กกท.จ่อฉลุย "อธิปรัฐ" คุม ส.ยิงปืน

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย คาดไม่เกินสิ้นเดือนรู้ผลเก้าอี้ประมุข ส.ยิงปืน หลังได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกสามัญของสมาคมกีฬายิงปืนฯ ทั้ง 269 คนเรียบร้อยแล้ว ก่อนยื่น "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท. ตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่มีปัญหาใดๆ นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ "ว่าที่" นายกสมาคมยิงปืนฯ จะสามารถนำไปจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ทันที พร้อมเรียกทุกสมาคมกีฬาเข้าฟังข้อบังคับกลางของ กกท. เพื่อกำหนดทิศทางเดียวกันในวันที่ 10 มิ.ย.นี้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2554 พลเอกเกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา ครั้งที่ 6/2554 ที่อาคารรัฐสภา 2 โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาเรื่องร้องเรียนของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เรื่องขอเร่งรัดให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าไปบริหารงานสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งได้เชิญ นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ "ว่าที่" นายกสมาคมยิงปืนฯ และ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าชี้แจง

สืบเนื่องจากที่ นายบุญกล้า สว่างแสง สมาชิกและนักกีฬาของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือร้องเรียนมายังประธานคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา เรื่องขอให้เร่งรัด กกท. เข้าไปบริหารงานสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย โดย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผอ.การฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ กล่าวว่า "ขณะนี้ กกท. ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกสามัญของสมาคมกีฬายิงปืนฯ รวม 269 คนที่ได้ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนี้เป็นขั้นตอนยื่นต่อ นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท. ได้ตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่มีปัญหาใดๆ ก็จะให้นายอธิปรัฐสามารถนำไปจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารสมาคมได้ในช่วงสิ้นเดือนนี้ ขณะที่งบประมาณในการเก็บตัวนักยิงปืนชุดซีเกมส์ กกท.ยังให้การสนับสนุนเหมือนเดิม เพียงแต่ขณะนี้ทางสมาคมฯ ยังไม่ได้ส่งแผนงานยื่น กกท. จึงยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย"

ขณะเดียวกัน พลเอกเกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ วุฒิสภา ได้สอบถามถึงสาเหตุที่มีการรับสมัครสมาชิกช่วงก่อนเลือกตั้งใหม่ถึง 400 คนว่าเพราะอะไร นายอธิปรัฐชี้แจงว่า "ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะในการเลือกตั้งนายกสมาคมยิงปืนฯ มีถึง 3 ขั้วที่ตั้งใจจะลงชิงตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.ขั้วเก่าที่ผมและนพ.เอาชัย 2.นายโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ นักกีฬายิงปืน และ3. นายวิเชียร ไพจิตรกาญจนกุล สมาชิกกิตติมศักดิ์ ถือเป็นการสร้างฐานเสียงให้แต่ขั้วต่างๆ แต่เมื่อทั้ง 2 ขั้วนั้นไม่ได้รับเลือก ทำให้ผมตกเป็นเป้าสายตาว่าเพราะอะไรถึงมีเสียงสนับสนุนมาก ทั้งนี้ยืนยันได้ว่าสมาชิกทุกคนสามารถตรวจสอบในทางกฎหมายได้ทั้งหมด"

นอกจากนี้ นายอธิปรัฐ กล่าวถึงสาเหตุที่เลือกตั้งในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมาว่า "ก่อนการเลือกตั้ง กกท.มีคำสั่งให้พิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ไม่ได้สั่งระงับการเลือกตั้ง จึงถือได้ว่ายังมีสิทธิ์ที่เกิดการเลือกตั้งหากเป็นมติในที่ประชุม จนกระทั่งมีมติเสียงส่วนใหญ่จำนวน 422 เสียง จาก 426 เสียง ประสงค์ให้มีเกิดการเลือกตั้งขึ้นมาและเป็นผมที่มีคะแนนเสียงมากที่สุด 277 เสียง ดังนั้นถือได้ว่าผมเป็นนายกสมาคมฯ ที่ถูกต้องตามระเบียบ กกท. แม้วันนั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่จาก กกท. มาร่วมสังเกตการณ์ ส่วนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเกิดมาจากการที่มีผู้ปกครองของนักกีฬาที่ไม่มีชื่อติดทีมชาติจึงเป็นสาเหตุไม่พอใจที่ลูกหลุดจากทีมชาติแล้วเดินสายฟ้องผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการกีฬาหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น กกท., กมธ.สว.กีฬา, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ศาลแพ่ง ในขณะที่สาเหตุสำคัญที่หลุดจากทีมชาติ เพราะผลงานของนักกีฬาคนนั้นไม่ดีเอง ไม่ใช่เป็นการเล่นพรรคเล่นพวกแต่อย่างใด"

ทั้งนี้ประเด็นเรื่องที่สมาคมฯ มีการเบิกจ่ายกระบอกปืนและกระสุนปืนมากเป็นพิเศษ นายอธิปรัฐ ชี้แจงว่า "เรื่องอาวุธปืนต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือ สมาคมฯ สามารถซื้อหาเองได้ และ ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีกระบอกปืนหายไปกว่า 22 กระบอก ซึ่งทางสมาคมฯ ทราบดีว่าปืนเหล่านั้นอยู่ที่ใคร แต่เรายังไม่ได้ดำเนินการถึงขั้นเด็ดขาด เพื่อรอให้บุคคลนั้นไปดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง โดยสมาคมฯ ก็ได้มีการบันทึกข้อความไว้แล้วที่ สน.หัวหมาก ที่สำคัญอยากให้บุคคลทั่วไปทราบด้วยว่าสมาคมฯ ยังคงเป็นผู้เสียภาษีกระสุนปืนจำนวน 75,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ไม่ได้รับการยกเว้นแต่อย่างใด"

ท้ายนี้ นายณัฐวุฒิ เปิดเผยถึงแนวคิดที่จะทำอย่างไรเพื่อให้สมาคมกีฬาอยู่ในสังกัด กกท. เพียงฝ่ายเดียวว่า "เรามีแนวคิดที่จะเปลี่ยนให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ใช้คำว่า สหพันธ์กีฬาแห่งประเทศไทย เนื่องจากการเป็นสมาคมจะรองรับด้วยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ถ้าเป็นสหพันธ์จะสามารถขึ้นอยู่ในการดูแลของ กกท.ได้โดยตรง ซึ่ง กกท.สามารถแก้ไขปัญหาของสหพันธ์กีฬาได้ดีกว่านี้ จึงอยากฝากให้ กมธ.ส.ว.พิจารณาผลักดันการแก้กฎหมายการเปลี่ยนชื่อองค์กรกีฬาอีกทางหนึ่ง พร้อมกันนี้ในวันที่ 10 มิ.ย.54 ทาง กกท. จะมีการเชิญสมาคมกีฬาทุกชนิดเข้าร่วมฟังข้อบังคับกลางเพื่อให้ทุกสมาคมฯ มีการดำเนินการไปแนวทางเดียวกัน ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความขัดแย้งในแต่ละสมาคมกีฬา"

อนึ่งในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยฯ ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงสนามตามแบบแปลนใหม่และการชี้แจงปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมาคมฯ พร้อมแนวทางการแก้ไขด้วยนโยบาย "ซ่อมบ้านล้างความจัญไร ซ่อมใจไปสู่ฝัน" ณ ห้องประชุมสมาคมฯ เวลา 10.00 น.