คอลัมน์ "ลูกฟุตบอลสีชมพู" โดย "ไม้ขีดไฟ"
ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบที่ 3 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว มีเรื่องดีๆ ที่น่าหยิบมาสนทนา ณ ที่นี้ นั่นคือเรื่องราวของไมเคิ่ล โอเว่น อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบัน
อีกคนคือโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราจะพูดถึงการยืนหยัด ความเข้าใจตัวเอง และแรงบันดาลใจของทั้งสองคน
โอเว่นประเดิมสนามในฤดูกาลนี้ด้วยการยิงลีดส์ ยูไนเต็ด 2 ประตู และหวังว่าจะได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง โดยวัย 31 ปี กับประสบการณ์อันโชกโชน โอเว่นยอมรับทีมมีนักเตะหนุ่มที่ฟอร์มกำลังโดดเด่นหลายคน ซึ่งยากที่เขาจะได้ลงเล่นทุกนัดเหมือนตอนอายุ 20 ปี แต่การทำประตูได้อีกครั้ง สร้างความมั่นใจให้แก่เขาอย่างมาก และสามารถลบเสียงนินทาว่าเขาเข้ารับมารับเงินฟรีๆ จากสโมสร
โอเว่นไม่พูดถึงการกลับไปเล่นทีมชาติอังกฤษ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลาดีๆ ได้ป่านไปแล้ว
ต่างจากโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าเข้ารับการรักษานานร่วม 3 ปี แต่ไม่หายขาด จนแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องปล่อยตัวออกจากสโมสรเพื่อลดค่าใช้จ่ายออกไป
ฮาร์กรีฟส์ไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อว่าตัวเองยังเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดได้ เขาฝึกซ้อมด้วยตัวเองที่บ้านอย่างหนักหน่วง บันทึกภาพฝึกซ้อมแพร่เว็บยูทูบให้สโมสรต่างๆ เห็น และเชื่อมั่น พูดกันตรงๆคือเขาหางานทางยูทูบ จนโรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ ‘เรือใบสีฟ้า’ สนใจและนำมาร่วมทีม ใครจะแน่ใจได้ว่า ‘มันโช่’ อยากได้ ‘ฮาร์โก้’ มาเป็นหอกข้างแคร่ ‘ปีศาจแดง’ หรือเอามาเย้ยให้เจ็บใจ
ในเล่นเกมคาร์ลิ่ง คัพ ฮาร์กรีฟส์ได้รับโอกาสลงเล่น 57 นาที และยิงประตูเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ อย่างสวยงาม ‘มันโช่’ ให้กำลังลูกทีมผู้อาภัพว่า ถ้าหากรักษาความฟิตได้โอกาสกลับไปสู่ทีมชาติอังกฤษอยู่ไม่ไกล ถ้าทุกอย่างเดินไปสู่ทางที่ดี เขาจะใส่ชื่อฮาร์กรีฟส์เป็นผู้เล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยเคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้มาแล้ว
‘ฮาร์โก้’ อายุ 30 ปี ไม่เคยยอมแพ้ต่อความเจ็บปวด โอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลได้ก็ริบหรี่ แต่เขากลับฟื้นฟูสมรรถร่างกายของตัวเองให้กลับมาแข็งแกร่ง ที่สำคัญกว่านั้นก็คือสมรรถจิตของเขาแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของ ‘ยูไนเต็ด’ ที่ตัดสินใจปล่อยตัวออกไปดีกว่าเสียค่าอาหารฟรีๆ
