เซอร์จิโอ อเกวโร ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินาสวมบทพระเอกด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังก่อนพังประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี เฉือน บียาร์รีล 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ด้าน เวย์น รูนีย์ ซัด 2 จุดโทษให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกสอย โอเตลุล กาลาติ 2-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่มเอ
แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ) 2-1 บียาร์รีล (สเปน)
ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่งมีเพียง 1 คะแนนเปิดบ้านต้อนรับ บียาร์รีล ที่ยังไร้แต้มติดมือ นัดนี้เจ้าถิ่นขาด มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าศิลปินชาวอิตาลีที่ยังติดโทษแบน ส่วน เซอร์จิโอ อเกวโร ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินาก็ยังไม่พร้อมลงสนามตั้งแต่ต้นเกม ทำให้ เอดิน เชโก หัวหอกทีมชาติบอสเนียยืนเป็นหน้าเป้าโดยมี ดาบิด ซิลบา เป็นตัวสนับสนุน ขณะที่ทีมเยือนไม่มี นิลมาร์ และ มาร์โก รูเบน สองศูนย์หน้าที่บาดเจ็บไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ยังมี จูเซ็ปเป รอสซี หัวหอกทีมชาติอิตาลีเป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า
เปิดฉากมาได้ 3 นาทีเศษ “เรือดำน้ำสีเหลือง” ช็อกกองเชียร์ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยการทะลวงตาข่ายออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ โจนาธาน เด กุซมัน ปั๊มบอลจาก ไนเจล เดอ ยอง มาได้ก่อนจ่ายสั้นๆ ให้ รอสซี ตะบันหน้าเขตโทษถูก โจ ฮาร์ท ปัดไว้ได้ในจังหวะแรก แต่ รูเบน การ์เซีย กานี ยังปรี่เข้ามาซ้ำดาบสองไม่เหลือซาก ซึ่งถือเป็นประตูแรกของ บียาร์รีล ในรอบแบ่งกลุ่มด้วย นาทีที่ 13 แมนฯ ซิตี พยายามทวงคืนโดย อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ ซาเมียร์ นาสรี แปแบบไม่จับ ลูกเหินข้ามคานนิดเดียว
ถึงนาทีที่ 20 เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกเยื้องมาทางด้านขวา โคลารอฟ จัดการหลอกยิง บอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกอยู่แล้ว แต่ ดิเอโก โลเปซ ยังไม่เผลอขยับตัวกลับมาปัดข้ามคานได้ทัน ผ่านมาถึงนาทีที่ 40 โรแบร์โต มันชินี แก้เกมให้กับเรือใบสีฟ้าด้วยการถอด อดัม จอห์นสัน ออกแล้วส่ง แกเร็ธ แบร์รี ลงมาคุมเกมตรงกลางแทนก่อนจะตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในนาทีที่ 43 เมื่อ โคลารอฟ ผ่านบอลมาหน้าประตู คาร์ลอส มาร์เชนา พยายามสกัดก่อนถูก เชโก เข้าฮอส แต่กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง กระทั่งจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 55 แมนฯ ซิตี มีโอกาสส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายจากการหลุดขึ้นมาตะบันเต็มข้อในเขตโทษของ โคลารอฟ ผ่านมือ ดิเอโก โลเปซ เช็ดคานเข้าไปแบบสนั่นหวั่นไหว แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าไปก่อนจึงพลาดแซงขึ้นนำ ล่วงมาถึงนาทีที่ 74 โคลารอฟ เจ้าเก่าสบโอกาสกดฟรีคิกระยะ 30 หลา ลูกหนีมือ ดิเอโก โลเปซ ไปสะกิดตาข่ายด้านข้างชนิดที่แฟนบอลเจ้าถิ่นกุมหัวด้วยความเสียดาย
3 นาทีให้หลัง อเกวโร ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เดอ ยอง ในครึ่งหลังแทงบอลให้ เชโก หลุดเข้าไปกระทุ้งในเขตโทษด้านขวา ทว่าลูกพุ่งถากเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 86 โคลารอฟ วางบอลจากด้ายซ้ายอย่างเหมาะเจาะให้ เชโก ได้โขกคนเดียวโล่งๆ ในเขตโทษแต่กลับสะบัดลูกออกหลังไปทางเสาไกลอย่างน่าผิดหวัง กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 ปาโบล ซาบาเลตา ผ่านบอลจากด้านขวาไปที่เสาสองให้ “กุน” อเกวโร ชาร์จเผาขนเข้าไป จบเกม แมนฯ ซิตี จึงชนะหวุดหวิด 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนนจาก 3 นัด ยังรั้งอันดับ 3 ของกลุ่มเอ แต่ไล่จี้ นาโปลี ทีมอันดับ 2 เหลือแต้มเดียว ส่วน บียาร์รีล ยังไม่มีคะแนน จมบ๊วยของกลุ่มต่อไป
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลตา, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจเลียน เลสคอตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ไนเจล เดอ ยอง, ยายา ตูเร, อดัม จอห์นสัน, ซาเมียร์ นาสรี, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก
บียาร์รีล - ดิเอโก โลเปซ, คริสเตียน ซาปาตา, คาร์ลอส มาร์เชนา, กอนซาโล โรดริเกซ, โฆเซ มานูเอล กาตาลา, บรูโน โซเรียโน, บอร์ฆา บาเลโร, เฮอร์นาน เปเรซ, รูเบน การ์เซีย กานี, โจนาธาน เด กุซมัน, จูเซ็ปเป รอสซี
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3
กลุ่ม เอ
นาโปลี (อิตาลี) เสมอ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 1-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี (อังกฤษ) ชนะ บียาร์รีล (สเปน) 2-1
กลุ่ม บี
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี) 3-0
ลีลล์ (ฝรั่งเศส) แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0-1
กลุ่ม ซี
โอเตลุล กาลาติ (โรมาเนีย) แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0-2
เอฟซี บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) แพ้ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 0-2
กลุ่ม ดี
รีล มาดริด (สเปน) ชนะ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 4-0
ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) แพ้ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 0-2