คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ขณะที่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เดินหน้าโกยชัยสมราคาแชมป์เก่า ด้านของ ทอม เบรดี ก็เจิดจรัสฟอร์มแข่งกับ แอรอน ร็อดเจอร์ส นำทาง นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ถลุงทำแต้มเป็นว่าเล่น แต่สำหรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และ นิวยอร์ก เจ็ตส์ อีกสองตัวเต็งลุ้นแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 ดูเหมือนกำลังถอยหลังลงคลอง เมื่อผ่านไป 5 สัปดาห์ของฤดูกาลปกติในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ซีซัน 2011/12
ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ถูกขนานนามว่าเป็น "ดรีมทีม" แห่งศึกคนชนคนปีนี้ หลังจากที่ช่วงซัมเมอร์บอร์ดบริหารมีการเซ็นสัญญาผู้เล่นฟรีเอเยนต์ระดับหัวกะทิเข้ามาเสริมแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น เจสัน เบบิน, คัลเลน เจนกินส์ หรือดูโอตัวคุมปีกตัวทีเด็ด โดมินิก ร็อดเจอร์ส-โครมาตี และ เอ็นนามดี อาโซมักฮา ไม่รวมถึง รอนนี บราวน์ รันนิงแบ็กสตาร์ กับควอเตอร์แบ็กสำรองมีชื่ออย่าง วินซ์ ยัง ทว่า "อินทรีมรกต" กลับมีสถิติชนะแค่หนึ่ง ปราชัยมา 4 เกมติดต่อกัน โอกาสลุ้นตั๋วเพลย์ออฟห่างไปทุกที เพราะต้องไม่ลืมว่าคุณอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ สายเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ซึ่ง วอชิงตัน เรดสกินส์ สตาร์ทดีเกินคาด ด้าน นิวยอร์ก ไจแอนท์ส และ ดัลลัส คาวบอยส์ ทรงเกมยังพอไหว
ภายใต้การทำงานของ แอนดี หรีด อีเกิลส์เคยอยู่ในสถานการณ์ออกตัวแย่ (1-3 เกม) สองหนในปี 1999 และ 2007 ท้ายที่สุดลงเอยคือ หัวหน้าโค้ชหน้าติดหนวดไม่สามารถพลิกวิกฤติเข็นแฟรนไชส์เข้าสู่โพสต์ซีซันได้เลย คราวนี้ความกดดันถลาโถมหนักกว่าเดิม หากสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เกิดบุกพ่าย เรดสกินส์ เท่ากับว่า "อินทรีมรกต" สถิติดิ่งเหว 1-5 เกม คงบอกลา "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" ในซีซันนี้ไปได้เลย
ซึ่งต้นสายปลายเหตุความบ้อท่าของ อีเกิลส์ เห็นจะหนีไม่พ้น "ทีมรับ" ที่ทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ปล่อยให้คู่แข่งทะลวงภาคพื้นดินได้อย่างไรเฉลี่ยตั้งเกมละ 140 หลา นั่นหมายความว่าคู่แข่งสามารถใช้บอลคอนโทรล บีบให้ ไมเคิล วิค ต้องออกมาเร่งกู้สถานการณ์ระดมขว้างเกินความจำเป็น จึงไม่น่าแปลกใจที่ควอเตอร์แบ็กสิงห์อีซ้ายโดนไปแล้ว 7 อินเทอร์เซปต์ ทั้งที่ฤดูกาลก่อนเจอพิกรวมแค่ 6 หนเท่านั้น อีกทั้งดูเหมือนทีมใช้งาน เลอชอน แม็คคอย น้อยไปนิด เพราะถ้ารันนิงแบ็กสตาร์เปิดเกมได้ งานของ วิค คงง่ายขึ้นเป็นกอง
กลับมาจวกเกมรับ อีเกิลส์ กันต่อ การโดนคู่แข่งสอยเฉลี่ย 26.4 แต้มต่อเกม โอกาสเดินออกจากสนามในฐานะผู้ชนะน้อยเต็มทน อีกทั้งการได้มาเพียง 5 เทิร์นโอเวอร์จาก 3 อินเทอร์เซปต์ 2 ฟัมเบิล ทีเด็ดตรงนี้มันหายไป ซึ่ง หรีด ถูกนักวิเคราะห์วิจารณ์เล่นงานพอสมควร เมื่อเน้นการตั้งโซนแทนที่จะปล่อยให้ อาโซมักฮา กับ ร็อดเจอร์ส-โครมาตี ประกบปีกแบบตัวๆ ถึงแม้มีผลงานอวดแฟนๆ บ้างแซ็คควอเตอร์แบ็กชาวบ้านไป 16 หน แต่การขาดหายไปของสมาธิทำให้เสียโทษหลายต่อหลายหน จึงมีรายงานว่า หรีด เตรียมจ้างที่ปรึกษามาช่วยงาน ฮวน คาสติโญ (โค้ชทีมรับ) ซึ่งสาวกคงได้แต่ภาวนาว่าทีมรับจะฟื้นโดยเร็วพลัน