ฮาร์กรีฟส์เชื่อมั่นเขาสามารถกลับไปเล่นทีมชาติได้อีกครั้ง แล้วทุ่มเทฝึกซ้อมด้วยสมาธิแน่วแน่ สิ่งประเสริฐที่สุดถ้าเราได้ดูเกม หลังยิงประตูได้ ‘ฮาร์โก้’ วิ่งออกไปแสดงความดีใจกับแฟนๆ อย่างสุภาพ ไม่ได้ออกอาการเว่อร์จนน่าเกลียด เขาเป็นผู้ใหญ่ที่รอบคอบ แถมมีประสบการณ์ในสนามมากเพียงพอ เพื่อนนักเตะเข้ามากอดคอแสดงความยินดี เชื่อว่า ฟาบิโอ คาเปลโล่ นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษก็คงได้เห็นและจับตานักเตะที่แข็งแกร่งคนนี้อยู่เช่นกัน
ในสนามฟุตบอลมีเรื่องดีเลวให้เยาวชนได้เอาอย่างและไม่เอาเยี่ยงมากมาก ทั้งจากตัวนักเตะและแฟนบอล เอริก คันโตน่า โดดถีบกองเชียร์ฝ่ายตรงข้าม กองเชียร์กับนักเตะแสดงความรังเกียจผิวสี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชูนิ้วกลางใส่แฟนบอลทีมตรงกันข้ามที่โห่ฮา แน่นอนว่านักฟุตบอลเป็นคนธรรมดาๆ แต่ภาพลักษณ์และพฤติกรรมของเขาอยู่ในสายตาของเด็กๆ ทั้งสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับผู้รักกีฬา
เด็กๆ จะได้รับอะไรเป็นบทเรียนจากโอเว่นและฮาร์กรีฟส์บ้าง
เราเรียนรู้ว่าโอเว่นผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน มีทรัพย์มหาศาล แต่อยากเล่นฟุตบอลในระดับสูง เขาทุ่มเทฝึกซ้อมรอโอกาส ไม่ประจบเจ้านายขอลงเล่น ฮาร์กรีฟส์ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาต่อสู้กับบาดแผลที่หัวเข่า แต่ไม่ยอมให้หัวใจมีบาดแผล
ฮาร์กรีฟส์สอนให้เด็กๆ ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และเรียนรู้ที่จะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง
ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบที่ 3 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว มีเรื่องดีๆ ที่น่าหยิบมาสนทนา ณ ที่นี้ นั่นคือเรื่องราวของไมเคิ่ล โอเว่น อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบัน
อีกคนคือโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัจจุบันเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราจะพูดถึงการยืนหยัด ความเข้าใจตัวเอง และแรงบันดาลใจของทั้งสองคน
โอเว่นประเดิมสนามในฤดูกาลนี้ด้วยการยิงลีดส์ ยูไนเต็ด 2 ประตู และหวังว่าจะได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง โดยวัย 31 ปี กับประสบการณ์อันโชกโชน โอเว่นยอมรับทีมมีนักเตะหนุ่มที่ฟอร์มกำลังโดดเด่นหลายคน ซึ่งยากที่เขาจะได้ลงเล่นทุกนัดเหมือนตอนอายุ 20 ปี แต่การทำประตูได้อีกครั้ง สร้างความมั่นใจให้แก่เขาอย่างมาก และสามารถลบเสียงนินทาว่าเขาเข้ารับมารับเงินฟรีๆ จากสโมสร
โอเว่นไม่พูดถึงการกลับไปเล่นทีมชาติอังกฤษ เพราะรู้ดีว่าช่วงเวลาดีๆ ได้ป่านไปแล้ว
ต่างจากโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าเข้ารับการรักษานานร่วม 3 ปี แต่ไม่หายขาด จนแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องปล่อยตัวออกจากสโมสรเพื่อลดค่าใช้จ่ายออกไป
