คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
ตอน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จำศีลอยู่ท้ายตารางช่วงกลางๆ ฤดูกาล ผมเขียนอย่างเชื่อมั่นว่า ถึงที่สุดทีม‘ขุนค้อน’จะยังโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป เพราะมีประสบการณ์หนีตกชั้นแทบทุกฤดูกาล
อีกอย่าง จิอันฟรังโก โซล่า ผู้จัดการทีมขณะนั้นนับเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ก็ถูกสโมสรอัปเปหิหลังผลงานไม่กระเตื้องขึ้น เมื่ออัฟราม แกรนท์ อดีตกุนซื้อเชลซีเข้ามารับรับงานต่อ ผมเชื่อยังมั่นว่าประสบการณ์ของแกร้นท์จะช่วยให้ ‘ขุนค้อน’ รอดตกชั้นในที่สุด
ที่มั่นใจอย่างนี้เพราะเชื่อฝีเท้าของนักเตะระดับทีมชาติอังกฤษ ไม่ว่า สกอตต์ ปาร์คเกอร์, โรเบิร์ต กรีน, เวย์น บริดจ์, คาร์ลตัน โคล และ แม็ทธิว อัพสัน แต่ท้ายที่สุดเวสต์แฮมกลายเป็นทีมตกชั้นก่อนใคร เมื่อพ่ายวีแกนทีมที่หนีตกชั้นด้วยกัน 2 – 3 ทั้งที่ออกนำไปก่อน 2 – 0 ประตู
เป็นธรรมเนียมของทีมตกชั้นอย่างที่รู้กันดี นักเตะดาวดังของทีมจะถูกทีมยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กในพรีเมียร์ลีกช้อนซื้อ เพราะฝีเท้ายังเล่นในลีกสูงสุดได้สบาย หรือตัวนักเตะจะดิ้นรนขอย้ายทีม
ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเป็นส่วนตัว สกอตต์ ปาร์กเกอร์ กองกลางกัปตันทีม น่าจะถูกทีมยักษ์อย่างสเปอร์ส ที่กำลังให้ความสนใจคว้าตัวไว้ก่อน เนื่องด้วยไม่แน่ใจว่าจะสามารถรั้งตัว ลูก้า โมดริช กองกลางจอมลากเลี้อยชาวโครแอตเอาไว้ได้หรือไม่ เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเอามาแทนพอล สโคลส์ ที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดให้ได้ ถึงสเปอร์สจะตั้งค่าตัว 30 ล้านปอนด์ก็ไม่น่ามีปัญหา และดูเหมือนว่าแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ผู้จัดการทีมสเปอร์สก็พร้อมขาย เพียงแต่ไม่ปริปากพูดให้เสียราคาเท่านั้น ถ้าได้ปาร์กเกอร์มาแทนที่โมดริช คุณภาพน้อยกว่าไปนิดก็เป็นกำไร
คาร์ลตัน โคล กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ แม้จะเข้าๆ ออกๆ ในฐานะตัวสำรอง โรเบิร์ต กรีน นายประตู อัพสันกับบริดจ์ กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษทั้งคู่ คงไม่กล้าลดชั้นไปเตะในเดอะแชมเปี้ยนชิป ทั้ง 4 คน ค่าตัวรวมกันน่าจะอยู่ระหว่าง 25 – 30 ล้านปอนด์ ทีมในพรีเมียร์ลีกหลายทีมน่าจะเซ็นสัญญามาค้าแข้ง ผมว่าอีกไม่ถึงเดือนก็รู้ผล
ผู้บริหารเวสต์แฮมคงหาทางปล่อยนักเตะค่าจ้างสูงออกไป แล้วนำเงินก้อนใหญ่มาซื้อนักเตะระดับเดอะแชมเปี้ยนชิปเข้ามาแทน พร้อมวางเป้ากลับคืนสู่ลีกสูงสุดภายในปีเดียวอย่างที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำได้เมื่อฤดูกาลก่อน
มันน่าเศร้าตรงที่การเฟ้นหาผู้จัดการทีมเก่งๆ มาทำงาน สตีฟ แม็คลาเรน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ขนาดว่างงานอยู่แท้ๆ ยังปฏิเสธรับงานที่เหมือนถูกลดชั้นฝีมือ แต่ยังโชคดีที่แซม อัลลาไดซ์ ที่ตกงานจากแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มา 5 - 6 เดือน กล้ารับมือกับความท้ายทายครั้งใหม่ ใครเป็นแฟน ‘ขุนค้อน’ คงพอมีความหวังขึ้นมาบ้าง
ชื่อเสียงของ ‘บิ๊กแซม’ อาจจะรั้งนักเตะชื่อดังของทีมไว้ได้สัก 1 – 2 คน แล้วใช้เงินของสโมสรเลือกซื้อนักเตะที่รูปร่างสูงใหญ่เจ้าพลังมาเสริมสไตล์ของแซม คือการเล่นด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายและพละกำลัง เน้นเก็บ 3 คะแนนในบ้าน ส่วนนอกบ้านชนะ – เสมอ – แพ้ ว่ากันไปเป็นเกมๆ แม้ทีมจะไม่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ แต่โอกาสเพลย์ออฟเหมือนอย่างสวอนซี ซิตี้ ได้เลื่อนชั้นในฤดูกาลนี้ย่อมเป็นไปได้
อาศัยฝีเท้า ประสบการณ์ และหัวใจของนักเตะที่รักสโมสร ไม่ย้ายไม่หนี เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คงไม่ตกชั้นหายลิบชนิดกู่ไม่กลับอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด
