ASTVผู้จัดการรายวัน-ศึก คอมมูนิตี ชิลด์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เร่งเครื่องครึ่งหลังบดขยี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี จนเบียดคว้าชัย 3-2 ถือเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้คอลูกหนังอยากเร่งเวลาให้ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาลใหม่เปิดฉากก่อนวันที่ 13 สิงหาคมนี้ ก่อนหน้านั้น "เซียนไก๋" คอลัมนิสต์ประจำโต๊ะข่าวกีฬา MGR SPORT จึงถือโอกาสวิเคราะห์วิจารณ์และติดดาวแต่ละทีมว่าเตรียมพร้อมสำหรับปีหน้าขนาดไหนเป็นการเรียกน้ำย่อย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดดาว 5
ปีที่แล้ว แมนฯยู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร เพราะคู่แข่งสะดุดขาตัวเองแพ้กันไป 8-9 นัดส่วนตัวเองเสมอไปถึง 11 นัดโชคดีที่ฟอร์มไร้พ่ายในถิ่นโดยเป็นการชนะถึง 18 นัดช่วยเอาไว้ ซัมเมอร์นี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยจัดหนักเบิกเงิน 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) ตกแต่งภายในตั้งแต่หลังบ้านจนถึงกองกลางถือเป็นการเสริมใยเหล็กได้อย่างตรงจุด ดาบิด เด เคอา เข้ามาทำให้มีนายด่านฝีมือดีถึง 4 ราย ฟิล โจนส์ เหมือนสองคนในร่างเดียวเล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์, แบ็กขวาและกองกลางตัวรับ แทนการจากไปของ เวส บราวน์ และ จอห์น โอเชีย ได้สบาย ส่วน แอชลีย์ ยัง คือตัวแทนของ ไรอัน กิ๊กส์ กองหน้าไม่ขยับเพราะแข้งหลายคนกลับมาจากยืมตัวโดยมีให้เลือกใช้งานถึง 7 ราย จากนัดชิง คอมมูนิตี ชิลด์ ก็เห็นแล้วว่าครึ่งหลังป๋าเปลี่ยนตัวแบบให้โอกาสดาวรุ่ง แต่ดันกลายเป็นแรงขับเคลื่อนจนชนะ แมนฯซิตี จึงน่าจับตามองว่าเจเนอเรชันใหม่ "ยัง แทร็ฟฟอร์ด" จะสร้างความฮือฮาขนาดไหน
เชลซี ติดดาว 4
เชลซี เป็นทีมที่มีมาตรฐานสูงอยู่แล้วต่อกรกับ แมนฯยู ได้อย่างสนุกช่วง 4-5 ปีหลัง ทำให้ซัมเมอร์นี้ส่วนใหญ่พูดถึง อังเดร บียาส-โบอาส กุนซือหนุ่มคนใหม่ว่าฝีไม้ลายมือจะตามรอย โชเซ มูรินโญ ได้หรือไม่ หลังโยกมาจาก ปอร์โต ที่ฝากผลงานทริปเปิลแชมป์เอาไว้เมื่อปีที่แล้ว ขุมกำลังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ลงตัวอยู่แล้ว จอห์น เทอร์รี ยังเป็นแกนหลักในแนวรับ กองหน้ามีทั้ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ แถมยังได้ โรเมลู ลูกากู กองหน้าดาวโรจน์ชาวเบลเยี่ยม ที่ต้องติคือกองกลางยังไม่มีตัวแทน แฟรงค์ แลมพาร์ด ด้วยวัย 33 ปีบางจังหวะก็เร่งไม่ขึ้นช่วงท้ายเกมลูกยิงไกลแถวสองไม่มีให้เห็น แต่ไม่แน่ ออริโอล โรเมอู มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่โยกจาก บาร์เซโลนา อาจจะฉายแสงจอมทัพก็เป็นไปได้
ลิเวอร์พูล ติดดาว 3
