รายงานพิเศษการเมือง
จากรายการของ “สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” ที่สรุปรายละเอียดการใช้เงินรับบริจาคผ่านบัญชีเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปี 2554 เมื่อต้นสัปดาห์ มียอดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ถึง 2 พ.ย. 2554 รวมทั้งสิ้น 816,323,457.57 ล้านบาท เมื่อรวมกับยอดเงินบริจาคและดอกเบี้ยที่เหลืออยู่ก่อนหน้านี้อีก 60 กว่าล้านบาทแล้ว กองทุนฯ มีเงินรวม 878,487,897.44 ล้านบาท ณ วันที่ 3 พ.ย. 2554
ทั้งนี้ รวมถึงเงินจากต่างประเทศ เช่น จีน เงินบริจาค 50 ล้านบาท และล่าสุด 40.6 ล้านหยวน ญี่ปุ่น 12 ล้านบาท Honda 112 ล้านบาท EU (European Union) 60 ล้านบาท บาห์เรน 60 ล้านบาท มาเลเซีย 30.9 ล้านบาท ออสเตรเลีย16 ล้านบาท เกาหลีใต้ 6 ล้านบาท อินเดีย 6 ล้านบาท เยอรมนี 1.7 ล้านบาท ครั้งที่ 2 อีก 4.2 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 3 ล้าน ให้สภากาชาดไทย สิงคโปร์ 2.4 ล้านบาท นิวซีแลนด์ 2.4 ล้านบาท เดนมาร์ก 1.6 ล้านบาท ลาว 1.5 ล้านบาท สวิตเซอร์แลนด์ 1 ล้านบาท บังคลาเทศ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศ ได้รับเงินบริจาคจากคนไทยในต่างประเทศ 4 ล้านบาท
สำนักนายกฯ ระบุถึงรายจ่ายของกองทุนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-3 พ.ย. 2554 มีจำนวน 507,114,560 ล้านบาท ทำให้มียอดคงเหลือ 371,373,337.44 ล้านบาท
โดยรายจ่ายสำคัญของกองทุนฯ คือ การจัดหาถุงยังชีพ 3 รายการ วงเงินรวมกว่า 294.634 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.การจัดหาเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่นๆ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จำนวน 173,124,560 ล้านบาท
2.การจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคในการบรรจุร่วมกับสิ่งของบริจาคสำหรับสนับสนุนภารกิจของ ศปภ.จำนวน 71,510,354.79 ล้านบาท
3.ค่าจัดหาถุงยังชีพของคณะอนุกรรมการบริหารจัดการถุงยังชีพ จำนวน 1 แสนถุงๆ ละ 500 บาท อีก 50 ล้านบาท
แม้ล่าสุด “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกลดชั้น ทำหน้าที่แค่ “ยามเฝ้าถุงยังชีพ” จะออกมาการันตีว่าโปร่งใส เพราะถุงยังชีพราคา 300 บาท และ 800 บาทที่ตกเป็นข่าวโด่งดังว่า “ผิดปกติ” ได้ยกเลิกไปแล้ว!!
แถมการตรวจสอบก็โยนไปให้ “ยรรยง พวงราช” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตรวจสอบแล้วก็รู้ความจริงได้อย่างไร
“จำเริญ ยุติธรรมสกุล” ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)ในฐานะรับผิดชอบสิ่งของบริจาคของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ณ สนามศุภชลาศัย บอกว่า ที่ยกเลิกเพราะ ในช่วงที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมไม่หนัก
“ทาง ศปภ.จัดซื้อถุงยังชีพในราคาถุงละ 300 บาท” แม้ล่าสุดท่านจะโบ้ยว่า สื่อ!! บางสำนักฯ ไปเอาถุงราคาต่ำกว่า 300 บาทจากไหนไม่รู้มาเปรียบเทียบ
ท่านบอกว่า ศปภ.จำเป็นต้องจัดซื้อถุงยังชีพถุงละ 500 บาท ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ภายในประกอบด้วย อาหารที่ปรุงสำเร็จรูป ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยสามารถบริโภคได้ทันทีและประทังชีวิตได้หลายวัน
ส่วนการจัดซื้อถุงยังชีพ 800 บาทต่อถุง ผู้ตรวจ สปน.ยืนยันว่า “กรมป้องและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย” เป็นผู้รับผิดชอบ
หากย้อนดู ปภ.มี “ฐานิสร์ เทียนทอง” รมช.มหาดไทย กำกับดูแล มี “ยศวริศ ชูกล่อม” หรือ 'เจ๋ง ดอกจิก' เลขานุการ รมช.มหาดไทย ที่เคยประกาศลั่น ว่า “ผมคุม ปภ.และใหญ่กว่าอธิบดี ปภ.” ช่วยดูแลนโยบาย
ดังนั้น การผลิตถุงยังชีพราคา 800 บาทต่อถุง ไม่เกี่ยวกับ ศปภ.ที่ยังคงดำเนินการผลิตถุงยังชีพราคา 500 บาท