ผมเชื่อมั่นอีกครั้ง
ตอน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จำศีลอยู่ท้ายตารางช่วงกลางๆ ฤดูกาล ผมเขียนอย่างเชื่อมั่นว่า ถึงที่สุดทีม‘ขุนค้อน’จะยังโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป เพราะมีประสบการณ์หนีตกชั้นแทบทุกฤดูกาล
อีกอย่าง จิอันฟรังโก โซล่า ผู้จัดการทีมขณะนั้นนับเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ก็ถูกสโมสรอัปเปหิหลังผลงานไม่กระเตื้องขึ้น เมื่ออัฟราม แกรนท์ อดีตกุนซื้อเชลซีเข้ามารับรับงานต่อ ผมเชื่อยังมั่นว่าประสบการณ์ของแกร้นท์จะช่วยให้ ‘ขุนค้อน’ รอดตกชั้นในที่สุด
ที่มั่นใจอย่างนี้เพราะเชื่อฝีเท้าของนักเตะระดับทีมชาติอังกฤษ ไม่ว่า สกอตต์ ปาร์คเกอร์, โรเบิร์ต กรีน, เวย์น บริดจ์, คาร์ลตัน โคล และ แม็ทธิว อัพสัน แต่ท้ายที่สุดเวสต์แฮมกลายเป็นทีมตกชั้นก่อนใคร เมื่อพ่ายวีแกนทีมที่หนีตกชั้นด้วยกัน 2 – 3 ทั้งที่ออกนำไปก่อน 2 – 0 ประตู
เป็นธรรมเนียมของทีมตกชั้นอย่างที่รู้กันดี นักเตะดาวดังของทีมจะถูกทีมยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กในพรีเมียร์ลีกช้อนซื้อ เพราะฝีเท้ายังเล่นในลีกสูงสุดได้สบาย หรือตัวนักเตะจะดิ้นรนขอย้ายทีม
ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเป็นส่วนตัว สกอตต์ ปาร์กเกอร์ กองกลางกัปตันทีม น่าจะถูกทีมยักษ์อย่างสเปอร์ส ที่กำลังให้ความสนใจคว้าตัวไว้ก่อน เนื่องด้วยไม่แน่ใจว่าจะสามารถรั้งตัว ลูก้า โมดริช กองกลางจอมลากเลี้อยชาวโครแอตเอาไว้ได้หรือไม่ เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเอามาแทนพอล สโคลส์ ที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดให้ได้ ถึงสเปอร์สจะตั้งค่าตัว 30 ล้านปอนด์ก็ไม่น่ามีปัญหา และดูเหมือนว่าแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ผู้จัดการทีมสเปอร์สก็พร้อมขาย เพียงแต่ไม่ปริปากพูดให้เสียราคาเท่านั้น ถ้าได้ปาร์กเกอร์มาแทนที่โมดริช คุณภาพน้อยกว่าไปนิดก็เป็นกำไร
คาร์ลตัน โคล กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ แม้จะเข้าๆ ออกๆ ในฐานะตัวสำรอง โรเบิร์ต กรีน นายประตู อัพสันกับบริดจ์ กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษทั้งคู่ คงไม่กล้าลดชั้นไปเตะในเดอะแชมเปี้ยนชิป ทั้ง 4 คน ค่าตัวรวมกันน่าจะอยู่ระหว่าง 25 – 30 ล้านปอนด์ ทีมในพรีเมียร์ลีกหลายทีมน่าจะเซ็นสัญญามาค้าแข้ง ผมว่าอีกไม่ถึงเดือนก็รู้ผล
ผู้บริหารเวสต์แฮมคงหาทางปล่อยนักเตะค่าจ้างสูงออกไป แล้วนำเงินก้อนใหญ่มาซื้อนักเตะระดับเดอะแชมเปี้ยนชิปเข้ามาแทน พร้อมวางเป้ากลับคืนสู่ลีกสูงสุดภายในปีเดียวอย่างที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำได้เมื่อฤดูกาลก่อน
มันน่าเศร้าตรงที่การเฟ้นหาผู้จัดการทีมเก่งๆ มาทำงาน สตีฟ แม็คลาเรน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ขนาดว่างงานอยู่แท้ๆ ยังปฏิเสธรับงานที่เหมือนถูกลดชั้นฝีมือ แต่ยังโชคดีที่แซม อัลลาไดซ์ ที่ตกงานจากแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มา 5 - 6 เดือน กล้ารับมือกับความท้ายทายครั้งใหม่ ใครเป็นแฟน ‘ขุนค้อน’ คงพอมีความหวังขึ้นมาบ้าง
ชื่อเสียงของ ‘บิ๊กแซม’ อาจจะรั้งนักเตะชื่อดังของทีมไว้ได้สัก 1 – 2 คน แล้วใช้เงินของสโมสรเลือกซื้อนักเตะที่รูปร่างสูงใหญ่เจ้าพลังมาเสริมสไตล์ของแซม คือการเล่นด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายและพละกำลัง เน้นเก็บ 3 คะแนนในบ้าน ส่วนนอกบ้านชนะ – เสมอ – แพ้ ว่ากันไปเป็นเกมๆ แม้ทีมจะไม่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ แต่โอกาสเพลย์ออฟเหมือนอย่างสวอนซี ซิตี้ ได้เลื่อนชั้นในฤดูกาลนี้ย่อมเป็นไปได้
อาศัยฝีเท้า ประสบการณ์ และหัวใจของนักเตะที่รักสโมสร ไม่ย้ายไม่หนี เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คงไม่ตกชั้นหายลิบชนิดกู่ไม่กลับอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด
ผมเชื่อมั่นอีกครั้ง