เดวิส เลิฟ เดอะ เติร์ด กัปตันทีมไรเดอร์ คัพ ของสหรัฐฯ ชุดปี 2012 ออกโรงชี้ เวลานี้ถือเป็นวิกฤติของวงการกอล์ฟอเมริกัน เนื่องจากล่าสุดนักกอล์ฟจากเมืองลุงแซมไม่สามารถคว้าโทรฟีเมเจอร์ได้เลยใน 5 รายการล่าสุด หลังจากที่ "เลฟตี้" ฟิล มิคเคลสัน สวิงขวัญใจมหาชน คว้าแชมป์ "เดอะ มาสเตอร์ส 2010" จากการรายงานของ "รอยเตอร์ส"
สืบเนื่องจาก รอรีย์ แม็คอิลรอย สตาร์กอล์ฟชาวไอริช สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้สำเร็จในศึก "ยูเอส โอเพน" เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) ด้วยการทำสกอร์เป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของทัวร์นาเมนต์ 16 อันเดอร์พาร์ 268 ส่งผลให้ล่าสุดมีโปรจากสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่ได้ชูโทรฟีในศึกเมเจอร์ 6 รายการหลังสุด คือ ฟิล มิคเคลสัน ที่คว้าชัย ณ สนาม ออกัสตา เมื่อปีก่อน
โดย ก้านเหล็กวัย 47 กะรัต ให้สัมภาษณ์ผ่าน "รอยเตอร์ส" ว่า "เราจำเป็นต้องหยุดสถิติอันเลวร้ายให้ได้ นี่คือสัญญาณหายนะของนักกอล์ฟชาวอเมริกัน แน่นอนว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ก็คือโอกาสที่โปรของเราจะคว้าแชมป์เมเจอร์ที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้ ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสวิงชาวยุโรปพัฒนาฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ดูได้จากทัวร์นาเมนต์ของพีจีเอฯ มีนักกอล์ฟจากยูโรเปียนฯ เกือบครึ่ง จุดนี้คงต้องขอบคุณผลผลิตจาก เซวี บาเยสเตรอส และ เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ สองตำนานยุโรป ที่วางรากฐานให้นักกอล์ฟรุ่นน้องเดินทางมาถึงจุดนี้ได้"
ขณะที่ มาร์ติน คายเมอร์ อดีตนักกอล์ฟมือ 1 โลกชาวเยอรมัน ก็กล่าวถึงกรณีนี้เช่นกันว่า "ผมคิดว่าเวลานี้สวิงชาวสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลังจากที่ ไทเกอร์ เกิดปัญหาจนทำให้ฟอร์มการเล่นตกต่ำ อย่างไรก็ดีหากมองในอีกแง่มุมก็ต้องยอมรับว่า โปรจากยูโรเปียนก็แข็งแกร่งขึ้นมาก ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวลานี้เราจะสามารถเอาชนะนักกอล์ฟชาวอเมริกันได้"
สำหรับ ทำเนียบแชมป์เมเจอร์นับตั้งแต่ฤดูกาล 2010 เริ่มต้นที่ "เดอะ มาสเตอร์ส" ฟิล มิคเคลสัน (สหรัฐฯ), "ยูเอส โอเพน" แกรม แม็คดาวล์ (ไอร์แลนด์เหนือ), "ดิ โอเพน" หลุยส์ อุสต์ไฮเซน (แอฟริกาใต้), "พีจีเอ แชมเปียนชิป" มาร์ติน คายเมอร์ (เยอรมัน), "เดอะ มาสเตอร์ส 2011" ชาร์ล ชวาร์ทเซล (แอฟริกาใต้) และ "ยูเอส โอเพน 2011" รอรีย์ แม็คอิลรอย (ไอร์แลนด์เหนือ)
