เรื่อง : วงศ์ธวัช อามทัศนศรี
สุดสัปดาห์นี้ (14-17 ก.ค.) กลายเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนในวงการกอล์ฟทั่วโลก ต่างตั้งตารอคอยการดวลสวิง ณ สนาม รอยัล เซนต์ จอร์จสฯ อันเป็นสังเวียนของศึกเมเจอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก "ดิ โอเพน" ซึ่งไม่ว่าผู้ใดจะเป็นคนครองโทรฟี "คลาเร็ต จัก" บรรดาแฟนสวิงชาวไทยคงได้ภาคภูมิใจกับ 3 นักกอล์ฟจากแดนสยาม ที่ได้ลงสนามวาดลวดลายวงสวิงให้โลกได้ประจักษ์ คือ "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี โปรหมายเลข 1 ของไทย, "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ์ ก้านเหล็กเจ้าเนื้อชาวหัวหิน และ "ไอ้หนุ่มเทอร์โบ" ประหยัด มากแสง นักกอล์ฟสู้ชีวิตชื่อดัง
ที่ผ่านมา "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี เป็นสวิงชาวไทยที่ลงสนามแข่งขันในรายการเมเจอร์สูงที่สุด โดยประเดิมสนามครั้งแรกในศึก "ยูเอส โอเพน" ปี 2001 จบที่ 74 ร่วม ส่วนในการแข่งขัน "ดิ โอเพน" ธงชัย ก็มีสถิติการเล่นที่ยอดเยี่ยม สามารถจบอันดับ 13 ร่วม ได้ในปี 2009 ซึ่งครั้งนี้ "โปรช้าง" ได้เข้าร่วมการแข่งขันแบบอัตโนมัติจากอันดับ "เรซ ทู ดูไบ" ขณะที่ "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ์ ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันจากการจบอันดับ 1 ของศึก “อินเตอร์เนชันแนล ไฟนัล ควอลิฟายอิง-เอเชีย” ที่ทำการคัดเลือกครั้งแรกที่ประเทศไทย ส่วนทาง "โปรหมาย" ประหยัด มากแสง ได้รับตั๋วใบสุดท้ายของเอเชีย จากการคว้าอันดับ 6 ร่วม ของการแข่งขันเจแปนทัวร์ "เกต เวย์ ทู ดิ โอเพน มิซูโน โอเพน" (ทั้งนี้ ท้อป 4 ของทัวร์นาเมนต์ได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขันอยู่แล้ว)
โดย ธงชัย เจ้าของของฉายา “นักฆ่าแห่งเอเชีย” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจก่อนลงสนาม รอยัล เซนต์ จอร์จสฯ ว่า "เมื่อปี 2009 ผมเคยมีโอกาสที่จะทำมันได้สำเร็จ (เมเจอร์แรก) หากแต่ยังจบสกอร์ได้ไม่เฉียบคมเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้ผมเองก็หวังจะเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญเพื่อกลับไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นให้ได้ แม้ว่าสภาพอากาศรวมไปถึงสภาพสนามจะเป็นอุปสรรคสำคัญก็ตาม แต่การลงแข่งขันในเวทียุโรปมาหลายปี ทำให้ผมมีความพร้อมสูงสุดที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้ชาวไทยได้สำเร็จ"
ส่วน "โลมายักษ์" นักกอล์ฟวัย 26 ปี ที่ลงแข่งขันรายการเมเจอร์เป็นครั้งแรก กล่าวว่า "นี่คือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต ในสมัยเด็กๆ ผมได้แต่ดูการแข่งขันอยู่หน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น แต่เวลานี้ผมได้ลงสนามแข่งขันในรายการที่ผมวาดฝันไว้จริงๆ แล้ว แน่นอนว่าผมตั้งใจจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพราะ รู้ว่านี่คือโอกาสสำคัญที่สุด ที่ผ่านมาผมเคยลงสนามลิงค์ คอร์ส มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าสนามมีความยากมาก ซึ่งผมจะนำประสบการณ์ทั้งชีวิตเพื่อลุ้นโทรฟี 'คลาเร็ต จัก' ให้ได้"
ขณะที่ "โปรหมาย" ก้านเหล็กจอมเก๋าวัย 45 กะรัต ที่เข้าร่วมศึก "ดิ โอเพน" เป็นครั้งที่ 4 เปิดใจว่า "ส่วนตัวแล้วผมเองก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุด ที่ผ่านก็ต้องยอมรับว่าผลงานของตนเองในรายการนี้ไม่ดีนัก อย่างไรก็ดีครั้งนี้ผมได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันก็จะพยายามเล่นอยู่ในเกมของตนเองให้ได้ โดยจะนำประสบการณ์ในศึก ควีนส์ คัพ ที่ลงสนามเล่นกับลมที่แรงมาปรับใช้ที่นี่ ซึ่งคิดว่าหากทุกอย่างลงตัวเป้าหมายที่จะผ่านการตัดตัวเพื่อเข้าไปลุ้นก็มีโอกาสเช่นกัน"
สุดท้ายนี้ แฟนก้านเหล็กชาวไทยพลาดไม่ได้ที่จะร่วมกันส่งแรงใจไปเชียร์ 3 นักกอล์ฟจากแดนสยาม ในการลงสนามแข่งขันรายการเมเจอร์ที่สาม "ดิ โอเพน แชมเปียนชิป 2011" ครั้งที่ 140 ณ สนาม รอยัล เซนต์ จอร์จส กอล์ฟ คลับ ที่เมืองแซนวิช ประเทศอังกฤษ ให้วงการสวิงโลกได้ประจักษ์ว่า "นักกอล์ฟไทย" ก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก !
