คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
เกมการแข่งขันฟุตบอลของไทยนัดตกค้างในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะมีปัญหาในเรื่องการตัดสินอยู่หลายเกม ขัดใจนักเตะและแฟนบอลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรายการ ไทย พรีเมียร์ ลีก คู่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด - ชลบุรี เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด - ศรีสะเกษ เอฟซี หรือรายการ โตโยต้า ลีก คัพ รอบ 64 ทีม ระหว่าง บุรีรัมย์ เอฟซี กับ ชัยนาท เอฟซี
คู่แรก เกิดขึ้นวันเสาร์ที่สนามกีฬากองทัพบก อาร์มี่ ยูไนเต็ด ต้อนรับ ชลบุรี เอฟซี รูปเกม ชลบุรี เหนือกว่า แต่ดันเสียประตูไปก่อน แล้วพลิกกลับมานำขาด 4-2 เมื่อเกมดำเนินมาถึงช่วงทดเวลา นาทีที่ 93 ราฟาเอล เดอ ซานตานา ( Rafael de Santana ) ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เอ็มมานูเอล มาเด็งก์ ( Emmanuel Madengue ) ซึ่งเกิดล้มลงไปโดยมี อนุชา กิจพงษ์ศรี อยู่ข้างหลัง งานนี้ อนุชา ไม่ได้ทำฟาล์วแต่อย่างใด แต่ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินกลับให้ อาร์มี่ ได้จุดโทษ แถมยังชูใบเหลืองให้ อนุชา อีกต่างหาก ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของแฟนบอลทั่วสนาม อย่างไรก็ตาม เมื่อจบเกม แม้สกอร์จะกลายเป็น 4-3 ชลบุรี เอฟซี ก็ยังบุกมาเอาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด อยู่ดี จึงไม่มีปัญหาการประท้วง
วันรุ่งขึ้น ที่ ยามาฮ่า สเตเดียม เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้อนรับ ศรีสะเกษ เอฟซี เกมนี้ แรกๆสูสีครับ แต่ เมืองทอง มาเล่นดี โชว์เหนือก็ตอนเริ่มครึ่งหลัง และในที่สุดก็ได้ประตูขึ้นนำจากตอร์ปิโดบกของ ธีรศิลป์ แดงดา ปัญหาของเกมนี้เกิดขึ้นช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ของ ศรีสะเกษ ได้บอลในกรอบเขตโทษ ระยะไม่ถึง 10 หลาหน้าประตู ง้างเท้ากะกดเต็มๆเพื่อตีเสมอ แต่จังหวะนั้น ไพฑูรย์ เทียบมา ของ เมืองทอง วิ่งแซงเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้ ปิยะวัฒน์ ซัดไปโดนขาพับของ ไพฑูรย์ แทน ลูกนี้แฟนบอลศรีสะเกษทวงจุดโทษ แต่ ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินไม่ให้ ท่ามกลางการทักท้วงของเหล่านักเตะและกองเชียร์ศรีสะเกษ
จะว่าไปแล้ว การตัดสินของกรรมการมีผลได้-เสียขนาดหนัก เพราะ เมืองทอง ก็ต้องการชัยชนะเพื่อลดช่วงห่างจากจ่าฝูง ในขณะที่ ศรีสะเกษ ก็หวังล้มยักษ์อีกทีมด้วย ถ้าผู้ตัดสินตาไม่ไวก็ต้องมีทีมหนึ่งทีมใดเสียประโยชน์อย่างไม่ยุติธรรม แต่เมื่อพิจารณาจากเทปแล้ว ผมว่าจังหวะที่ ปิยะวัฒน์ ง้างเท้า ไพฑูรย์ แซงเข้าถึงบอลก่อน โดยไม่ได้สัมผัสตัวหรือทำฟาล์ว ปิยะวัฒน์ แม้แต่น้อย คล้ายกับการที่เรากำลังกระโดดลอยตัวขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่มีคนตัดหน้าโหม่งบอลทิ้งไปก่อน ทำให้เราโหม่งได้เพียงท้ายทอยของเขาเท่านั้น ดังนั้น ผมเชื่อว่า ผู้ตัดสินทำถูกต้องแล้วที่ไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ
ส่วนอีกคู่ปัญหาเป็น บุรีรัมย์ เอฟซี พบกับ ชัยนาท เอฟซี เกมนี้แฟนบอลบ่นไม่พอใจที่ วีรยุทธ จิตรขุนทด เข้าบอลหนัก แต่ไม่ยักโดนใบเหลือง เกมจบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ และหลังจาก บุรีรัมย์ ขึ้นนำ 1-0 จากลูกโหม่งของ อ็องรี โชเอ็ล กัวกู ( Henri Joel Kouakou ) ภูวดล สุวรรณชาติ ของ ชัยนาท ทำประตูตีเสมอได้ แต่ สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินมองว่าเป็นแฮนด์บอลก่อน ไม่ให้เป็นประตู แฟนบอลสวดยับอีก อันนี้เมื่อดูเทปแล้วจะเห็นว่ามีการทำแฮนด์บอลจริงๆครับ
แต่ในนาทีที่ 111 จังหวะที่ สมปอง สอเหลบ ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ ภาณุพงษ์ พิจิตรธรรม ผู้รักษาประตูชัยนาทล้มตัวลงตัดบอลได้ แต่กลับเสียจุดโทษ แต่เมื่อดูเทปแล้ว ไม่น่าเป็นจุดโทษหรอกครับ แล้วสืบเนื่องจากจังหวะนี้ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ กระโจนเข้าผลักผู้ตัดสินอย่างแรง โดนใบแดงไปอย่างสมควรจริงๆ
จากการตัดสินที่ทั้งผู้เล่นและแฟนบอลเชื่อว่าไม่ยุติธรรม อารมณ์จึงเดือด ยิ่งช่วงท้ายเกม นาทีที่ 116 ภูวดล ไปย่ำใส่ โกเน เซดู ( Kone Seydou ) จนเกิดมวยหมู่ตามมา สรุปผลคู่นี้ กรรมการแจกไป 5 ใบแดง บุรีรัมย์ เอฟซี ชนะ ชัยนาท เอฟซี 2-0 ได้เข้ารอบ 32 ทีมไปพบกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ สมใจแฟนบอลที่อยากเห็นเกม บุรีรัมย์ ดาร์บี แม็ทช์
ฟุตบอลไทย 3 เกมที่ผมยกตัวอย่างมานี้ จากประเด็นปัญหาในเกมทำให้เกิดผลหนักบ้าง เบาบ้าง ขึ้นอยู่กับเดิมพันของแต่ละเกม อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาอย่างเป็นธรรมครับ เพราะมันมีทั้ง ผู้ตัดสินผิดพลาด นักเตะตุกติก หรือแฟนบอลมองผิดเองครับ
เกมการแข่งขันฟุตบอลของไทยนัดตกค้างในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะมีปัญหาในเรื่องการตัดสินอยู่หลายเกม ขัดใจนักเตะและแฟนบอลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรายการ ไทย พรีเมียร์ ลีก คู่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด - ชลบุรี เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด - ศรีสะเกษ เอฟซี หรือรายการ โตโยต้า ลีก คัพ รอบ 64 ทีม ระหว่าง บุรีรัมย์ เอฟซี กับ ชัยนาท เอฟซี
คู่แรก เกิดขึ้นวันเสาร์ที่สนามกีฬากองทัพบก อาร์มี่ ยูไนเต็ด ต้อนรับ ชลบุรี เอฟซี รูปเกม ชลบุรี เหนือกว่า แต่ดันเสียประตูไปก่อน แล้วพลิกกลับมานำขาด 4-2 เมื่อเกมดำเนินมาถึงช่วงทดเวลา นาทีที่ 93 ราฟาเอล เดอ ซานตานา ( Rafael de Santana ) ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เอ็มมานูเอล มาเด็งก์ ( Emmanuel Madengue ) ซึ่งเกิดล้มลงไปโดยมี อนุชา กิจพงษ์ศรี อยู่ข้างหลัง งานนี้ อนุชา ไม่ได้ทำฟาล์วแต่อย่างใด แต่ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินกลับให้ อาร์มี่ ได้จุดโทษ แถมยังชูใบเหลืองให้ อนุชา อีกต่างหาก ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของแฟนบอลทั่วสนาม อย่างไรก็ตาม เมื่อจบเกม แม้สกอร์จะกลายเป็น 4-3 ชลบุรี เอฟซี ก็ยังบุกมาเอาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด อยู่ดี จึงไม่มีปัญหาการประท้วง
