คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
มนุษย์เราประดิษฐ์สิ่งต่างๆเพื่อต่อสู้และดำรงอยู่กับธรรมชาติได้อย่างมีความสุขตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เรายังมีแสงสว่าง อากาศร้อนหรือหนาวเกินไป เราก็มีเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน หนทางห่างไกล ต้องเดินเท้าเป็นเดือนเป็นปี เราก็มี เรือ รถยนต์ และเครื่องบิน แผ่นดินไหนต่ำกว่าน้ำ ก็สร้างเขื่อนกั้นมันซะ ถ้าผมเป็นผู้นำประเทศ มีอำนาจอยู่ในมือ ป่านนี้จัดการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์วางทั่วประเทศเต็มไปหมดแล้ว แต่ละแห่งมีท่อสูบน้ำ ท่อส่งจ่ายน้ำระหว่างกัน ต่อไปนี้เมื่อน้ำมาก ก็สูบน้ำมาเก็บไว้ เมื่อถึงฤดูแล้ง ก็ปล่อยน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ ได้ทำการเกษตร อย่างนี้เมืองไทยคงไม่มีน้ำท่วม ไม่มีน้ำแล้ง เพราะมีการบริหารจัดการน้ำ แต่นี่มันเป็นปัญหาให้ชาวบ้านบักโกรกอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้อย่างไร
กลับมาว่ากันเรื่องกีฬาครับ เมื่อหลายวันก่อนผมได้ติดตามการชกมวยสากลชิงแชมป์โลกของสภามวยโลก ( WBC ) รุ่นเวลเท่อร์เวท ระหว่าง บิ๊คตอร์ ออร์ติซ ( Victor Ortiz ) แชมป์โลกชาวอเมริกา เชื้อสายเมฮีโก วัย 24 ปี กับ ฟลอยด์ เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ ( Floyd Mayweather, Jr. ) ผู้ท้าชิงชาวอเมริกา วัย 34 ปี ที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ใน ลาส เวกัส เนวาดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลปรากฏว่า เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เอาชนะน็อคในช่วงท้ายยกที่ 4 คว้าเข็มขัดแชมป์โลกไปครอง ท่ามกลางความกังขาของแฟนมวยทั่วโลก
เจ้าของฉาย “ วีชิอัส ” ( Vicious ) บิ๊กตอร์ ออร์ติซ นั้น นอกจากหน้าตาดูมีเสน่ห์ หมอนี่ยังมีสตายล์การชกแบบเอาใจคนดู ชอบออกอาการก้าวร้าว ดุดัน น็อคคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่น ในขณะที่ “ พริตตี้ บอย ” ( Pretty Boy ) ฟลอยด์ เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เป็นอดีตแชมป์โลกถึง 5 รุ่น ที่ยังไม่เคยแพ้ใครในการชกอาชีพ หลายคนคงจำได้ว่า หมอนี่คือคนที่ได้เหรียญบร๊อนซ์ใน โอลิมพิค เกมส์ 1996 ที่ แอ๊ทแลนท่า สหรัฐอเมริกา รุ่นเดียวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ เหรียญทองโอลิมพิคของไทย ซึ่งตอนนั้น เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ ดันไปแพ้ เซราฟิม โตโดร็อฟ ( Serafim Todorov ) จาก บุลกาเรีย ในรอบรองชนะเลิศซะก่อน จึงไม่ได้เจอกับ สมรักษ์ ในปัจจุบัน ทั้ง เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ กับ ออร์ติซ ถือว่าเป็นสินค้าชั้นดีของสถานีโทรทัศน์เลยทีเดียว
ก่อนถึงอวสานของ ออร์ติซ ในขณะที่กำลังต้อน เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เข้ามุม หมอนี่เจตนาเอาหัวกระแทกคางของ พริตตี้ บอย อย่างจัง จนกรรมการยุติการชกชั่วคราว และสั่งตัดคะแนน ออร์ติซ ซึ่ง ออร์ติซ ก็เข้าไปขอโทษ หลังจากนั้น กรรมการสั่งให้ชกต่อ ออร์ติซ เข้ามาขอโทษอีกครั้ง แต่ พริตตี้ บอย ถือว่ากรรมการให้ชกต่อได้แล้ว จึงฉวยโอกาสยิงฮุคซ้าย ตามด้วยขวาตรงเข้าใบหน้า ในขณะที่ ออร์ติซ ไม่ทันระวังตัว จึงแพ้น็อคเสียเข็มขัดไป
ผมไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า ใครผิด ใครถูก แต่มองว่ากีฬามวยสากลในโลกของเรายุคนี้มันคงไม่มีมวยแม่เหล็ก ชกกันด้วยฝีมือระดับสุดยอดของศตวรรษ ที่แต่ละคนมีสตายล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นนักชกที่ใครๆก็อยากติดตามชมอย่าง มูฮัมหมัด อาลี โจ เฟรเซ่อร์ ชูก้าร์ เรย์ เลโอนาร์ด หรือ ออสการ์ เด ลา โอยา ฯลฯ อีกแล้ว มันก็ต้องจัดฉากกันมาต้มคนดูทั่วโลกแบบนี้ สร้างเรื่องราวให้มันมีตอนต่อไปให้ติดตาม เรื่องอย่างนี้อเมริกาถนัดนัก มันก็คือการหลอกขายของปลอม ซึ่งความจริงก็ไม่ได้ดีไปกว่าการขายของละเมิดลิขสิทธิ์ที่เอ็งคอยไล่จับชาวบ้านอยู่ทั่วโลกหรอกครับ
ลำพังสเต๊คบ้านเอ็งจานหนึ่งปาเข้าไป 6-700 บาท ในขณะที่ในเมืองไทยข้าวจานหนึ่งราคาเพียง 30 บาท ผมว่าแรงงานก็ใช้เท่ากัน แต่ทำไมค่าจ้างมันสูงกว่ากันเยอะ ดังนั้น ภายใต้สภาวะปัญหาทางเศรษฐกิจของพวกเอ็ง ก็ควรรับกรรม บากหน้าอดทนทำงานที่ไม่เคยยอมทำเสียบ้าง เช่น เปิดท้ายขายของ ทำแซนด์วิช ผลิตของชำร่วยออกมาขาย แบบที่ชาวไทยเราเคยยอมก้มหน้ารับกรรมกับวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ 14 ปีที่แล้ว อย่ามาหลอกต้มตุ๋นกันอีกเลย
กีฬามวยปล้ำ ถ้าปล้ำกันจริงๆ มันชักช้า น่าเบื่อ ไม่มีความเร้าใจ ไม่มีคนดู พวกเอ็งก็จัดฉาก เตี๊ยมกันมา แค่เตี๊ยมคิวบู๊ยังไม่พอ ยังให้ต่างฝ่ายต่างด่าทอท้าทายใส่กัน เพิ่มความรุนแรงเป็นสีสันเข้าไป ฟาดกันด้วยเก้าอี้พับ ฯลฯ อันนี้มันกลายเป็นการแสดงที่ถูกเรียกว่า Exhibition Wrestling ซึ่งต่อไป มวยสากลอาชีพ มันจะกลายเป็น “ มวยโชว์ ” ที่มีสคริพท์ จัดฉาก เตี๊ยมมา และถูกเรียกว่า Exhibition Boxing
มนุษย์เราประดิษฐ์สิ่งต่างๆเพื่อต่อสู้และดำรงอยู่กับธรรมชาติได้อย่างมีความสุขตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เรายังมีแสงสว่าง อากาศร้อนหรือหนาวเกินไป เราก็มีเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน หนทางห่างไกล ต้องเดินเท้าเป็นเดือนเป็นปี เราก็มี เรือ รถยนต์ และเครื่องบิน แผ่นดินไหนต่ำกว่าน้ำ ก็สร้างเขื่อนกั้นมันซะ ถ้าผมเป็นผู้นำประเทศ มีอำนาจอยู่ในมือ ป่านนี้จัดการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์วางทั่วประเทศเต็มไปหมดแล้ว แต่ละแห่งมีท่อสูบน้ำ ท่อส่งจ่ายน้ำระหว่างกัน ต่อไปนี้เมื่อน้ำมาก ก็สูบน้ำมาเก็บไว้ เมื่อถึงฤดูแล้ง ก็ปล่อยน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ ได้ทำการเกษตร อย่างนี้เมืองไทยคงไม่มีน้ำท่วม ไม่มีน้ำแล้ง เพราะมีการบริหารจัดการน้ำ แต่นี่มันเป็นปัญหาให้ชาวบ้านบักโกรกอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้อย่างไร
กลับมาว่ากันเรื่องกีฬาครับ เมื่อหลายวันก่อนผมได้ติดตามการชกมวยสากลชิงแชมป์โลกของสภามวยโลก ( WBC ) รุ่นเวลเท่อร์เวท ระหว่าง บิ๊คตอร์ ออร์ติซ ( Victor Ortiz ) แชมป์โลกชาวอเมริกา เชื้อสายเมฮีโก วัย 24 ปี กับ ฟลอยด์ เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ ( Floyd Mayweather, Jr. ) ผู้ท้าชิงชาวอเมริกา วัย 34 ปี ที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ใน ลาส เวกัส เนวาดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลปรากฏว่า เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เอาชนะน็อคในช่วงท้ายยกที่ 4 คว้าเข็มขัดแชมป์โลกไปครอง ท่ามกลางความกังขาของแฟนมวยทั่วโลก