ถือเป็นปีที่ เคนนี ดัลกลิช จะได้พิสูจน์ฝีมือแบบเต็มๆ แต่บ่าสองข้างก็เต็มไปด้วยความหวังของสาวก "เดอะ ค็อป" โดยมีการเสริมทัพกองกลางถึง 3 รายคือ ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ สจ๊วร์ต ดาวนิง แสดงให้เห็นว่าอาจจะเน้นระบบ 4-5-1 แต่ก็ต้องยืดหยุ่นปรับเป็นกองหน้า 2 คนได้ตามสถานการณ์ การที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปปีนี้ถือเป็นผลดี เนื่องจากจะได้มุ่งสมาธิมายังการแข่งขันภายในประเทศแบบเต็มตัวอาจจะมีแชมป์บอลถ้วยติดมือสักหนึ่งรายการ ส่วนอีกหนึ่งเป้าหมายก็คือท็อปโฟร์เพื่อกลับไปเล่นศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ทว่าออกสตาร์ทดีมีชัยไปกว่าครึ่งขอดูผลงานสัก 5-10 นัดอาจจะบอกได้มากกว่านี้ว่าหมู่หรือจ่า
แมนเชสเตอร์ ซิตี ติดดาว 2
ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปีที่แล้วถือเป็นแชมป์แรกของสโมสรรอบ 35 ปีและยังได้อันดับ 3 ซิวโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แต่ต้องบอกว่าเพิ่งผ่านแค่ด่านแรกเท่านั้น ซัมเมอร์นี้ โรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาเลี่ยนพยายามโละนักเตะขยะแต่ทำไม่สำเร็จจึงขยับตัวไม่ได้มากนัก 2 แข้งที่ได้มาเสริมแนวรับคือ กาแอล คลิชี และ สเตฟาน ซาวิช ถ้าไม่ได้มาก็ไม่เป็นไร ที่เข้าตามีเพียง เซร์คิโอ อกูเอโร กองหน้าไซส์เอสชาวอาร์เจนไตน์ที่ทำสถิติโยกย้ายแพงเป็นอันดับ 2 ค่าตัว 38 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) ดูผิวเผินเหมือนจะดี แต่ก็ทับตำแหน่งกับ คาร์ลอส เตเบซ และยังมี เอดิน เซโก, มาริโอ บาโลเตลลี "มันโช" สไตล์ใช้กองกลางตัวรับเป็นหลักอยู่แล้วการเสริมทัพจึงดูเหมือนเศรษฐีอยากใช้เงินมากกว่า
อาร์เซนอล ติดดาว 1
ปีที่แล้ว อาร์เซนอล ผลิตสกอร์ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 แต่เสียประตูมากที่สุดในบรรดา "บิ๊กโฟร์" ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้ไร้แชมป์ 6 ปีติดต่อกัน เกมที่น่าชนะกลับเสมอและน่าเสมอกลับแพ้ 10 นัดสุดท้ายชนะแค่ 2 นัดจึงรูดจบอันดับ 4 และความผิดพลาดในแนวรับทำให้แพ้นัดชิง คาร์ลิง คัพ ทว่าซัมเมอร์นี้ อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่มาดละเมียดกลับนิ่งนอนใจและเสริมแต่แนวรุกคือ แชร์วินโญ จากลีลล์และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จากเซาแธมป์ตัน ไม่มีวี่แววว่าเซนเตอร์ฮาล์ฟคนใดที่เป็นข่าวพัวพันจะตบเท้าสู่ถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม แข้งดาวรุ่ง "ปืนโต" มีแรงกระตุ้นดี ทว่าจิตใจทนกับแรงเสียดสีฤดูกาลที่ยาวนาน 38 นัดไม่ได้เล่นไปเรื่อยๆ ก็แผ่วปลาย แก้ไม่ตรงจุดแบบนี้อาจหลุดจากโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก็เป็นได้