รายงานฉบับนี้ ยังชี้แจงละเอียดการใช้เงินสำหรับจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้อื่นๆ ของ ปภ.จำนวน 173,124,560บาท ประกอบด้วย 14 รายการ คือ 1.เรือท้องแบนไฟเบอร์กลาส 30 ลำๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท 2.เรือพาย 209 ลำๆ ละ 5,500 บาท รวมเป็นเงิน 1,149,500 บาท 3.ห้องสุขาเคลื่อนที่ ทำด้วยไฟเบอร์ 18 ห้องๆ ละ 32,000 บาท รวมเป็นเงิน 576,000 บาท
4.ถุงยังชีพ 10,000 ถุงๆ ละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท 5.สุขากระดาษ 30,088 ชุดๆ ละ 245 บาท รวมเป็นเงิน 7,371,560 บาท 6.ถุงยังชีพถุงละ 800 บาท 100,000 ถุง รวมเป็นเงิน 80 ล้านบาท 7.เต็นท์นอน 2 คนแบบไม่มีชั้นความร้อน 2,700 หลังๆ ละ 925 บาท รวมเป็นเงิน 2,497,500 บาท 8.เต็นท์นอน 2 คน แบบไม่มีชั้นความร้อน 1,200 หลังๆ ละ 1,750 บาท รวมเป็นเงิน 2,100,000 บาท
9.เต็นท์นอน 2 คนแบบมีชั้นความร้อน 3,100 หลังๆ ละ 1,950 บาท รวมเป็นเงิน 6,045,000 บาท 10.เต็นท์นอน 3 คน ทรงสูงแบบมีชั้นความร้อน 3,100 หลังๆ ละ 3,450 บาท รวมเป็นเงิน 4,485,000 บาท 11.เต็นท์นอน 4 คน ทรงสูงแบบมีชั้นความร้อน 1,950 หลังๆ ละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 7,800,000 บาท 12.เต็นท์ยกพื้นขนาดนอน 5-6 คน 200 หลังๆ ละ 55,000 บาท รวมเป็นเงิน 11 ล้านบาท
13.สุขาเคลื่อนที่ 800 หลังๆ ละ 32,000 บาท รวมเป็นเงิน 25,600,000 บาท 14.สุขามือถือพลาสติก 30,000 ชุดๆ ละ 400 บาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท
แทนที่การจัดซื้อจัดจ้างจะฉลุย! แต่น้ำลดตอกลับผุด โดยเฉพาะ “การจัดซื้อสุขากระดาษ” มีการตั้งข้อสังเกตว่า “ส้วมกระดาษของมูลนิธิซิเมนต์ไทย (SCG)” ภาคเอกชนที่ผลิตเพื่อบริจาคฟรีไม่มีการซื้อขาย รวมทั้ง“ส้วมเฉพาะกิจ จากน้ำใจนิสิตจุฬาฯ” ก็ทำกันฟรี แจกกันฟรี ลงทุนกันฟรี
“สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” แจ้งว่าที่ ปภ.ขอจัดซื้อจัดจ้างมีราคาชุดละ 245 บาท จัดทำสำหรับบริจาคให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย แตกต่างกับของ SCG ที่มีราคาอยู่ที่ 111 บาทเท่านั้น
ดังนั้นการจัดซื้อสุขากระดาษของ ปภ.ครั้งนี้ จึงมีราคาแพงกว่าของมูลนิธิซีเมนต์ไทยถึง 134 บาทต่อ 1 ชุด
ปภ.จัดจัดซื้อทั้งหมด 30,088 ชุด จะมีราคาแพงกว่า 4,031,792 บาท!!!!
“ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” บอกถึงการจัดซื้อสุขากระดาษ ของ ปภ.ว่า “เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการหากินบนความทุกข์ของประชาชนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ นอกจากเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังถือว่าเป็นบาปอีกด้วย”
แต่มาแปลกใจ ที่รองนายกฯ ยงยุทธกลับบอกว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) มีการดำเนินการจัดซื้อ แม้รายงานของ “สำนักนายกฯ” จะระบุในเอกสารรายงานว่า “ปภ.” เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง30,088 ชุด
แต่เขาย้ำว่า เรื่องนี้ใครทำอะไรก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นเรื่องที่สังคมคงรับไม่ได้อย่างยิ่งและหากพบว่า มีข้าราชการในสังกัดของกระทรวงมหาดไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่มีการประนีประนอม
ต้องขอดูว่า ที่ว่าไม่มีการประนีประนอม
ปัญหา “ถุงยังชีพ-สุขากระดาษ” ราคาสูง ราคาแพงเกินจริง มีการให้ตั้งกรรมการสอบ
ล่าสุดมีกระแสข่าวจะอนุมัติซื้อหัวเชื้ออีเอ็ม “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” เจ้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงกลาโหมแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียภายใน 15 วัน
ดูซิว่า ปภ.-ศปภ.เขาจะชี้แจงกันอีกอย่างไร