เอเยนซี - ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ รวมใจกันเป็นหนึ่งบุกเล่นงาน ไมอามี ฮีท 105-95 คะแนน ปิดซีรีส์ลงได้ที่ 4-2 เกม ขึ้นเถลิงแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) สมัยแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ เดิร์ก โนวิตซกีฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์ชาวเยอรมัน คว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงไปครองเมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา
เดิร์ก โนวิตซกี และ เจสัน เทอร์รี สองผู้เล่นตัวเก๋า "แมฟส์แมน" ปลดปล่อยความแค้นลงไปในสังเวียนปาเก้ หลังจากเมื่อ 5 ปีก่อนโดน ดีเวย์น เหว็ด ประสานงาน ชาคิล โอนีล นำ ไมอามี ฮีท ไล่ทุบ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 4-2 เกม ซิวแชมป์แรกของแฟรนไชส์ มาคราวนี้ถึงคิว ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ดับซ่า ฮีท ในภาคที่มี "บิ๊กทรี" ด้วยการเอื้อมเอา "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" มาประดับตู้โชว์ในถิ่นอเมริกันแอร์ไลน์ส เซ็นเตอร์ จนได้
โดยเกม 6 ที่อเมริกันแอร์ไลน์ส อารีนา บ้านของฮีท ปรากฏว่า โนวิตซกี ซึ่งแบกทีมมาตลอดทั้งเพลย์ออฟ ออกอาการปืนฝืดชู้ต 12 หนแรกลงเพียงแค่ครั้งเดียว อย่างไรก็ดี แมฟเวอร์ริกส์ อาศัย เจสัน เทอร์รี ลุกจากม้านั่งสำรองช่วยพาทีมนำก่อนในครึ่งแรก 53-51 คะแนน เข้าสู่ครึ่งหลังเหล่าผู้เล่นจอมเก๋า "แมฟส์แมน" ยังคุมสถานการณ์ได้ดีรอจน โนวิตซกี ติดเครื่องอีกครั้งกด 10 แต้มควอเตอร์สุดท้าย ขณะที่ "บิ๊กทรี" เจ้าถิ่นทั้ง เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด หรือ คริส บอช เข็นกันไม่ขึ้น จบเกม เจสัน คิดด์, โนวิตซกี และ เทอร์รี สวมกอดกันกลางสนาม เนื่องจากผู้เล่นที่อายุรวมกัน 103 ปี ไม่ต้องขึ้นชื่อว่า "ราชันย์ไร้บัลลังก์" อีกต่อไป มีแหวนแชมป์วงแรกประดับมือเสียที
ภายหลัง โนวิตซกี อดีต MVP เอ็นบีเอ ฤดูกาลปกติเมื่อปี 2007 ซึ่งเกมนี้ทำไป 21 แต้ม 11 รีบาวด์ ออกมาให้สัมภาษณ์ "ผมจับจังหวะไม่ได้ในเกมนี้ แต่ทีมช่วยแบกผมไปตลอดค่ำคืนที่ยาวนาน เจสัน (เทอร์รี) ออกมาเล่นได้อย่างดุดัน ผมยกสิ่งนี้ให้แก่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พวกเขาทำได้เหลือเชื่อจริงๆ ในคืนนี้"
ด้าน เทอร์รี วัย 33 ปี เผยบ้างหลังกดคนเดียว 27 แต้ม "คืนนี้ เราแก้แค้นกันได้ ทั้งหมดเป็นเรื่องราวของแต่ละคนซึ่งรวมกันเป็นหนึ่งนำพาเราให้ไปสู่ชัยชนะ"
ขณะที่ คิดด์ การ์ดแม่ทัพซึ่งทำไป 9 แต้ม 8 แอสซิสต์ กล่าวว่า "ทุกคนกาชื่อเราทิ้ง แต่เรายังเป็นตัวของตัวเอง มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของอายุ เราเข้าใจว่าต้องเล่นกันอย่างไรในเกม ผมไม่รู้สึกเลยว่าหัวใจและร่างกายของตัวเองอายุ 38 ปี ผมรู้สึกว่ามันเยี่ยมต่างหาก"
ส่วน ริค คาร์ไลส์ หัวหน้าโค้ชคนเก่งแมฟส์ พูดบ้าง "นี่เป็นทีมจริงๆ เป็นทีมยุคเก่า เราไม่ต้องวิ่งเร็วหรือกระโดดให้สูง แต่เราหนุนหลังกันเป็นทีมที่เล่นในแนวทางที่ถูกต้อง เราไว้ใจกันในการผ่านบอล ซึ่งนี่ถือเป็นปรากฎการณ์แห่งเมืองดัลลัส"
สุดท้าย มาร์ค คิวบานเจ้าของทีมแมฟเวอร์ริกส์ ยกเครดิตให้เหล่าสตาร์ "ผมแค่รู้สึกดีด้วยกับ เดิร์ก, เจสัน คิดด์, เทอร์รี หรือว่า ชอว์น แมเรียน นี่เป็นทีมที่ใช้หัวใจและความมุ่งมั่นกันจริงๆ"
ในส่วนของ ฮีท อาศัย เลอบรอน ทำไป 21 แต้ม 4 รีบาวด์ 6 แอสซิสต์ "ดี-เหว็ด" เพิ่มเติม 17 แต้ม 8 รีบาวด์ 6 แอสซิสต์ คริส บอช หนึ่งใน "บิ๊กทรี" เก็บอีก 19 แต้ม 8 รีบาวด์ แต่ยังไม่ดีพอทำให้ "คิงเจมส์" ต้องตามหาแชมป์แรกในอาชีพกันต่อไป หลังเพิ่งตัดสินใจจูงมือ บอช มาผนึกกำลังกับ เหว็ด เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา