อรรถพล ปุษปาคม กุนซือบุรีรัมย์ พีอีเอ ชมลูกทีมว่าเล่นได้อย่างมีวินัยก่อนบุกคว้าชัยเหนือ เอสซีจี สมุทรสงคราม 4-0 กร้าวขอจบเลกแรกโดยไม่แพ้ใคร ด้าน พล ชมชื่น ยอมรับปลาทูคะนองสู้ไม่ได้ แต่ยังตั้งเป้าจบครึ่งฤดูกาลแรกด้วยอันดับเลขตัวเดียว
ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดที่ 14 เมื่อช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา “ปราสาทสายฟ้า” บุกถล่ม “ปลาทูคะนอง” ถึงถิ่น 4-0 โดย ฟรองค์ โอฮันด์ซา ดาวยิงชาวแคเมอรูนทำแฮตทริก และ โอบามา ฟลอร็องต์ โหม่งปิดท้าย ทำให้ทีมดังจากอีสานใต้นำลิ่วในตำแหน่งจ่าฝูงมี 36 คะแนน ทิ้งห่าง ชลบุรี เอฟซี 6 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
หลังจบเกม อรรถพล ปุษปาคม นายใหญ่บุรีรัมย์ พีอีเอ กล่าวว่า “รูปเกมช่วงแรกอึดอัดแต่โชคดีที่เราได้ประตูขึ้นนำค่อนข้างเร็ว หลังจากได้ประตูที่สองทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ซึ่งต้องชมผู้เล่นที่เล่นกันอย่างมีวินัย อย่างไรก็ตาม แม้เราจะนำ 6 แต้ม แต่ก็ประมาท ชลบุรี ไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงตั้งใจว่าจะรักษามาตรฐานของทีมให้ได้ต่อไปและจะพยายามไม่แพ้จนกว่าจะจบเลกแรกแล้วหลังจากนั้นค่อยมาดูกันอีกที”
เมื่อถูกถามถึงการเสริมทัพในช่วงเลกสอง “โค้ชแต๊ก” ตอบว่า “เราจะเน้นไปที่ตัวต่างชาติเป็นหลัก ซึ่งเป็นนักเตะที่ เลสเตอร์ ซิตี หามาให้ 2 คน โดยเวลานี้คุณเนวิน ชิดชอบ (ประธานสโมสร) ได้ติดต่อนำนักเตะต่างชาติเข้ามาทดสอบฝีเท้าหลายราย ซึ่จะนำมาเสริมให้ พีอีเอ 2 คน ส่วน บุรีรัมย์ เอฟซี น่าจะเสริมสัก 3 คน แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะถอดชื่อใครออกไปเพื่อนำนักเตะใหม่เข้ามาแทน”
ขณะที่ พล ชมชื่น ให้สัมภาษณ์ว่า “เราขอยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี แม้จะช่วงแรกจะปิดการเจาะเข้าทำของพวกเขาได้ แต่สุดท้ายก็ถูกเล่นงานโดยลูกเซตพีซใน 2 ลูกแรก ซึ่งถือว่าเขามีความหลากหลายในการเข้าทำมาก ส่วนเราเองก็ผ่านพ้นโปรแกรมหนักไปแล้ว ผมหวังว่า 3 นัดที่เหลืออยู่จะเก็บคะแนนได้มาพอที่จะจบเลกแรกด้วยอันดับเลขตัวเดียว” โดยเวลานี้ เอสซีจี สมุทรสงคราม รั้งอันดับ 11 มี 16 คะแนน
ส่วนการเสริมความแข็งแกร่งในครึ่งฤดูกาลหลังของทัพลูกหนังเมืองแม่กลอง “โค้ชยศ” กล่าวว่า "การได้ เซซินานโด เข้ามาจะช่วยให้แดนกลางมีการเชื่อมเกมที่ดีขึ้นหากเขาปรับตัวเข้ากับทีมได้ ส่วน คริสติยอง นาเด ก็จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องการจบสกอร์ สำหรับคนอื่นๆ ที่เล็งไว้จะเน้นไปที่ผู้เล่นชาวไทยซึ่งกำลังเจรจาอยู่และจะมีการเปิดตัวในภายหลังหากบรรลุข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว"
ยอดผู้ชม 5,481 คน
รายได้จากบัตรเข้าชมการแข่งขัน 345,540 บาท
รายได้จากการขายสินค้าที่ระลึก 331,070 บาท