ฮาร์กรีฟส์ไม่ยอมแพ้ เขาเชื่อว่าตัวเองยังเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดได้ เขาฝึกซ้อมด้วยตัวเองที่บ้านอย่างหนักหน่วง บันทึกภาพฝึกซ้อมแพร่เว็บยูทูบให้สโมสรต่างๆ เห็น และเชื่อมั่น พูดกันตรงๆคือเขาหางานทางยูทูบ จนโรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ ‘เรือใบสีฟ้า’ สนใจและนำมาร่วมทีม ใครจะแน่ใจได้ว่า ‘มันโช่’ อยากได้ ‘ฮาร์โก้’ มาเป็นหอกข้างแคร่ ‘ปีศาจแดง’ หรือเอามาเย้ยให้เจ็บใจ
ในเล่นเกมคาร์ลิ่ง คัพ ฮาร์กรีฟส์ได้รับโอกาสลงเล่น 57 นาที และยิงประตูเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ อย่างสวยงาม ‘มันโช่’ ให้กำลังลูกทีมผู้อาภัพว่า ถ้าหากรักษาความฟิตได้โอกาสกลับไปสู่ทีมชาติอังกฤษอยู่ไม่ไกล ถ้าทุกอย่างเดินไปสู่ทางที่ดี เขาจะใส่ชื่อฮาร์กรีฟส์เป็นผู้เล่นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยเคยคว้าแชมป์ถ้วยนี้มาแล้ว
‘ฮาร์โก้’ อายุ 30 ปี ไม่เคยยอมแพ้ต่อความเจ็บปวด โอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลได้ก็ริบหรี่ แต่เขากลับฟื้นฟูสมรรถร่างกายของตัวเองให้กลับมาแข็งแกร่ง ที่สำคัญกว่านั้นก็คือสมรรถจิตของเขาแข็งแกร่งเกินความคาดหมายของ ‘ยูไนเต็ด’ ที่ตัดสินใจปล่อยตัวออกไปดีกว่าเสียค่าอาหารฟรีๆ
ฮาร์กรีฟส์เชื่อมั่นเขาสามารถกลับไปเล่นทีมชาติได้อีกครั้ง แล้วทุ่มเทฝึกซ้อมด้วยสมาธิแน่วแน่ สิ่งประเสริฐที่สุดถ้าเราได้ดูเกม หลังยิงประตูได้ ‘ฮาร์โก้’ วิ่งออกไปแสดงความดีใจกับแฟนๆ อย่างสุภาพ ไม่ได้ออกอาการเว่อร์จนน่าเกลียด เขาเป็นผู้ใหญ่ที่รอบคอบ แถมมีประสบการณ์ในสนามมากเพียงพอ เพื่อนนักเตะเข้ามากอดคอแสดงความยินดี เชื่อว่า ฟาบิโอ คาเปลโล่ นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษก็คงได้เห็นและจับตานักเตะที่แข็งแกร่งคนนี้อยู่เช่นกัน
ในสนามฟุตบอลมีเรื่องดีเลวให้เยาวชนได้เอาอย่างและไม่เอาเยี่ยงมากมาก ทั้งจากตัวนักเตะและแฟนบอล เอริก คันโตน่า โดดถีบกองเชียร์ฝ่ายตรงข้าม กองเชียร์กับนักเตะแสดงความรังเกียจผิวสี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชูนิ้วกลางใส่แฟนบอลทีมตรงกันข้ามที่โห่ฮา แน่นอนว่านักฟุตบอลเป็นคนธรรมดาๆ แต่ภาพลักษณ์และพฤติกรรมของเขาอยู่ในสายตาของเด็กๆ ทั้งสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับผู้รักกีฬา
เด็กๆ จะได้รับอะไรเป็นบทเรียนจากโอเว่นและฮาร์กรีฟส์บ้าง
เราเรียนรู้ว่าโอเว่นผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน มีทรัพย์มหาศาล แต่อยากเล่นฟุตบอลในระดับสูง เขาทุ่มเทฝึกซ้อมรอโอกาส ไม่ประจบเจ้านายขอลงเล่น ฮาร์กรีฟส์ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาต่อสู้กับบาดแผลที่หัวเข่า แต่ไม่ยอมให้หัวใจมีบาดแผล
ฮาร์กรีฟส์สอนให้เด็กๆ ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และเรียนรู้ที่จะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง
