ริกกี ฟาวเลอร์ ดาวรุ่งอนาไกลของสหรัฐฯ เผยว่า ตนเองขอเรียนรู้ประสบการณ์จากความผิดพลาดในรอบสุดท้ายของศึก "เอทีแอนด์ที เนชันแนล" หลังหวดเกิน 4 โอเวอร์พาร์ วืดโอกาสที่จะปลดล็อกแชมป์แรก โดยยก นิค วัตนีย์ สวิงรุ่นพี่ สมควรเป็นแชมป์ของรายการ เนื่องจากโชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวา จากการรายงานของ "แซคบี" เว็บไซต์ข่าวของเมืองลุงแซม
ศึกกอล์พีจีเอทัวร์ รายการเอทีแอนด์ที เนชันแนล ชิงเงินรางวัลรวม 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 192 ล้านบาท) ที่สนามแอโรนิมิงค์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,237 หลา พาร์ 70 เมืองนิวทาวน์ สแควร์ มลรัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 เป็นการดวลวงสวิงรอบสุดท้าย
ปรากฏว่า ฟาวเลอร์ ผู้นำร่วมในรอบที่ 3 เกิดหลุดฟอร์มหวดเกิน 4 โอเวอร์พาร์ ส่งผลให้สกอร์รวมเหลือ 5 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 13 ร่วม พลาดโอกาสเถลิงแชมป์อย่างเจ็บปวด ส่วน วัตนีย์ อีกหนึ่งผู้นำในรอบ 3 สามารถรักษามาตราฐานได้ดีเยี่ยม เก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 13 อันเดอร์ฯ คว้าโทรฟีรายการที่สองของฤดูกาล 2011 ได้สำเร็จ
โดย สวิงวัย 22 ปี ให้สัมภาษณ์ผ่าน "แซคบี" ว่า "มันเป็นสิ่งที่ยากจะทำใจได้กับโอกาสที่จะปลดล็อกแชมป์รายการแรก ซึ่งในรอบสุดท้ายนี้ก็ต้องก้มหน้ายอมรับว่าฟอร์มการพัตต์ทำได้แย่มาก เหมือนยิ่งเร่งทำสกอร์เพื่อแก้คืน ก็ยิ่งทำให้รูปเกมนั้นเสียไป แต่อย่างไรก็ดีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้ ผมจะจดจำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพื่อเดินหน้าสู่ต่อไป และคว้าแชมป์รายการแรกให้ได้"
นอกจากนั้น ฟาวเลอร์ ที่เสียพัตต์ 33 ครั้งในรอบสุดท้าย กล่าวทิ้งท้ายว่า "สำหรับ นิค ผู้คว้าแชมป์ได้นั้น ก็ต้องบอกได้ว่าเขาสมควรแล้วกับชัยชนะนี้ เพราะ จากที่ได้ออกรอบร่วมกัน ผมได้เห็นสิ่งดีๆ หลายอย่างในเกมเขา ซึ่งต่อไปผมจะเอามาปรับปรุงตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้กับแรงกดดันในรอบสุดท้าย"