เจ้าของฉาย “ วีชิอัส ” ( Vicious ) บิ๊กตอร์ ออร์ติซ นั้น นอกจากหน้าตาดูมีเสน่ห์ หมอนี่ยังมีสตายล์การชกแบบเอาใจคนดู ชอบออกอาการก้าวร้าว ดุดัน น็อคคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่น ในขณะที่ “ พริตตี้ บอย ” ( Pretty Boy ) ฟลอยด์ เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เป็นอดีตแชมป์โลกถึง 5 รุ่น ที่ยังไม่เคยแพ้ใครในการชกอาชีพ หลายคนคงจำได้ว่า หมอนี่คือคนที่ได้เหรียญบร๊อนซ์ใน โอลิมพิค เกมส์ 1996 ที่ แอ๊ทแลนท่า สหรัฐอเมริกา รุ่นเดียวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ เหรียญทองโอลิมพิคของไทย ซึ่งตอนนั้น เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ ดันไปแพ้ เซราฟิม โตโดร็อฟ ( Serafim Todorov ) จาก บุลกาเรีย ในรอบรองชนะเลิศซะก่อน จึงไม่ได้เจอกับ สมรักษ์ ในปัจจุบัน ทั้ง เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ กับ ออร์ติซ ถือว่าเป็นสินค้าชั้นดีของสถานีโทรทัศน์เลยทีเดียว
ก่อนถึงอวสานของ ออร์ติซ ในขณะที่กำลังต้อน เมย์เวธเธ่อร์ จูเนียร์ เข้ามุม หมอนี่เจตนาเอาหัวกระแทกคางของ พริตตี้ บอย อย่างจัง จนกรรมการยุติการชกชั่วคราว และสั่งตัดคะแนน ออร์ติซ ซึ่ง ออร์ติซ ก็เข้าไปขอโทษ หลังจากนั้น กรรมการสั่งให้ชกต่อ ออร์ติซ เข้ามาขอโทษอีกครั้ง แต่ พริตตี้ บอย ถือว่ากรรมการให้ชกต่อได้แล้ว จึงฉวยโอกาสยิงฮุคซ้าย ตามด้วยขวาตรงเข้าใบหน้า ในขณะที่ ออร์ติซ ไม่ทันระวังตัว จึงแพ้น็อคเสียเข็มขัดไป
ผมไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่า ใครผิด ใครถูก แต่มองว่ากีฬามวยสากลในโลกของเรายุคนี้มันคงไม่มีมวยแม่เหล็ก ชกกันด้วยฝีมือระดับสุดยอดของศตวรรษ ที่แต่ละคนมีสตายล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นนักชกที่ใครๆก็อยากติดตามชมอย่าง มูฮัมหมัด อาลี โจ เฟรเซ่อร์ ชูก้าร์ เรย์ เลโอนาร์ด หรือ ออสการ์ เด ลา โอยา ฯลฯ อีกแล้ว มันก็ต้องจัดฉากกันมาต้มคนดูทั่วโลกแบบนี้ สร้างเรื่องราวให้มันมีตอนต่อไปให้ติดตาม เรื่องอย่างนี้อเมริกาถนัดนัก มันก็คือการหลอกขายของปลอม ซึ่งความจริงก็ไม่ได้ดีไปกว่าการขายของละเมิดลิขสิทธิ์ที่เอ็งคอยไล่จับชาวบ้านอยู่ทั่วโลกหรอกครับ
ลำพังสเต๊คบ้านเอ็งจานหนึ่งปาเข้าไป 6-700 บาท ในขณะที่ในเมืองไทยข้าวจานหนึ่งราคาเพียง 30 บาท ผมว่าแรงงานก็ใช้เท่ากัน แต่ทำไมค่าจ้างมันสูงกว่ากันเยอะ ดังนั้น ภายใต้สภาวะปัญหาทางเศรษฐกิจของพวกเอ็ง ก็ควรรับกรรม บากหน้าอดทนทำงานที่ไม่เคยยอมทำเสียบ้าง เช่น เปิดท้ายขายของ ทำแซนด์วิช ผลิตของชำร่วยออกมาขาย แบบที่ชาวไทยเราเคยยอมก้มหน้ารับกรรมกับวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อ 14 ปีที่แล้ว อย่ามาหลอกต้มตุ๋นกันอีกเลย
กีฬามวยปล้ำ ถ้าปล้ำกันจริงๆ มันชักช้า น่าเบื่อ ไม่มีความเร้าใจ ไม่มีคนดู พวกเอ็งก็จัดฉาก เตี๊ยมกันมา แค่เตี๊ยมคิวบู๊ยังไม่พอ ยังให้ต่างฝ่ายต่างด่าทอท้าทายใส่กัน เพิ่มความรุนแรงเป็นสีสันเข้าไป ฟาดกันด้วยเก้าอี้พับ ฯลฯ อันนี้มันกลายเป็นการแสดงที่ถูกเรียกว่า Exhibition Wrestling ซึ่งต่อไป มวยสากลอาชีพ มันจะกลายเป็น “ มวยโชว์ ” ที่มีสคริพท์ จัดฉาก เตี๊ยมมา และถูกเรียกว่า Exhibition Boxing