ข้ามไปดูอาการ นิวยอร์ก เจ็ตส์ กันบ้าง ถึงคราว เร็กซ์ ไรอัน เฮดโค้ชพุงพลุ้ยโวไม่ออก หลังจากทีมพ่ายมา 3 เกมติด ทั้งที่สตาร์ท 2-0 ปัญหาของ เจ็ตส์ ที่เห็นได้ชัดคือ เปิดโหมดเกมบุกภาคพื้นดินไม่ได้ ชอนน์ กรีน ซึ่งเคยฝากผีฝากไข้ได้อยู่ในช่วงฟอร์มตก ผ่านไป 5 เกม เพิ่งตะลุยได้เพียง 240 หลา เฉลี่ยถือบอลหนหนึ่งมีแค่ 3.3 หลา ขณะที่ ลาไดเนียน ทอมลินสัน เงียบฉี่ ถ้าใช้บอลคอนโทรลไม่ได้ มันก็ดูผิดวิสัยทีมนี้ไปสักหน่อย จะให้ มาร์ค ซานเชซ แบกแฟรนไชส์ไว้บนบ่าก็ใช่เรื่อง เนื่องจากจอมทัพเชื้อสายเม็กซิกันไม่ใช่พวกขว้างระเบิดระเบ้ออยู่แล้ว
เมื่อทรงบอลมีมิติเดียว คู่แข่งย่อมจับทางง่าย ตัวคุมปีกสามารถคีย์ไปที่ ซานโตนิโอ โฮล์มส และ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ได้ถนัดถนี่ ขณะเดียวกัน เซฟตี้คอยอ่านสายตา ซานเชซ แล้วเข้าตัดบอลตามโอกาส เรื่องนี้เห็นที ไรอัน ต้องปรึกษา ไบรอัน ช็อตเทนไฮเมอร์ และสตาฟฟ์ทีมบุกเป็นการด่วนเพื่อหาจุดยูเทิร์น หากชักช้าอยู่ใยเกรงว่า เจ็ตส์ จะหมดโอกาสลุ้นกลับเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) เป็นปีที่สามติดต่อกัน แค่ตั๋วเข้าสู่โพสต์ซีซันก็ยากแล้ว เหตุจาก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เครื่องร้อนแต่หัววัน ด้าน "ควายป่า" บัฟฟาโล บิลล์ส ก็ไม่ใช่หมูตู้ประจำดิวิชันอีกต่อไป
ขณะที่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เดินหน้าโกยชัยสมราคาแชมป์เก่า ด้านของ ทอม เบรดี ก็เจิดจรัสฟอร์มแข่งกับ แอรอน ร็อดเจอร์ส นำทาง นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ถลุงทำแต้มเป็นว่าเล่น แต่สำหรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และ นิวยอร์ก เจ็ตส์ อีกสองตัวเต็งลุ้นแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 46 ดูเหมือนกำลังถอยหลังลงคลอง เมื่อผ่านไป 5 สัปดาห์ของฤดูกาลปกติในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ซีซัน 2011/12
ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ถูกขนานนามว่าเป็น "ดรีมทีม" แห่งศึกคนชนคนปีนี้ หลังจากที่ช่วงซัมเมอร์บอร์ดบริหารมีการเซ็นสัญญาผู้เล่นฟรีเอเยนต์ระดับหัวกะทิเข้ามาเสริมแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น เจสัน เบบิน, คัลเลน เจนกินส์ หรือดูโอตัวคุมปีกตัวทีเด็ด โดมินิก ร็อดเจอร์ส-โครมาตี และ เอ็นนามดี อาโซมักฮา ไม่รวมถึง รอนนี บราวน์ รันนิงแบ็กสตาร์ กับควอเตอร์แบ็กสำรองมีชื่ออย่าง วินซ์ ยัง ทว่า "อินทรีมรกต" กลับมีสถิติชนะแค่หนึ่ง ปราชัยมา 4 เกมติดต่อกัน โอกาสลุ้นตั๋วเพลย์ออฟห่างไปทุกที เพราะต้องไม่ลืมว่าคุณอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ สายเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก ซึ่ง วอชิงตัน เรดสกินส์ สตาร์ทดีเกินคาด ด้าน นิวยอร์ก ไจแอนท์ส และ ดัลลัส คาวบอยส์ ทรงเกมยังพอไหว
