คอลัมน์ "ON TRACK" โดย เด็กปั๊ม
เผลอเดี๋ยวเดียวฟอร์มูลา วัน 2011 ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งทาง ซึ่งแม้ว่า เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลกจากเรดบูลล์ จะยังคงนำโด่งในตารางแชมเปียนชิป แต่สถานการณ์หลังจบศึกเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าทั้งเฟอร์รารี และแม็คลาเรน ยกระดับความเร็วเข้ามาเทียบทีมตรากระทิงแดงได้แล้ว และในอีก 9 เรซที่เหลือแฟนเอฟวันคงจะเห็นการขับเคี่ยวกับแบบล้อต่อล้อของ 3 ทีมนี้ไปจนจบฤดูกาลแน่นอน
แต่เรื่องที่ผมจั่วหัวเอาไว้คงต้องพาท่านผู้อ่านล่วงหน้าและนึกภาพตามไปในอีก 3 ปีข้างหน้ากับศึกเอฟวัน 2014 ที่จะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องของกติกา หลังก่อนหน้านี้ถ้าใครติดตามข่าวก็พอจะทราบนะครับว่าสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) ได้ยืนยันให้ทุกทีมแข่งเปลี่ยนเครื่องยนต์จากสเปกปัจจุบันที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2006 อย่าง 2.4 ลิตร V8 เป็น 1.6 ลิตร V6 เทอร์โบ
ซึ่งในรายละเอียดปลีกย่อยของกติกาใหม่ต้องถือว่ายิบย่อยพอสมควรครับ และถือเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ของแต่ละทีมที่ต้องพัฒนาทั้งรถและเครื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยในส่วนของเครื่อง 1.6 ลิตร V6 เทอร์โบ มีการกำหนดให้นักขับทำรอบได้เพียงแค่ 15,000 รอบต่อนาที ซึ่งลดลงจาก 18,000 รอบต่อนาทีในปัจจุบัน ทำเอาหลายคนกังวลกันว่าเสียงเครื่องจะยังคงหวานหยดสมกับเครื่องเอฟวันหรือไม่ แต่เอฟไอเอยืนยันเสียงคำรามของเครื่อง V6 ไม่แพ้ของเดิม
นอกจากนี้ล่าสุดยังมีการเผยถึงเทคโนโลยีใหม่ที่จะบังคับให้รถทุกคันใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงการขับเข้าพิตภายใต้ระบบ ERS หรือ Energy Recovery Systems ซึ่งเป็นระบบที่นำเอาความร้อนของไอเสียมาแปลเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า นั่นหมายความว่า ในปี 2014 เมื่อนักขับกดปุ่มสปีดลิมิตในพิตเลน ระบบของรถจะตัดการทำงานของการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และจะเป็นการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบจนกว่าจะขับออกจากพิต
เท่านั้นยังไม่พอครับยังมีการปรับกติกาอีกหลายจุดอาทิการกำหนดเรื่องของอัตราทดเกียร์จากที่ปัจจุบันรถเอฟวันมีเกียร์เดินหน้าทั้งหมด 7 สปีด ปรับเป็น 8 สปีดเพื่อลดการซดน้ำมัน ,การกำหนดให้นักขับสามารถสตาร์ทรถเองจากในคอกพิตแทนที่การสตาร์ทด้วยทีมงานจากด้านท้ายตัวรถ ,เพิ่มความแรงของระบบ KERS จาก 60 กิโลวัตต์ เป็น 120 กิโลวัตต์ อันจะทำให้รถรีดแรงม้าเพิ่มได้อีกราว 30 ตัว รวมถึงจะลดขนาดของปีกหน้าลง จนมีการคาดกันว่ารูปโฉมของรถเอฟวันปี 2014 จะกลับไปละม้ายรถในยุคปี 1999
อย่างไรก็ดีส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยที่นอกเหนือจากเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี V6 เทอร์โบ โดยเฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในพิตเลน มีเสียงท้วงติงจากสมาคมทีมแข่งเอฟวัน (FOTA) ว่าทั้งหมดยังไม่ผ่านการเห็นชอบจาก 12 ทีมแข่ง โดยน่าจะมีการนำเรื่องนี้หารือร่วมกับเอฟไอเอและฝ่ายสิทธิประโยชน์อีกครั้งเพื่อความแน่นอนในปี 2014 ต่อไป
ลองนั่งนึกภาพรถเอฟวันของทีมอย่างเรดบูลล์,แม็คลาเรน หรือเฟอร์รารี วิ่งเข้ามาเปลี่ยนยางในพิตในลักษณะที่ไม่มีเสียงเครื่องยนต์คำรามให้ได้ยิน คงเป็นเรื่องแปลกพิลึกนะครับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2014
