อัลแบร์โต คอนทาดอร์ ยอดนักปั่นชาวสเปน ยอมรับยังคงล้าจากการลงแข่งศึกจีโร ดิตาเลีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สภาพร่างกายจึงฟิตไม่เต็มร้อยก่อนเตรียมตัวลุ้นแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ สมัยที่สี่ในการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-24 กรกฎาคมนี้
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คอนทาดอร์ คว้าแชมป์จีโร ดิตาเลีย ศึกจักรยานทางไกลที่สำคัญอีกรายการ ณ ประเทศอิตาลี โดยทำเวลารวมเอาชนะคู่แข่งที่อันดับใกล้เคียงที่สุดอย่าง มิเชเล สคาร์โปนี นักปั่นเจ้าถิ่นห่างถึง 6 นาที กลายเป็นแชมป์สมัยที่ 2 หลังเคยคว้าชัยปี 2008 แต่นักปั่นวัย 28 ปียอมรับว่าการชิงชัยที่แดนมะกะโรนีบั่นทอนสภาพร่างกายตนเองมาก
ล่าสุด คอนทาดอร์ ซึ่งเตรียมลงป้องกันแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ครั้งที่ 98 และลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 หลังจากเคยได้เมื่อปี 2007 และ 2009 ว่าสภาพจิตใจได้ฟื้นฟูกลับมาแล้วจากการแข่งจีโร ดิตาเลีย แต่ยังไม่แน่ว่าสภาพร่ายกายจะสมบูรณ์เต็มร้อยหรือไม่
"ในเรื่องของระดับสภาพจิตใจ ผมคิดว่าผมฟื้นกลับมาเต็มร้อยแล้วและนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ระดับสภาพร่างกายยังต้องดูต่อไปว่าผมเป็นอย่างไร ผมคิดว่าในวันแรกๆจะไม่ใช่วันที่ดีที่สุดของผม" คอนทาดอร์ ซึ่งได้ย้ายจากทีมแอสทานามาปั่นให้กับทีมแซ็กโซ แบงค์ในปีนี้กล่าว
ขณะเดียวกัน คอนทาดอร์ ยังคงพัวพันกับข้อกล่าวหาใช้สารกระตุ้นจากการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ เมื่อปีที่แล้ว นักปั่นเลือดกระทิงถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้นจำพวกเคลนบูเทรอลก่อนทัวร์นาเมนท์จบลง 2 วัน โดยเจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมอ้างว่าได้รับสารกระตุ้นแบบไม่รู้ตัวเนื่องจากปนเปื้อนมาจากเนื้อที่รับประทาน
ข้ออ้างของ คอนทาดอร์ ได้รับการยอมรับจากสหพันธ์จักรยานแห่งประเทศสเปนจนโทษแบนถูกยกเลิก แต่สหภาพจักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) และ องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (วาดา) ไม่เห็นด้วยจึงได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการศาลโลก ซึ่งจะมีการตัดสินในเดือนสิงหาคม ดังนั้น คอนทาดอร์ จึงสามารถลงป้องกันแชมป์จักรยานที่เมืองน้ำหอมได้
คอนทาดอร์ กล่าวว่านับแต่ถูกข้อกล่าวหาตนไม่กินเนื้ออีกเลยและครั้งนี้ก็จะระมัดระวังการกินเพื่อไม่ใช้ซ้ำรอยเดิมอีก " ผมไม่ได้กินเนื้ออีกเลยและตอนนี้อาหารทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นผัก พาสต้า ไปจนถึงเนื้อ ทีมจะเป็นฝ่ายจัดเตรียมทั้งสิ้นอย่างน้อยก็ในการแข่งขันรายการใหญ่ นั้นทำให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารมีความสดและได้คุณภาพ"