 แต้ม ลอยลำเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แน่นอนแล้ว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2554 มีการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มดี รอบ 3 นัดที่ 5 ระหว่าง "ขุนพลช้างศึก" ทีมชาติไทย จากแข่ง 4 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 มี 4 คะแนน ต้อนรับการมาเยือนของ "ขุนพลแดนจิงโจ้" ออสเตรเลีย จ่าฝูงของสาย จากแข่ง 4 นัด ชนะ 3 แพ้ 1 มี 9 คะแนน ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ
จากนัดแรก ไทย บุกไปพ่าย ออสเตรเลีย อย่างฉิวเฉียด 1-2 โดยนัดนี้ "วินนี" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย วางระบบ 4-5-1 คู่เซ็นเตอร์ ชลทิตย์ จันทคาม ควงคู่ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(กัปตันทีม) พร้อมแบ็กซ้าย ศุภชัย คมศิลป์ แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ และหน้าตัวเป้าอย่าง กีรติ เขียวสมบัติ ขณะที่ โฮลเกอร์ โอเชียล เฮดโค้ชทีม "ซอคเกอร์รูส์" ก็วางระบบ 4-5-1 เช่นกันโดยมี ลูคัส นัลล์(กัปตันทีม) นำทีมพร้อมมี จอช เคนเนดี ทำหน้าที่ล่าตาข่าย
เรื่มการแข่งขันเพียง 3 นาที "แข้งจิงโจ้" ได้ประเดิมทักทายเจ้าถิ่นก่อนเมื่อ ไมเคิล ซุลโล เปิดบอลให้ จอช เคนเนดี โขกเน้นๆ ทว่า สินทวีชัย โดดรับทัน ถัดมา 4 นาที ทีมชาติได้โอกาสลุ้นคืนบ้างจากการโยนยาวของ ดัสกร ให้ สุรีย์ ลุยเดี่ยวแต่ผิดจังหวะจึงหมดลุ้นไปอย่างน่าเสียดาย
ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าจนมีโอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำหลายครั้ง นาทีที่ 17 กองเชียร์ชาติไทยเกือบสมหวังเมื่อ ณัฐพร ส่งบอลให้ สุรีย์ ที่ริมขวาก่อนจะโยนผ่านหน้ากรอบเข้าศรีษะ กีรติ เขียวสมบัติ โหม่งระยะเผาขนทว่าบอลโด่งข้ามคานไปอย่างหมดลุ้น ถัดมา 3 นาที รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ได้ลองปั่นฟรีคิกแรกแต่ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เซฟได้อย่างสบาย
แม้จังหวะครองบอลจะไม่มากเหมือนเจ้าถิ่นแต่ ทีมอาคันตุกะ ก็หาโอกาสโต้คืนได้อย่างเสียวไส้ ในนาทีที่ 29 เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ตัวเดินเกมริมเส้นวัย 32 ปีของทีมได้ส่งบอลให้ จอช เคนเนดี ศูนย์หน้าตัวจี๊ดโขกเหน่งๆ อีกครั้งทว่า ผู้รักษาประตู "ฉลามชล" เซฟได้พอดี จากนั้นนาทีที่ 34 ไทยได้ลุ้นจังๆ อีกครั้ง เมื่อ ดัสกร ถวายบอลใส่พานให้ สุรีย์ ที่โซนเดิมทว่า แบ็กขวาสังกัดชลบุรี เอฟซี ก็ทำพลาดยิงโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 42 ซาอิด โมซาฟฟาริ ผู้ตัดสินชาวอิหร่านได้แจกใบเหลือแรกของเกมให้แก่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค หลังเสียบ ลุค วิลเชียร์ กองหลังออสเตรเลีย ช่วงทดเวลา 1 นาที ทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ต่อด้วยการแข่งขันครึ่งเวลาหลังเพียง 5 นาที ทีมชาติออสเตรเลีย ได้โอกาสลุ้นฟรีคิกจาก ลุค วิลเชียร์ เปิดให้ แมทธิว สปิราโนวิช โขกทว่าชนตาข่ายข้างประตูไป จากนั้น "ซอคเกอร์รูส์" มีโอกาสลุ้นฟรีคิกหลายครั้งทว่าก็ไม่สามารถพังสกอร์ได้ นาทีที่ 62 "วินนี" ได้ปรับหมากโดนถอด รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ออกแล้วส่ง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ลงทำหน้าที่แทน โดยก่อนหน้านี้ ผู้ตัดสินได้จ่ายใบเหลืองให้แก่ แม็ตต์ แม็คเคย์ มิดฟิลด์ทีมเยือนหลังทำฟาลว์เจ้าถิ่น
จากนั้นนาทีที่ 74 ไทยส่ง "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ ลงสนามแทน กีรติ เขียวสมบัติ แม้จะเปิดเกมรุกไม่มากแต่ทีมเยือนก็สามารถทำประตูขึ้นนำไทยก่อน 1-0 ในนาทีที่ 76 เมื่อ เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน โยนบอลให้ เบร็ตต์ โฮลแมน โขกเน้นๆ ผ่านมือ สินทวีชัย เสียบเสาสองกระทุ้งตาข่ายอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ทีมชาติไทยเริ่มไม่สู้ดีนัก "วินนี" จึงถอด พิชิพงษ์ เฉยฉิว ออกแล้วส่ง พิภพ อ่อนโม้ ทำหน้าที่แทน จนเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ ชลทิตย์ เปิดบอลยาวให้ พิภพ โหม่งทว่าลอยข้ามคาน ช่วงทดเวลา 3 นาที โอกาสสุดท้ายของทีมชาติไทยเมื่อ ดัสกร เปิดฟรีคิกให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ซัดเต็มข้อข้ามกำแพงทว่าย้อยตกหลังคาไปอย่างน่าเสียดาย หมดเวลาการแข่งขัน ไทย แพ้ ออสเตรเลีย 0-1 ทำให้ ออสเตรเลีย มี 12 แต้ม ลอยลำเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แน่นอนแล้ว ส่วนไทยยังคงมี 4 แต้มเท่าเดิม
ทำให้ต้องลุ้นการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย สายดี อีกคู่หนึ่งที่จะทำการแข่งขันวันนี้ เวลา 00.30 น. ซาอุดิอาระเบีย - โอมาน เนื่องจาก ซาอุฯ มี 5 แต้ม
ส่วนไทย มีโปรแกรมแข่งขันนัดต่อไปในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ด้วยการบุกไปเยือน โอมาน
รายชื่อนักเตะ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, นิเวส ศิริวงศ์, ชลทิตย์ จันทคาม, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(กัปตันทีม), สุรีย์ สุขะ, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว(พิภพ อ่อนโม้), ศุภชัย คมศิลป์, จักรพันธ์ แก้วพรม, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค(ธีรเทพ วิโนทัย), กีรติ เขียวสมบัติ
ทีมชาติออสเตรเลีย : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ลูคัส นัลล์(กัปตันทีม), ไมเคิล ซุลโล, ลุค วิลเชียร์, แมทธิว สปิราโนวิช, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, เบร็ตต์ โฮลแมน(ร็อบบี ครูซ), ไมล์ เจดินัค(นีล คิลเคนนี), คาร์ล วาเลรี, แม็ตต์ แม็คเคย์, จอช เคนเนดี(อเล็กซ์ บรอสเก)
