นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติกีฬาที่ยังตกค้างอยู่ในรัฐสภาให้มีผลบังคับใช้ในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้ทันต่อการเจริฐเติบโตของกีฬาอาชีพในระดับนานาชาติ รวมถึงผลักดันนโยบายการพัฒนากีฬา 5 ข้อ ในการแถลงมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการของกระทรวงฯ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2554 นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการของกระทรวงฯ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้ทราบถึงเจตนารมณ์ แนวทางการดำเนินงาน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เผยถึงแผนนโยบายการพัฒนากีฬา ประกอบด้วย 1. เสริมสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา และประกอบกิจกรรมนันทนาการ ในวงกว้างตั้งแต่ระดับชุมชนท้องถิ่น โดรงเรียน ระดับตำบล จนถึงระดับจังหวัด รวมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนรักกีฬา ดูกีฬา และเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง
2.ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาค โดยเน้นการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย, อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 6 ณ กรุงจาการ์ตา, กีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน, กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30, กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ณ ประเทศอังกฤษ, กีฬาเอเชียนยูธเกมส์และยูธโอลิมปิกเกมส์
3.จัดหาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการกีฬาให้เพียงพอ โดยส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในกิจการด้านการกีฬา ด้วยการให้เอกชนลงทุนก่อสร้างสถานกีฬาตามมาตรฐานที่กำหนดซึ่งพิจารณาจัดสรรสิทธิประโยชน์ทางภาษีและผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ ให้เอื้อต่อการประกอบกิจการด้านกีฬาตามกฏหมายที่มีอยู่แล้ว เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐและการสนับสนุนส่งเสริมรายการแข่งขันกีฬา เพื่อเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมกีฬาเชิงเศรษฐกิจเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และพัฒนารูปแบบในการระดมทุนและสร้างรายได้ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4จัดให้มีทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนแก่เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถ โดยเพิ่มศักยภาพและยกมาตรการจัดการศึกษา มุ่งผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการพลศึกษา การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และส่งเสริม สนับสนุนจัดการศึกษาสำหรับบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษทางการกีฬาในโรงเรียนกีฬา และศูนย์กีฬาเพื่อความเป็นเลิศในวิทยาเขตที่จัดการศึกษา ทั้งบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย พร้อมสร้างเครือข่ายการจัดการศึกษาและการบริการวิชาการการกีฬาร่วมกับชุมชนท้องถิ่น
5.พัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาใช้ในการเสริมสร้างคุณภาพนักกีฬา จัดให้มีการควบคุมมาตรฐานการฝึกสอนด้านการกีฬา มาตรฐานด้านนักกีฬา จัดสรรงบประมาณในการฝึกซ้อมและการแข่งขันให้นักกีฬาทุกระดับ รวมทั้งมาตรฐานด้านการแข่งขันกีฬาให้มีคุณภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาอาชีพให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นในกีฬาฟุตบอล, วอลเลย์บอล, ตะกร้อ, ตะกร้อลอดห่วง, กอล์ฟ, สนุกเกอร์, เทนนิส, แบดมินตัน, โบว์ลิ่ง, จักรยานยนต์, รถยนต์ และ เทเบิลเทนนิส พร้อมทั้งจัดตั้ง "สปอร์ต อะคาเดมี" กีฬาอาชีพเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่นักกีฬาเพื่อพัฒนาสู่กีฬาอาชีพต่อไป
นอกจากนี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงความคืบหน้าเรื่องการปรับปรุงกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ว่า "ขณะนี้ได้เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ ประจำปี 2555-2559, ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. ..., ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. ... , พระราชบัญญัติกีฬามวย และ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ซึ่งปัจุจบันร่าง พรบ.ดังกล่าวได้อยู่ที่สภาผู้แทนราษฏรเรียบร้อยแล้ว โดยทางกระทรวงฯ กำลังเร่งดำเนินการผลักดันให้มีการนำออกมาบังคับใช้ให้เสร็จทันรัฐบาลชุดนี้"
