คอลัมน์ "ลูกฟุตบอลสีชมพู" โดย "ไม้ขีดไฟ"
รอบค่ำวันเสาร์นั่งชมขุนพลอาร์เซนอลบุกสนามอีวู้ด พาร์คของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ อย่างมีความหวังว่าทีมระดับ ‘บิ๊กโฟร์’ จะผ่านมรสุมไปได้ หลังออกไปเสมอโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง กุนซืออาร์แซน เวนเกอร์ ย้ำกับนักเตะหนักแน่น - เกมนี้ต้องชนะให้ได้
เห็นนักเตะ 11 ตัวแรก ที่ยอดกุนซือเมืองใส่ลงไป ยังไม่มียอสซี่ เบนายูน กับ ปาร์ค ซู ยอง ดาวยิงเลือดโสมที่ซื้อจากโมนาโก ไม่มีแม้รายถือเป็นตัวสำรอง ใจหายเหมือนกัน
เริ่มเกมอาร์เซนอลทำได้ดี นาทีที่ 10 แชร์วินโญ่ เบิกประตูแรก แต่เกมรับยังไม่แน่น นาทีที่ 25 แบล็คเบิร์นตีเสมอได้ มันเร็วเกินไปสำหรับทีมที่จะกลับมาไล่ล่าแช้มป์ แถมนักเตะทำประตัวเอง 2 ลูกในเกมเดียว ช่างยากที่จะรีดกำลังจากทุกขุมข้อมาเอาชนะ
อาร์เซนอลยังแกว่งไปอีก 2 - 3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย จนกว่าเวนเกอร์จะกล้าใช้นักเตะใหม่ และจัดหานายทวารเก่งๆ มาเพิ่มอีกคนตอนต้นปี
กลายเป็นน้องใหม่แสบสันต์ทั้ง 3 ทีม เมื่อสวอนซีที่อ่อนหัดมา 2 – 3 เกม เปิดบ้านยิงถล่มเวสต์บรอมวิชเละเทะ 3 - 0 ประตู โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่ออกสตาร์ทได้หรูฟอร์มถดถอยอย่างรวดเร็ว พ่ายนอริช ซิตี้ คารัง 1 – 2 ประตู วูล์ฟแฮมป์ตันยังไม่แกร่งจริงเล่นในบ้านโดนควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส บุกมายิง 0 - 3
ทั้งๆ ที่ก่อนลงสนามบ่อนถูกกฎหมายต่างประเทศให้ โบลตัน กับ วูล์ฟ เป็นต่อ ส่วนสวอนซีออกเสมอ พินิจให้ดีๆ 5 เกมแรกของพรีเมียร์ชิปฤดูกาลนี้อย่างน้อย 15 ทีมยังปรับฟอร์มให้เสถียรไม่ได้ โอกาสแพ้ชนะเปิดกว้างทั้งสิ้น ไม่ว่า สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล, สโต๊คหรือโบลตัน
อย่าว่าแต่พรีเมียร์ชิปเลย ลีก เอิง กับบุนเดสลิกา ก็พลิกจนทายไม่ถูก ข้อควรสังเกตผลแพ้ชนะมีใบแดงเป็นแรงหนุนอยู่ด้วย แม้ไม่ทุกคู่ก็ตาม
คืนวันเสาร์ลีก เอิงเตะ 7 คู่ 5 คู่มีใบแดง บุนเดสลิกาเตะ 6 คู่มีใบแดง 4 คู่ พลิกพ่ายมโหฬารกลายเป็นเลเวอร์คูเซ่นที่ถูกโคโลญบุกถล่ม 1 – 4 ยับเยินต่อหน้าแฟนๆ
12 – 14 ทีมในบุนเดสลิกา ฟอร์มยังแกว่งไม่น่าวางใจแม้แชมป์เก่าดอร์ทมุนด์ก็ถาม
โฉบไปสเปนบ้าง บาร์เซโลน่าเล่นเสมอ 2 – 2 ประตูมา 2 เกม เปิดบ้านล้างอายสำเร็จ หลังถล่มโอซาซูน่า 8 – 0 พูลสวัสดิ์ เหมือนต้องการส่งเสียงคำรามไปยังคู่แข่งโดยตรง รีล มาดริด ว่าฟอร์มเทพของพวกข้ากลับมาแล้ว