วันรุ่งขึ้น ที่ ยามาฮ่า สเตเดียม เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้อนรับ ศรีสะเกษ เอฟซี เกมนี้ แรกๆสูสีครับ แต่ เมืองทอง มาเล่นดี โชว์เหนือก็ตอนเริ่มครึ่งหลัง และในที่สุดก็ได้ประตูขึ้นนำจากตอร์ปิโดบกของ ธีรศิลป์ แดงดา ปัญหาของเกมนี้เกิดขึ้นช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ของ ศรีสะเกษ ได้บอลในกรอบเขตโทษ ระยะไม่ถึง 10 หลาหน้าประตู ง้างเท้ากะกดเต็มๆเพื่อตีเสมอ แต่จังหวะนั้น ไพฑูรย์ เทียบมา ของ เมืองทอง วิ่งแซงเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้ ปิยะวัฒน์ ซัดไปโดนขาพับของ ไพฑูรย์ แทน ลูกนี้แฟนบอลศรีสะเกษทวงจุดโทษ แต่ ชัยยะ มหาปราบ ผู้ตัดสินไม่ให้ ท่ามกลางการทักท้วงของเหล่านักเตะและกองเชียร์ศรีสะเกษ
จะว่าไปแล้ว การตัดสินของกรรมการมีผลได้-เสียขนาดหนัก เพราะ เมืองทอง ก็ต้องการชัยชนะเพื่อลดช่วงห่างจากจ่าฝูง ในขณะที่ ศรีสะเกษ ก็หวังล้มยักษ์อีกทีมด้วย ถ้าผู้ตัดสินตาไม่ไวก็ต้องมีทีมหนึ่งทีมใดเสียประโยชน์อย่างไม่ยุติธรรม แต่เมื่อพิจารณาจากเทปแล้ว ผมว่าจังหวะที่ ปิยะวัฒน์ ง้างเท้า ไพฑูรย์ แซงเข้าถึงบอลก่อน โดยไม่ได้สัมผัสตัวหรือทำฟาล์ว ปิยะวัฒน์ แม้แต่น้อย คล้ายกับการที่เรากำลังกระโดดลอยตัวขึ้นโหม่งเหน่งๆ แต่มีคนตัดหน้าโหม่งบอลทิ้งไปก่อน ทำให้เราโหม่งได้เพียงท้ายทอยของเขาเท่านั้น ดังนั้น ผมเชื่อว่า ผู้ตัดสินทำถูกต้องแล้วที่ไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ
ส่วนอีกคู่ปัญหาเป็น บุรีรัมย์ เอฟซี พบกับ ชัยนาท เอฟซี เกมนี้แฟนบอลบ่นไม่พอใจที่ วีรยุทธ จิตรขุนทด เข้าบอลหนัก แต่ไม่ยักโดนใบเหลือง เกมจบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ และหลังจาก บุรีรัมย์ ขึ้นนำ 1-0 จากลูกโหม่งของ อ็องรี โชเอ็ล กัวกู ( Henri Joel Kouakou ) ภูวดล สุวรรณชาติ ของ ชัยนาท ทำประตูตีเสมอได้ แต่ สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินมองว่าเป็นแฮนด์บอลก่อน ไม่ให้เป็นประตู แฟนบอลสวดยับอีก อันนี้เมื่อดูเทปแล้วจะเห็นว่ามีการทำแฮนด์บอลจริงๆครับ
แต่ในนาทีที่ 111 จังหวะที่ สมปอง สอเหลบ ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ ภาณุพงษ์ พิจิตรธรรม ผู้รักษาประตูชัยนาทล้มตัวลงตัดบอลได้ แต่กลับเสียจุดโทษ แต่เมื่อดูเทปแล้ว ไม่น่าเป็นจุดโทษหรอกครับ แล้วสืบเนื่องจากจังหวะนี้ สุรเชษฐ์ งามทิพย์ กระโจนเข้าผลักผู้ตัดสินอย่างแรง โดนใบแดงไปอย่างสมควรจริงๆ
จากการตัดสินที่ทั้งผู้เล่นและแฟนบอลเชื่อว่าไม่ยุติธรรม อารมณ์จึงเดือด ยิ่งช่วงท้ายเกม นาทีที่ 116 ภูวดล ไปย่ำใส่ โกเน เซดู ( Kone Seydou ) จนเกิดมวยหมู่ตามมา สรุปผลคู่นี้ กรรมการแจกไป 5 ใบแดง บุรีรัมย์ เอฟซี ชนะ ชัยนาท เอฟซี 2-0 ได้เข้ารอบ 32 ทีมไปพบกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ สมใจแฟนบอลที่อยากเห็นเกม บุรีรัมย์ ดาร์บี แม็ทช์
ฟุตบอลไทย 3 เกมที่ผมยกตัวอย่างมานี้ จากประเด็นปัญหาในเกมทำให้เกิดผลหนักบ้าง เบาบ้าง ขึ้นอยู่กับเดิมพันของแต่ละเกม อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาอย่างเป็นธรรมครับ เพราะมันมีทั้ง ผู้ตัดสินผิดพลาด นักเตะตุกติก หรือแฟนบอลมองผิดเองครับ