"ขณะเดียวกันได้มีการเสนอร่างกฏหมายใหม่ อาทิ ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ... และ พระราชบัญญัติส่งเสริม พัฒนาการกีฬาและนันทนาการ พ.ศ. ... ทั้งนี้เพื่อสร้างองค์ความรู้ เผยแพร่กฏหมายและสื่อสารทางการกีฬา เพื่อให้กฏหมายการบริหารจัดการกีฬานำไปสู่มาตรฐานการกีฬาและสร้างคุณธรรม จริยธรรมทางการกีฬา และกฏหมายอื่นๆ เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการด้านกีฬาให้มีประสิทธิภาพและทันต่อการเจริฐเติบโตของกีฬาอาชีพในระดับนานาชาติอันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยกระทรวงฯ ได้มีการเสนอแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 วงเงินลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 157,047.51 บาท" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันจันทร์ที่ 5 กันยายน 2554 นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการของกระทรวงฯ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้ทราบถึงเจตนารมณ์ แนวทางการดำเนินงาน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เผยถึงแผนนโยบายการพัฒนากีฬา ประกอบด้วย 1. เสริมสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา และประกอบกิจกรรมนันทนาการ ในวงกว้างตั้งแต่ระดับชุมชนท้องถิ่น โดรงเรียน ระดับตำบล จนถึงระดับจังหวัด รวมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนรักกีฬา ดูกีฬา และเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง
2.ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของภูมิภาค โดยเน้นการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย, อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 6 ณ กรุงจาการ์ตา, กีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน, กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 30, กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ณ ประเทศอังกฤษ, กีฬาเอเชียนยูธเกมส์และยูธโอลิมปิกเกมส์
3.จัดหาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการกีฬาให้เพียงพอ โดยส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในกิจการด้านการกีฬา ด้วยการให้เอกชนลงทุนก่อสร้างสถานกีฬาตามมาตรฐานที่กำหนดซึ่งพิจารณาจัดสรรสิทธิประโยชน์ทางภาษีและผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ ให้เอื้อต่อการประกอบกิจการด้านกีฬาตามกฏหมายที่มีอยู่แล้ว เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐและการสนับสนุนส่งเสริมรายการแข่งขันกีฬา เพื่อเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งส่งเสริมกีฬาเชิงเศรษฐกิจเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และพัฒนารูปแบบในการระดมทุนและสร้างรายได้ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4จัดให้มีทุนการศึกษาและทุนสนับสนุนแก่เด็กและเยาวชนที่มีความสามารถ โดยเพิ่มศักยภาพและยกมาตรการจัดการศึกษา มุ่งผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการพลศึกษา การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และส่งเสริม สนับสนุนจัดการศึกษาสำหรับบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษทางการกีฬาในโรงเรียนกีฬา และศูนย์กีฬาเพื่อความเป็นเลิศในวิทยาเขตที่จัดการศึกษา ทั้งบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย พร้อมสร้างเครือข่ายการจัดการศึกษาและการบริการวิชาการการกีฬาร่วมกับชุมชนท้องถิ่น
5.พัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาใช้ในการเสริมสร้างคุณภาพนักกีฬา จัดให้มีการควบคุมมาตรฐานการฝึกสอนด้านการกีฬา มาตรฐานด้านนักกีฬา จัดสรรงบประมาณในการฝึกซ้อมและการแข่งขันให้นักกีฬาทุกระดับ รวมทั้งมาตรฐานด้านการแข่งขันกีฬาให้มีคุณภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาอาชีพให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นในกีฬาฟุตบอล, วอลเลย์บอล, ตะกร้อ, ตะกร้อลอดห่วง, กอล์ฟ, สนุกเกอร์, เทนนิส, แบดมินตัน, โบว์ลิ่ง, จักรยานยนต์, รถยนต์ และ เทเบิลเทนนิส พร้อมทั้งจัดตั้ง "สปอร์ต อะคาเดมี" กีฬาอาชีพเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่นักกีฬาเพื่อพัฒนาสู่กีฬาอาชีพต่อไป
นอกจากนี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงความคืบหน้าเรื่องการปรับปรุงกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ว่า "ขณะนี้ได้เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ สังคมแห่งชาติ ประจำปี 2555-2559, ร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. ..., ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. ... , พระราชบัญญัติกีฬามวย และ ร่างพระราชบัญญัติสถาบันการพลศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ซึ่งปัจุจบันร่าง พรบ.ดังกล่าวได้อยู่ที่สภาผู้แทนราษฏรเรียบร้อยแล้ว โดยทางกระทรวงฯ กำลังเร่งดำเนินการผลักดันให้มีการนำออกมาบังคับใช้ให้เสร็จทันรัฐบาลชุดนี้"
"ขณะเดียวกันได้มีการเสนอร่างกฏหมายใหม่ อาทิ ร่างพระราชบัญญัตินโยบายการกีฬาแห่งชาติ พ.ศ. ... และ พระราชบัญญัติส่งเสริม พัฒนาการกีฬาและนันทนาการ พ.ศ. ... ทั้งนี้เพื่อสร้างองค์ความรู้ เผยแพร่กฏหมายและสื่อสารทางการกีฬา เพื่อให้กฏหมายการบริหารจัดการกีฬานำไปสู่มาตรฐานการกีฬาและสร้างคุณธรรม จริยธรรมทางการกีฬา และกฏหมายอื่นๆ เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการด้านกีฬาให้มีประสิทธิภาพและทันต่อการเจริฐเติบโตของกีฬาอาชีพในระดับนานาชาติอันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยกระทรวงฯ ได้มีการเสนอแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2555-2558 วงเงินลงทุนจำนวนทั้งสิ้น 157,047.51 บาท" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว
