ปรับโฉมการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย โค้กคัพ ครั้งที่ 16 ด้วยการปรับอายุจากไม่เกิน 17 ปี เป็นไม่เกิน 19 ปี พร้อมส่งในนามสโมสร เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนานักเตะเยาวชนสู่ฟุตบอลอาชีพและทีมชาติ โดยแบ่งรอบการคัดเลือกเป็น 8 กลุ่ม ประเดิมที่ จ.นครราชสีมา กลุ่มแรกเริ่มวันที่ 3-9 สิงหาคมนี้ ทีมชนะเลิศรับเงินรางวัล 1 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันพุธที่ 27 กรกฏาคม 2554 นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการ บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทสไทย เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย โค้กคัพ ครั้งที่ 16 พร้อมด้วย ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ณ สนามหญ้า ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
สำหรับรายการนี้ ทางกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ที่มี บริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทโคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บุกเบิก โดยจับมือกับ กรมพลศึกษา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการแข่งขันตั้งแต่ปี 2524 เป็นเวลา 30 กว่าปี แต่ปีนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันใหม่ จากเดิมอายุไม่เกิน 17 ปี ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นอายุไม่เกิน 19 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนไทยได้พัฒนาทักษะไปสู่ฟุตบอลอาชีพและทีมชาติไทยในอนาคต
ในส่วนของทีมที่เข้าแข่งขัน ปีนี้ เชิญทีมเยาวชนสำรองจากไทยพรีเมียร์ลีก 18 ทีม, ดิวิชั่น 1 ทั้ง 18 ทีม และ ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในนามจังหวัดๆ ละ 1 ทีม โดยสามารถส่งผู้เล่นต่างชาติได้ทีมละ 1 คน ซึ่งการเปลี่ยนตัวต้องเปลี่ยนกับนักเตะต่างชาติด้วยกันเท่านั้น
โดยทั้งหมดมีรูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม ทั่วประเทศ นำทีมชนะเลิศทั้ง 8 กลุ่มไปแข่งขันในรอบ 8 ทีม แข่งเหย้า-เยือน เพื่อหาทีมชนะเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป เริ่มต้นที่รอบคัดเลือก กลุ่ม 1 อีสานตอนล่าง ที่จ.นครราชสีมา ในวันที่ 3-9 สิงหาคม 2554 มี 10 ทีม ได้แก่ บุรีรัมย์ พีอีเอ, โอสถสภาเอ็ม 150 สระบุรี, ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี, นครราชสีมา เอฟซี, ชัยภูมิ เอฟซี, มหาสารคาม เอฟซี, สุรินทร์ เอฟซี และ อุบล ไทเกอร์ เอฟซี
กลุ่ม 2 กรุงเทพมหานคร วันที่ 15 -20 สิงหาคม 2554 มี 10 ทีม ได้แก่ การท่าเรือไทย เอฟซี, ทีโอที เอสซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, บีอีซี เทโรศาสน, อาร์มี ยูไนเต็ด, บางกอก เอฟซี, อาร์แบค เอฟซี, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ราชวิถี และ เจดับบลิว รังสิต เอฟซี
กลุ่ม 3 ภาคตะวันออก ที่จ.ชลบุรี วันที่ 30 สิงหาคม - 4 กันยายน 2554 มี 12 ทีม ได้แก่ ชลบุรี เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด, ศรีราชา เอฟซี, ระยอง เอฟซี, ปตท.ระยอง, สมุทรปราการ ศุลกากร ยูไนเต็ด, แคช ทูเดย์ จันทบุรี เอฟซี, แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด, ฉะเชิงเทรา เอฟซี, สระแก้ว ยูไน เต็ด, ปราจีนบุรี เอฟซี และ นครนายก เอฟซี
กลุ่ม 4 ภาคเหนือตอนบน ที่จ.แพร่ วันที่ 4-9 ตตุลาคม 2554 มี 10 ทีม ได้แก่ เชียงราย ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ เอฟซี, แพร่ ยูไนเต็ด, อุตรดิตถ์-หมอเส็ง, ลำปาง เอฟซี, ตาก เอฟซี, พะเยา เอฟซี, ลำพูน วอริเออร์, น่าน เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี
กลุ่ม 5 ภาคตะวันตก ที่จ.เพชรบุรี วันที่ 18-23 ตุลาคม 2554 มี 12 ทีม ได้แก่ อินทรี เพื่อนตำรวจ, เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี, ราชประชา ไทยแลนด์ เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, กาญจนบุรี เอฟซี, อยุธยา เอฟซี, เพชรบุรี เอฟซี, ราชบุรี เอฟซี, ปทุมธานี เอฟซี และ ประจวบคีรีขันธ์ เอฟซี
กลุ่ม 6 ภาคเหนือตอนล่าง ที่จ.นครสวรรค์ วันที่ 8-13 พฤศจิกายน 2554 มี 10 ทีม ได้แก่ ทีทีเอ็ม พิจิตร, ชัยนาท เอฟซี, สิงห์บุรี เอฟซี, นครสวรรค์ เอฟซี, พิษณุโลก เอฟซี, เพชรบูรณ์ เอฟซี, กำแพงเพชร เอฟซี, อุทัยธานี ฟอเรสท์, ลพบุรี เอฟซี และ อ่างทอง เอฟซี
กลุ่ม 7 ภาคใต้ ที่ จ.กระบี่ วันที่ 16-22 พฤศจิกายน 2554 มี 14 ทีม ได้แก่ สงขลา เอฟซี, เอฟซี ภูเก็ต, ตรัง เอฟซี, สตูล ยูไนเต็ด, ระนอง เอฟซี, สุราษฎร์ธานี เอฟซี, กระบี่ เอฟซี, ปัตตานี เอฟซี, พังงา เอฟซี, ยะลา เอฟซี, พัทลุง เอฟซี, นครศรีธรรมราช เอฟซี, ชุมพร เอฟซี และ นรา ยูไนเต็ด
กลุ่ม 8 ภาคอีสานตอนบน ที่ จ.สกลนคร วันที่ 11-16 ธันวาคม 2554 มี 10 ทีม ได้แก่ ขอนแก่น เอฟซี, เลย ซิตี้, ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด, อุดรธานี เอฟซี, สกลนคร เอฟซี, หนองบัวลำภู เอฟซี, กาฬสินธุ์ เอฟซี, หนองคาย เอฟซี, มุกดาหาร เอฟซี และ นครพนม เอฟซี
นอกจากนี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนในเรื่องของสนามแข่งขันทั่วประเทศ และ เงินรางวัล ทีมชนะเลิศ 1 ล้านบาท รองชนะเลิศ 5 แสนบาท อนึ่งทีมแชมป์โค้กคัพ จะได้เป็นตัวแทนไปร่วมเชียร์และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ที่ประเทศโปแลนด์