อุบลราชธานี - หนึ่งในแก๊ง 18 มงกุฏ ซึ่งรับราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชิงเข้ามอบตัวก่อนถูกออกหมายจับ อ้างตัวเองก็ถูกกระเทแสบหลอกให้หลงเชื่อเช่นกัน หลังให้การกับเจ้าหน้าที่ได้รับการปล่อยตัวไปชั่วคราว ด้านชุดสืบสวนระบุ ยังมีเพื่อนร่วมแก๊งที่เข้าข่ายร่วมกันกระทำผิดอีก 3 คน จ่อคิวรอออกหมายจับในสัปดาห์หน้า หากสอบพยานพบพาดพิงเบื้องสูงสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้อีก พร้อมสืบเบาะแสกระเทแสบคาดหลบอยู่ในจังหวัดภาคเหนือ
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จับนายเฉลิมศักดิ์ มีสานุ ผู้ร่วมในขบวนการหลอกลวงประชาชนฝากเข้าทำงานกับ โครงการในพระราชดำริ ทำให้มีชาวบ้านหลงเชื่อเสียเงินค่านายหน้าให้กับแก๊งต้มตุ๋นถึง 51 ราย เสียเงินไปรวมกันกว่า 2 ล้านบาท และยังมีผู้ร่วมในขบวนการบางคนยังหลบหนีอยู่ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(29 เม.ย. )นายราเชนทร์ บุญทัน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 259/140 หมู่บ้านเอื้ออาทร อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และรับราชการในตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์ชำนาญงาน (จนท.ธุรการ) ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเลคโทนิค มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของจังหวัด ได้เดินทางมาแสดงตัวกับ พ.ต.ท.ชินโชติ พึ่งแสง ผกก.สส.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
และให้การปฏิเสธอ้างว่าตนเองก็ถูกนายกิตติศักดิ์ ศุภาสูนย์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นกระเทและยังหลบหนีหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกองงานโครงการตามพระราชดำริเช่นกัน หลังรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ได้ควบคุมตัวไว้ตามกฏหมายใหม่
พ.ต.ท.ชินโชติเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเสร็จไปแล้วกว่า 30 ปาก ยังเหลืออีกประมาณ 20 ปาก หลังจากนั้น สัปดาห์หน้าจะเสนอศาลขอออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการที่พยานให้การพาดพิงถึงอีก 3 ราย โดยเป็นชาย 1 และผู้หญิง 2 คน
สำหรับจะมีการแจ้งข้อหาอื่นใดเพิ่มเติมกับขบวนการต้มตุ๋นแก๊งนี้อีกหรือไม่ ต้องดูเจตนาการแอบอ้างจากสำนวนที่พยานให้การ หากพบเข้าข่ายก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ทันที
ส่วนการติดตามจับตัวนายกิตติศักดิ์ ซึ่งได้ออกหมายจับเป็นชุดแรก ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ติดตามไปยังแหล่งกบดานในจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือแล้ว คาดว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้