ศึกพรีเมียร์ชิป วันอาทิตย์ที่ 18 กันยา (เมื่อคืน) ทีมยักษ์ใหญ่ออกสตาร์ทเยี่ยมถึงเวลาพิสูจน์ฟอร์มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดรับเชลซี ฟูแล่มรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 คู่นี้เป็นไฮไลท์ (เขียนต้นฉบับวันอาทิตย์) ทีมยักษ์เมืองแมนเชสเตอร์ทีมไหนแพ้ต้องถอยมาอยู่ล่างอีกทีม
ถ้า ‘ปีศาจแดง’ ร้อนแรงจริง เชลซีคงง่อยกลับไป แต่เชลซียังไม่แพ้ใคร บอลคู่มีอะไรให้มองมากมุม เจ้าบ้านจะสะดุดไหม ทีมเยือนจะกลับมาเก่ง และเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างเข้มข้นอีกหรือไม่
ฟูแล่มเล่นเกมในคราเว่น ค็อตเทจเหนียวแน่นก็จริงอยู่ แต่ฟอร์มของกุน อเกวโร่ กับ เอดิน เซโก้ ยากจะต้านทาน แต่ไม่อยากเชื่อว่าฟูแล่มจะแพ้ยับเยิน เทียบฟอร์มกันแล้ว ‘เรือใบสีฟ้า’ มีโอกาสชนะและขึ้นไปยืนหัวตารางมากกว่าแมนฯ ยูฯ
คู่ 4 ดาวครึ่ง สเปอร์สรับลิเวอร์พูล เป็นบทพิสูจน์ว่า ‘ไก่เดือยทอง’ จะกระต๊าก ๆ อย่างมีความสุข หรือ ‘หงส์แดง’ จะกลับมาคืนฟอร์ม ถ้าเป็นเครื่องบินทั้ง 2 ทีมกำลังอยู่ระหว่างตั้งลำ และบินได้อย่างราบรื่น
หวังว่า ใบแดง จะไม่เข้ามาเปลี่ยนผลการแข่งขัน
รอบค่ำวันเสาร์นั่งชมขุนพลอาร์เซนอลบุกสนามอีวู้ด พาร์คของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ อย่างมีความหวังว่าทีมระดับ ‘บิ๊กโฟร์’ จะผ่านมรสุมไปได้ หลังออกไปเสมอโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ทีมกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง กุนซืออาร์แซน เวนเกอร์ ย้ำกับนักเตะหนักแน่น - เกมนี้ต้องชนะให้ได้
เห็นนักเตะ 11 ตัวแรก ที่ยอดกุนซือเมืองใส่ลงไป ยังไม่มียอสซี่ เบนายูน กับ ปาร์ค ซู ยอง ดาวยิงเลือดโสมที่ซื้อจากโมนาโก ไม่มีแม้รายถือเป็นตัวสำรอง ใจหายเหมือนกัน
เริ่มเกมอาร์เซนอลทำได้ดี นาทีที่ 10 แชร์วินโญ่ เบิกประตูแรก แต่เกมรับยังไม่แน่น นาทีที่ 25 แบล็คเบิร์นตีเสมอได้ มันเร็วเกินไปสำหรับทีมที่จะกลับมาไล่ล่าแช้มป์ แถมนักเตะทำประตัวเอง 2 ลูกในเกมเดียว ช่างยากที่จะรีดกำลังจากทุกขุมข้อมาเอาชนะ
อาร์เซนอลยังแกว่งไปอีก 2 - 3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย จนกว่าเวนเกอร์จะกล้าใช้นักเตะใหม่ และจัดหานายทวารเก่งๆ มาเพิ่มอีกคนตอนต้นปี
กลายเป็นน้องใหม่แสบสันต์ทั้ง 3 ทีม เมื่อสวอนซีที่อ่อนหัดมา 2 – 3 เกม เปิดบ้านยิงถล่มเวสต์บรอมวิชเละเทะ 3 - 0 ประตู โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่ออกสตาร์ทได้หรูฟอร์มถดถอยอย่างรวดเร็ว พ่ายนอริช ซิตี้ คารัง 1 – 2 ประตู วูล์ฟแฮมป์ตันยังไม่แกร่งจริงเล่นในบ้านโดนควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส บุกมายิง 0 - 3
ทั้งๆ ที่ก่อนลงสนามบ่อนถูกกฎหมายต่างประเทศให้ โบลตัน กับ วูล์ฟ เป็นต่อ ส่วนสวอนซีออกเสมอ พินิจให้ดีๆ 5 เกมแรกของพรีเมียร์ชิปฤดูกาลนี้อย่างน้อย 15 ทีมยังปรับฟอร์มให้เสถียรไม่ได้ โอกาสแพ้ชนะเปิดกว้างทั้งสิ้น ไม่ว่า สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล, สโต๊คหรือโบลตัน
อย่าว่าแต่พรีเมียร์ชิปเลย ลีก เอิง กับบุนเดสลิกา ก็พลิกจนทายไม่ถูก ข้อควรสังเกตผลแพ้ชนะมีใบแดงเป็นแรงหนุนอยู่ด้วย แม้ไม่ทุกคู่ก็ตาม
คืนวันเสาร์ลีก เอิงเตะ 7 คู่ 5 คู่มีใบแดง บุนเดสลิกาเตะ 6 คู่มีใบแดง 4 คู่ พลิกพ่ายมโหฬารกลายเป็นเลเวอร์คูเซ่นที่ถูกโคโลญบุกถล่ม 1 – 4 ยับเยินต่อหน้าแฟนๆ
12 – 14 ทีมในบุนเดสลิกา ฟอร์มยังแกว่งไม่น่าวางใจแม้แชมป์เก่าดอร์ทมุนด์ก็ถาม
โฉบไปสเปนบ้าง บาร์เซโลน่าเล่นเสมอ 2 – 2 ประตูมา 2 เกม เปิดบ้านล้างอายสำเร็จ หลังถล่มโอซาซูน่า 8 – 0 พูลสวัสดิ์ เหมือนต้องการส่งเสียงคำรามไปยังคู่แข่งโดยตรง รีล มาดริด ว่าฟอร์มเทพของพวกข้ากลับมาแล้ว
ศึกพรีเมียร์ชิป วันอาทิตย์ที่ 18 กันยา (เมื่อคืน) ทีมยักษ์ใหญ่ออกสตาร์ทเยี่ยมถึงเวลาพิสูจน์ฟอร์มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดรับเชลซี ฟูแล่มรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 คู่นี้เป็นไฮไลท์ (เขียนต้นฉบับวันอาทิตย์) ทีมยักษ์เมืองแมนเชสเตอร์ทีมไหนแพ้ต้องถอยมาอยู่ล่างอีกทีม
ถ้า ‘ปีศาจแดง’ ร้อนแรงจริง เชลซีคงง่อยกลับไป แต่เชลซียังไม่แพ้ใคร บอลคู่มีอะไรให้มองมากมุม เจ้าบ้านจะสะดุดไหม ทีมเยือนจะกลับมาเก่ง และเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างเข้มข้นอีกหรือไม่
ฟูแล่มเล่นเกมในคราเว่น ค็อตเทจเหนียวแน่นก็จริงอยู่ แต่ฟอร์มของกุน อเกวโร่ กับ เอดิน เซโก้ ยากจะต้านทาน แต่ไม่อยากเชื่อว่าฟูแล่มจะแพ้ยับเยิน เทียบฟอร์มกันแล้ว ‘เรือใบสีฟ้า’ มีโอกาสชนะและขึ้นไปยืนหัวตารางมากกว่าแมนฯ ยูฯ
คู่ 4 ดาวครึ่ง สเปอร์สรับลิเวอร์พูล เป็นบทพิสูจน์ว่า ‘ไก่เดือยทอง’ จะกระต๊าก ๆ อย่างมีความสุข หรือ ‘หงส์แดง’ จะกลับมาคืนฟอร์ม ถ้าเป็นเครื่องบินทั้ง 2 ทีมกำลังอยู่ระหว่างตั้งลำ และบินได้อย่างราบรื่น
หวังว่า ใบแดง จะไม่เข้ามาเปลี่ยนผลการแข่งขัน