ภายใต้การทำงานของ แอนดี หรีด อีเกิลส์เคยอยู่ในสถานการณ์ออกตัวแย่ (1-3 เกม) สองหนในปี 1999 และ 2007 ท้ายที่สุดลงเอยคือ หัวหน้าโค้ชหน้าติดหนวดไม่สามารถพลิกวิกฤติเข็นแฟรนไชส์เข้าสู่โพสต์ซีซันได้เลย คราวนี้ความกดดันถลาโถมหนักกว่าเดิม หากสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เกิดบุกพ่าย เรดสกินส์ เท่ากับว่า "อินทรีมรกต" สถิติดิ่งเหว 1-5 เกม คงบอกลา "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" ในซีซันนี้ไปได้เลย
ซึ่งต้นสายปลายเหตุความบ้อท่าของ อีเกิลส์ เห็นจะหนีไม่พ้น "ทีมรับ" ที่ทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ปล่อยให้คู่แข่งทะลวงภาคพื้นดินได้อย่างไรเฉลี่ยตั้งเกมละ 140 หลา นั่นหมายความว่าคู่แข่งสามารถใช้บอลคอนโทรล บีบให้ ไมเคิล วิค ต้องออกมาเร่งกู้สถานการณ์ระดมขว้างเกินความจำเป็น จึงไม่น่าแปลกใจที่ควอเตอร์แบ็กสิงห์อีซ้ายโดนไปแล้ว 7 อินเทอร์เซปต์ ทั้งที่ฤดูกาลก่อนเจอพิกรวมแค่ 6 หนเท่านั้น อีกทั้งดูเหมือนทีมใช้งาน เลอชอน แม็คคอย น้อยไปนิด เพราะถ้ารันนิงแบ็กสตาร์เปิดเกมได้ งานของ วิค คงง่ายขึ้นเป็นกอง
กลับมาจวกเกมรับ อีเกิลส์ กันต่อ การโดนคู่แข่งสอยเฉลี่ย 26.4 แต้มต่อเกม โอกาสเดินออกจากสนามในฐานะผู้ชนะน้อยเต็มทน อีกทั้งการได้มาเพียง 5 เทิร์นโอเวอร์จาก 3 อินเทอร์เซปต์ 2 ฟัมเบิล ทีเด็ดตรงนี้มันหายไป ซึ่ง หรีด ถูกนักวิเคราะห์วิจารณ์เล่นงานพอสมควร เมื่อเน้นการตั้งโซนแทนที่จะปล่อยให้ อาโซมักฮา กับ ร็อดเจอร์ส-โครมาตี ประกบปีกแบบตัวๆ ถึงแม้มีผลงานอวดแฟนๆ บ้างแซ็คควอเตอร์แบ็กชาวบ้านไป 16 หน แต่การขาดหายไปของสมาธิทำให้เสียโทษหลายต่อหลายหน จึงมีรายงานว่า หรีด เตรียมจ้างที่ปรึกษามาช่วยงาน ฮวน คาสติโญ (โค้ชทีมรับ) ซึ่งสาวกคงได้แต่ภาวนาว่าทีมรับจะฟื้นโดยเร็วพลัน
ข้ามไปดูอาการ นิวยอร์ก เจ็ตส์ กันบ้าง ถึงคราว เร็กซ์ ไรอัน เฮดโค้ชพุงพลุ้ยโวไม่ออก หลังจากทีมพ่ายมา 3 เกมติด ทั้งที่สตาร์ท 2-0 ปัญหาของ เจ็ตส์ ที่เห็นได้ชัดคือ เปิดโหมดเกมบุกภาคพื้นดินไม่ได้ ชอนน์ กรีน ซึ่งเคยฝากผีฝากไข้ได้อยู่ในช่วงฟอร์มตก ผ่านไป 5 เกม เพิ่งตะลุยได้เพียง 240 หลา เฉลี่ยถือบอลหนหนึ่งมีแค่ 3.3 หลา ขณะที่ ลาไดเนียน ทอมลินสัน เงียบฉี่ ถ้าใช้บอลคอนโทรลไม่ได้ มันก็ดูผิดวิสัยทีมนี้ไปสักหน่อย จะให้ มาร์ค ซานเชซ แบกแฟรนไชส์ไว้บนบ่าก็ใช่เรื่อง เนื่องจากจอมทัพเชื้อสายเม็กซิกันไม่ใช่พวกขว้างระเบิดระเบ้ออยู่แล้ว
เมื่อทรงบอลมีมิติเดียว คู่แข่งย่อมจับทางง่าย ตัวคุมปีกสามารถคีย์ไปที่ ซานโตนิโอ โฮล์มส และ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ได้ถนัดถนี่ ขณะเดียวกัน เซฟตี้คอยอ่านสายตา ซานเชซ แล้วเข้าตัดบอลตามโอกาส เรื่องนี้เห็นที ไรอัน ต้องปรึกษา ไบรอัน ช็อตเทนไฮเมอร์ และสตาฟฟ์ทีมบุกเป็นการด่วนเพื่อหาจุดยูเทิร์น หากชักช้าอยู่ใยเกรงว่า เจ็ตส์ จะหมดโอกาสลุ้นกลับเข้าสู่รอบชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) เป็นปีที่สามติดต่อกัน แค่ตั๋วเข้าสู่โพสต์ซีซันก็ยากแล้ว เหตุจาก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เครื่องร้อนแต่หัววัน ด้าน "ควายป่า" บัฟฟาโล บิลล์ส ก็ไม่ใช่หมูตู้ประจำดิวิชันอีกต่อไป
