พ.อ.สมนึก แสงนาค ประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ตั้งความหวังคว้า 3-5 เหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่ยังกังวลว่าสนามแข่งขันที่ปาเล็มบังซึ่งกำลังเร่งก่อสร้างให้ทันกำหนดอาจส่งผลกระทบต่อนักกีฬาจนไม่สามารถแสดงฝีมือได้เต็มที่
เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงาน “มีท เดอะ เพรส ซีเกมส์” ครั้งที่ 5 ขึ้นที่ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อแถลงความพร้อมของสมาคมกีฬาต่างๆ ซึ่งมีกำหนดแข่งขันที่แดนอิเหนาระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้ โดยมี 4 สมาคมกีฬามาร่วมแถลงข่าว ขาดเพียงสมาคมเรือพายแห่งประเทศไทยซึ่งติดธุระ
สำหรับความพร้อมของสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย พ.อ.สมนึก แสงนาค ประธานพัฒนาเทคนิค กล่าวว่า “จากการแข่งขัน 4 ประเภท คือ ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, ระบำใต้น้ำ และ โปโลน้ำ ตั้งแต่วันที่ 12-17 พฤศจิกายน เราตั้งความหวังไว้ที่ 3-5 เหรียญทองจากทั้งหมด 38 เหรียญทอง ซึ่งมากกว่าครั้งก่อนที่ได้เพียง 2 เหรียญทอง โดยหากเราได้ 2 เหรียญทองตั้งแต่วันแรกโอกาสบรรลุเป้าหมายก็มีสูง ซึ่งความหวังของเราอยู่ที่ “เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ในฝ่ายชาย และ “อุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง ในฝ่ายหญิง”
“ขณะที่คู่แข่งสำคัญในการแข่งขันว่ายน้ำมี สิงคโปร์ ในฝ่ายหญิง ซึ่งมีนักกีฬาจีนโอนสัญชาติมา ส่วนฝ่ายชายก็มีอินโดนีเซีย กับ ฟิลิปปินส์ ด้านระบำใต้น้ำซึ่งมีการบรรจุเข้าแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็มีลุ้นเช่นกันโดยต้องเบียดกับ มาเลเซีย สำหรับกระโดดน้ำต้องแข่งกับ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ขณะที่โปโลน้ำ สิงคโปร์ ผูกขาดเอาไว้แล้ว”
นอกจากนั้น พ.อ.สมนึก ยังแสดงความกังวลเรื่องสนามแข่งขันกีฬาว่ายน้ำที่ปาเล็มบังว่า “จากข้อมูลล่าสุด ผมทราบมาว่าสนามแข่งขันยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย แต่เจ้าภาพยังคงยืนยันว่าเสร็จทันใช้งานแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นนักกีฬาของเราอาจได้รับผลกระทบ เช่น สีที่เพิ่งทาเสร็จใหม่ๆ อาจมีกลิ่นสีหลงเหลืออยู่ ทำให้นักกีฬามีปัญหาเรื่องการหายใจจนว่ายได้ไม่เต็มที่ หรือไม่ก็พื้น ที่เพิ่งทำเสร็จอาจทำให้นักกีฬาลื่นล้มจนได้รับบาดเจ็บก่อนลงแข่งขัน ซึ่งเราเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งสนามก็เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ เช่นกัน ดังนั้น เรามีบทเรียนมาแล้วจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี”
ด้าน ร.อ.สมพจน์ แก้วบุญเรือง ประธานฝ่ายเทคนิคของสมาคมดำน้ำ ทีดีเอ แห่งประเทศไทย กล่าวว่าตั้งความหวังไว้ที่ 3 เหรียญทองจากประเภท 100 เมตร ไบฟินส์ ชาย, 4x100 เมตร ไบฟินส์ ชาย และ 4x100 เมตร ไบฟินส์ หญิง โดยมี อินโดนีเซีย เจ้าภาพ และ เวียดนาม เป็นคู่แข่งสำคัญ
ขณะที่ น.อ.ปิยะศักดิ์ นิลนิมิตร ผู้จัดการทีมนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทยเปิดเผยว่า นักกีฬาที่ส่งไป 9 คนประกอบด้วยตัวจริง 7 คน และตัวสำรอง 2 คน จะแข่งขันใน 3 ประเภท คือ เรือออปติมิสต์, เรือเลเซอร์ และ เรือ 470 ซึ่งต้องขนเรือไปที่จาการ์ตาในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีขั้นตอนมากมายในการลำเลียงเรือข้ามประเทศ ส่วนนักกีฬาจะลงทดสอบสนามในวันที่ 14 พ.ย. และแข่งขันวันที่ 15-16 พ.ย. ต่อด้วย 18-19 พ.ย.
โดยความหวังของสมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยไว้ที่ 2 เหรียญทอง แต่ต้องขับเคี่ยวกับ สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม จากผลงานที่ไปแข่งขันที่ฮ่องกงเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และการเก็บตัวฝึกซ้อมที่สัตหีบน่าจะพร้อมสำหรับการแข่งขัน โดยเหลือเพียงแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับสภาพอากาศของนักกีฬาในวันแข่งขันซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้เท่านั้น
ส่วน เดโชพล ปัทนุกูลนนท์ ผู้ฝึกสอนของสมาคมวินด์เซิร์ฟฯ กล่าวว่าได้ส่งนักกีฬาลงชิงชัย 4 รุ่นประกอบด้วย อาร์เอสเอ็กซ์ ชาย (เอก บุญสวัสดิ์), อาร์เอสเอ็กซ์ หญิง (ศิริพร แก้วดวงงาม), มิสทรอล วัน ดีไซน์ ชาย (นาวิน สิงสารท) และ มิสทรอล วัน ดีไซน์ หญิง (นภาลัย ธารใส) พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายคว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน แต่หากเอาชนะนักกีฬามือหนึ่งของเจ้าภาพได้ก็มีโอกาสคว้า 4 เหรียญทอง ซึ่งทีมชุดนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ อรัญ หอมระรื่น ผู้ฝึกสอนซึ่งเคยเป็นอดีตนักกีฬาวินด์เซิร์ฟที่เคยคว้าชัยชนะที่อินโดนีเซียมาแล้ว