ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของโลก ชาวสเปน ออกโรงจวกสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ที่เป็นฝ่ายรับผิดชอบจัดตารางแข่งขันโดยไม่คำนึงถึงนักเทนนิสที่ต้องเหนื่อยล้าจากการลงแข่งขันตลอดทั้งปี ขณะที่ ฟรานเชสโก ริชชี บอสของทางไอทีเอฟ เผยให้นักหวดจากแดนกระทิงดุ บ่นไปที่ฝ่ายเอทีพี เพราะมีส่วนตัดสินใจกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องการจัดตารางหวด
เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา "เอล มาทาดอร์" นำทัพนักหวดทีมชาติสเปน คว้าชัยเหนือทีมชาติฝรั่งเศสไป 4-1 คู่ ในการแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย "เดวิสคัพ 2011" รอบรองชนะเลิศ โดยทีมกระทิงดุเตรียมเข้าไปลุ้นแชมป์เทนนิสทีมชายเป็นสมัยที่ 5 ในรอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติอาร์เจนตินา ที่เพิ่งโค่นแชมป์เก่าอย่างเซอร์เบีย 3-2 คู่ ในรอบชิงชนะเลิศระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม หวดวัย 25 ปี ที่ต้องเดินทางมารับใช้ทีมชาติสเปน หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ยูเอส โอเพน รอบชิงชนะเลิศกับ โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลก เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (12 ก.ย.) ออกโรงจวกทางสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำนองว่าเป็นพวกหน้าเงิน และจัดตารางการแข่งขันโดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายของนักเทนนิส ที่กรำศึกหนักมาตลอดทั้งปีแม้แต่น้อย
โดยครั้งนั้น นาดาล ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า "เอทีพี ทำสิ่งดีๆให้กับนักเทนนิสอย่างมากมาย พวกเขาช่วยเหลือผลประโยชน์ของเหล่านักเทนนิสทุกคน ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน ต่างจากทางไอทีเอฟที่มีอำนาจตัดสินใจอยู่ในมือ แต่ไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น แน่นอนที่สุด พวกเขามองเพียงแค่การได้รับเงินจากเยาวชนเท่านั้น แต่ไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตารางการแข่งขันเลยแม้แต่น้อย"
ทั้งนี้ จากคำสัมภาษณ์ดังกล่าว ทำให้ ฟรานเชสโก ริชชี หัวหน้าของไอทีเอฟ ตอกกลับนักหวดฉายา "คิง ออฟ เคลย์" กลับไปว่า "ผมชื่นชมในตัวของนาดาล เขาเป็นแชมเปียนที่ยิ่งใหญ่ และเป็นต้นแบบที่ดีในวงการกีฬา แต่หากจะกล่าวว่าการแข่งขันเดวิสคัพ ทำให้ผู้เล่นอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากยิ่ง ทำไมเขาไม่อธิบายไปทางเอทีพี ที่มีส่วนกำหนดตารางแข่งขันถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า"
"พวกเราไม่ใช่พวกน้ำเต็มแก้วอย่างที่กล่าวหา เพราะทางไอทีเอฟรับฟังความเห็นของผู้เล่นเสมอ ยกตัวอย่าง ผมเคยพูดอยู่แล้วว่าเดือนกันยายน อันเป็นเวลาที่ต้องทำการแข่งขันเดวิสคัพ นั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และพวกเราก็ต้องการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน มีการเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้กับประธานของเอทีพีอยู่ตลอด และพวกเราก็กำลังหาทางออกสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน" ริชชี กล่าว
