ASTV ผู้จัดการรายวัน – อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทั่วไปชลบุรี เอฟซี และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เตือนกองเชียร์ที่ใส่เสื้อทีมอื่นเข้าไปชมฟุตบอลในสนามต้องรู้จักขอบเขตในการแสดงออก หลังเกิดเหตุแฟนบอลสวมเสื้อทีม เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ยั่วยุ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารทีมชาติไทยของ “ฉลามชล” จนเกือบกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
สืบเนื่องจากเหตุวุ่นวายหลังเกมสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ที่ ชลบุรี บุกไปชนะ ทีโอที เอสซี 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีแฟนบอลใส่เสื้อ “กิเลนผยอง” 4-5 คนพูดจาหยาบคายยั่วยุและขว้างปาสิ่งของใส่ สินทวีชัย ตลอดทั้งเกมจนนายทวารฉลามชลตบะแตกถีบรั้วเหล็กตอบโต้ ก่อนที่กองเชียร์ชลบุรีซึ่งไม่พอใจกับพฤติกรรมดังกล่าวพยายามไล่ล่าคนก่อเหตุจนแฟนเมืองทองฯ หลายคนที่เข้าไปชมเกมแต่ไม่เกี่ยวข้องหวิดโดนลูกหลง ทว่าสุดท้ายก็เคลียร์กันได้ ส่วนกลุ่มที่เป็นชนวนเหตุหลบหนีไปได้
ด้าน อรรณพ สิงห์โตทอง กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “แม้การที่ สินทวีชัย ไปตอบโต้เช่นนั้นมันดูไม่สมควรก็จริง แต่เขาก็อดทนมาตลอดทั้งเกมรวมถึงได้ปรึกษากับผู้ตัดสินและผู้กำกับเส้นที่เห็นเหตุการณ์ตลอดแล้วว่าทนได้ หากใครไม่โดนด่าบุพการีแบบเขาก็คงไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร และเราได้สืบข้อมูลมาแล้วซึ่งคนก่อเหตุไม่ได้เสียค่าบัตรเข้าชม แต่มาเกาะรั้วดูฟรีหลังประตู ทำให้แฟนเมืองทองฯ คนอื่นที่ไม่รู้เรื่องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งเราก็เคลียร์กันได้แล้ว นอกจากนั้นยังรู้ตัวด้วยว่าเป็นใครในกลุ่มแฟนบอลโซน N ที่สนามยามาฮ่า สเตเดียม”
“เสี่ยนพ” กล่าวเพิ่มเติมถึงการสวมเสื้อทีมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งขันนั้นๆ เข้าไปชมในสนามว่า “ความจริงแฟนบอลสามารถใส่เสื้อทีมใดเข้าสนามก็ได้ รวมถึงการกดดันทีมคู่แข่งก็ทำได้ไม่มีใครห้าม แต่หากเข้าไปแล้วต้องไม่แสดงพฤติกรรมอย่างที่เกิดขึ้นกับ สินทวีชัย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาบานปลายตามมาในภายหลัง นอกจากแฟนบอลจะต้องรู้จักขอบเขตของตัวเองแล้ว ทีมเหย้าต้องมีมาตรการป้องกันด้วย หากเห็นใครที่ก่อความวุ่นวายต้องรีบเชิญออกจากสนามทันที”
ส่วน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องนี้ 2 ประเด็น คือ ทำไมแฟนบอลต้องใส่เสื้อทีมอื่นเข้าไปแล้วแสดงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงตามมา และทำไมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเจ้าบ้านจึงปล่อยให้คนกลุ่มดังกล่าวเข้าสนามหรือยั่วยุเกินขอบเขต ซึ่งจะมีการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ก่อนพิจารณาบทลงโทษในการประชุมผู้ควบคุมการแข่งขัน ผู้ประเมินผู้ตัดสิน และคณะกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วงในวันอังคารที่ 9 สิงหาคมนี้ เวลา 13.00 น. ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ
