“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังหลอน แบล็กพูล 4-2 นัดฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่งท้ายเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมกับส่ง “เดอะ ซีไซเดอร์ส” ควงแขน “เดอะบูลส์” เบอร์มิงแฮม ซิตี หล่นชั้น
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางทัพ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดเกือบใหญ่ลงปิดท้ายฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารจอมเก๋าได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมส่งท้าย ปาทริซ เอฟรา กับ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ถูกส่งมาเรียกความฟิต ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลุ้นทำประตูเพื่อครองตำแหน่งดาวซัลโว ด้าน เอียน ฮอลโลเวย์ หวังนำ “เดอะ ซีไซเดอร์ส” แบล็กพูล หนีตกชั้นให้ได้ ความหวังฝากไว้กับ ชาร์ลี อดัม เพลย์เมกเกอร์ และ ดีเจ แคมป์เบลล์ หัวหอกตัวความหวัง
เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 24 วินาที แบล็กพูลพลาดโอกาสทองในการขึ้นนำเมื่อ ดีเจ แคมป์เบลล์ ตัดบอลได้จาก พอล สโคลส์ ก่อนแทงต่อให้ ชาร์ลี อดัม หลุดเข้าไปเปิดเข้ากลาง คีธ เซาเธิร์น วิ่งเข้ามาแปเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เปิดแฉลบตั้งให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา วอลเลย์ด้วยซ้ายไปตรงตัว แม็ทธิว กิลค์ส นาทีที่ 7 เจ้าบ้านเกือบได้เฮอีกครั้ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หยอดให้ เบิร์บ จับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจิ้มด้วยขวา กิลค์ส ยังล้มตัวรับไว้ได้ทัน
ถึงนาที 21 “ผีแดง” ก็ออกนำ 1-0 จนได้จากจังหวะ เบอร์บาตอฟ กระดกบอลให้ ปาร์ค จี ซอง สลัดการประกบของ เอียน อีแวตต์ เข้าไปส่องผ่าน กิลค์ส ตุงตาข่าย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าถิ่นเริ่มผ่อนเคลื่อนแต่ยังครองบอลได้เหนือกว่าและเกือบหนีห่าง เมื่อแผงหลังทีมเยือนผิดพลาดโดน เบิร์บ ฉกไปยิงในกรอบโทษคราวนี้ กิลค์ส ป้องกันไว้ได้หวุดหวิด แต่ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แบล็คพูล มาตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากฟรีคิกของ ชาร์ลี อดัม ที่ข้ามกำแพงพุ่งกระแทกเสาเข้าไป จนปัญญาที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันไว้ได้
ลุยต่อครึ่งหลังแค่สามนาที “เดอะ ซีไซเดอร์ส” ได้ฟรีคิกระยะหวังผลอีกครั้ง อดัม ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดร้อนถึง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องชกทิ้งไป จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมบุกบ้าง หลุยส์ นานี เปิดลูกเตะมุมให้ เบอร์บาตอฟ โหนโขกข้ามคาน ถึงนาทีที่ 57 ผู้มาเยือนกลายเป็นทีมที่พลิกนำ 2-1 เมื่อ เดวิด วอห์น เปิดให้ แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ ตวัดยิงบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระเด้งเสาสองกระดอนเข้าประตู อย่างไรก็ดี 5 นาทีถัดมา “ผีแดง” ตีสมอ 2-2 จากจังหวะ ปาร์ค จ่ายให้ อันแดร์สัน ปั่นโค้งเสียบตาข่าย
จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่ง ไมเคิล โอเวน ลงมาแทน ปาร์ค และพอทวงคืนได้เร็วเจ้าบ้านเริ่มกระหน่ำ เบิร์บ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ กิลค์ส โดนกดดันหนักๆ ผู้มาเยือนก็มาพลาด ในนาทีที่ 74 เมื่อ คริส สมอลลิง ตัวสำรองเปิดจากกราบขวาเข้ามา อีแวตต์ พลาดสกัดเข้าประตูตัวเองให้เจ้าถิ่นนำ 3-2 พอตกเป็นรองอีกครั้ง อีแวตต์ พยายามแก้ตัวขึ้นมาจิ้มบอลโดน ฟาน เดอร์ ซาร์ บล็อกเอาไว้ ในที่สุด แบล็กพูล มีอันต้องตกชั้นจนได้เมื่อ โอเวน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า กิลค์ส เข้าไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4-2 ก่อนหมดเวลา 9 นาที ทำให้ “ผีแดง” ฉลองแชมป์ด้วยการเก็บไปทั้งสิ้น 80 คะแนนจาก 38 นัด ขณะที่ แบล็กพูล มีเพียง 39 แต้ม ไม่ดีพอที่จะอยู่รอด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, เนมันยา วิดิช, โจนาธาน อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, ปาร์ค จี ซอง, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, หลุยส์ นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แบล็กพูล : แม็ทธิว กิลค์ส, สตีเฟน แคร์นีย์, เอียน อีแวตต์, อเล็กซ์ บัปติส, นีล เอิร์ดลีย์, เดวิด วอห์น, ชาร์ลี อดัม, คีธ เซาเทิร์น, เจสัน พันเชียน, ดีเจ แคมป์เบลล์, แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดปิดท้ายซีซัน ประจำวันอาทิตย์
แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : สจวร์ต ดาวนิง (น.33)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : โจลีออน เลสค็อตต์ (น.43) , 0-2 : เอดิน เซโก (น.62)]
เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี
[1-0 : เจอร์เมน เบ็กฟอร์ด (น.75)]
ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล
[1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.26) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.29) , 2-1 : บ็อบบี ซาโมรา (น.57) , 2-2 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.89)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็คพูล
[1-0 : ปาร์ค จี ซอง (น.21) , 1-1 : ชาร์ลี อดัม (น.40) , 1-2 : แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ (น.57) , 2-2 : อันแดร์สัน (น.62) , 3-2 : เอียน อีแวตต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.74) , 4-2 : ไมเคิล โอเวน (น.81)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : สตีเวน เทย์เลอร์ (น.16) , 2-0 : ปีเตอร์ โลเวนครานท์ส (น.39) , 3-0 : โยนาส โอลส์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47) , 3-1 : โซเมน โชยี (น.62) , 3-2 : โซเมน โชยี (น.71) , 3-3 : โซเมน โชยี (น.90)]
สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.78)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.49) , 1-1 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.79) , 2-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.90)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-3 ซันเดอร์แลนด์
[0-1 : เบาเดอไวน์ เซนเดน (น.17) , 0-2 : สเตฟาน แซสเซญอง (น.51) , 0-3 : คริสเตียน ริเวรอส (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : เจสัน โรเบิร์ตส (น.22) , 0-2 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.38) , 0-3 : เดวิด ฮอยเลตต์ (น.45) , 1-3 : เจมี โอฮารา (น.73) , 2-3 : สตีเฟน ฮันท์ (น.87)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางทัพ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดเกือบใหญ่ลงปิดท้ายฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารจอมเก๋าได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมส่งท้าย ปาทริซ เอฟรา กับ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ถูกส่งมาเรียกความฟิต ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลุ้นทำประตูเพื่อครองตำแหน่งดาวซัลโว ด้าน เอียน ฮอลโลเวย์ หวังนำ “เดอะ ซีไซเดอร์ส” แบล็กพูล หนีตกชั้นให้ได้ ความหวังฝากไว้กับ ชาร์ลี อดัม เพลย์เมกเกอร์ และ ดีเจ แคมป์เบลล์ หัวหอกตัวความหวัง
เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 24 วินาที แบล็กพูลพลาดโอกาสทองในการขึ้นนำเมื่อ ดีเจ แคมป์เบลล์ ตัดบอลได้จาก พอล สโคลส์ ก่อนแทงต่อให้ ชาร์ลี อดัม หลุดเข้าไปเปิดเข้ากลาง คีธ เซาเธิร์น วิ่งเข้ามาแปเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เปิดแฉลบตั้งให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา วอลเลย์ด้วยซ้ายไปตรงตัว แม็ทธิว กิลค์ส นาทีที่ 7 เจ้าบ้านเกือบได้เฮอีกครั้ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หยอดให้ เบิร์บ จับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจิ้มด้วยขวา กิลค์ส ยังล้มตัวรับไว้ได้ทัน
ถึงนาที 21 “ผีแดง” ก็ออกนำ 1-0 จนได้จากจังหวะ เบอร์บาตอฟ กระดกบอลให้ ปาร์ค จี ซอง สลัดการประกบของ เอียน อีแวตต์ เข้าไปส่องผ่าน กิลค์ส ตุงตาข่าย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าถิ่นเริ่มผ่อนเคลื่อนแต่ยังครองบอลได้เหนือกว่าและเกือบหนีห่าง เมื่อแผงหลังทีมเยือนผิดพลาดโดน เบิร์บ ฉกไปยิงในกรอบโทษคราวนี้ กิลค์ส ป้องกันไว้ได้หวุดหวิด แต่ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แบล็คพูล มาตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากฟรีคิกของ ชาร์ลี อดัม ที่ข้ามกำแพงพุ่งกระแทกเสาเข้าไป จนปัญญาที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันไว้ได้
ลุยต่อครึ่งหลังแค่สามนาที “เดอะ ซีไซเดอร์ส” ได้ฟรีคิกระยะหวังผลอีกครั้ง อดัม ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดร้อนถึง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องชกทิ้งไป จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมบุกบ้าง หลุยส์ นานี เปิดลูกเตะมุมให้ เบอร์บาตอฟ โหนโขกข้ามคาน ถึงนาทีที่ 57 ผู้มาเยือนกลายเป็นทีมที่พลิกนำ 2-1 เมื่อ เดวิด วอห์น เปิดให้ แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ ตวัดยิงบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระเด้งเสาสองกระดอนเข้าประตู อย่างไรก็ดี 5 นาทีถัดมา “ผีแดง” ตีสมอ 2-2 จากจังหวะ ปาร์ค จ่ายให้ อันแดร์สัน ปั่นโค้งเสียบตาข่าย
จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่ง ไมเคิล โอเวน ลงมาแทน ปาร์ค และพอทวงคืนได้เร็วเจ้าบ้านเริ่มกระหน่ำ เบิร์บ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ กิลค์ส โดนกดดันหนักๆ ผู้มาเยือนก็มาพลาด ในนาทีที่ 74 เมื่อ คริส สมอลลิง ตัวสำรองเปิดจากกราบขวาเข้ามา อีแวตต์ พลาดสกัดเข้าประตูตัวเองให้เจ้าถิ่นนำ 3-2 พอตกเป็นรองอีกครั้ง อีแวตต์ พยายามแก้ตัวขึ้นมาจิ้มบอลโดน ฟาน เดอร์ ซาร์ บล็อกเอาไว้ ในที่สุด แบล็กพูล มีอันต้องตกชั้นจนได้เมื่อ โอเวน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า กิลค์ส เข้าไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4-2 ก่อนหมดเวลา 9 นาที ทำให้ “ผีแดง” ฉลองแชมป์ด้วยการเก็บไปทั้งสิ้น 80 คะแนนจาก 38 นัด ขณะที่ แบล็กพูล มีเพียง 39 แต้ม ไม่ดีพอที่จะอยู่รอด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, เนมันยา วิดิช, โจนาธาน อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, ปาร์ค จี ซอง, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, หลุยส์ นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แบล็กพูล : แม็ทธิว กิลค์ส, สตีเฟน แคร์นีย์, เอียน อีแวตต์, อเล็กซ์ บัปติส, นีล เอิร์ดลีย์, เดวิด วอห์น, ชาร์ลี อดัม, คีธ เซาเทิร์น, เจสัน พันเชียน, ดีเจ แคมป์เบลล์, แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดปิดท้ายซีซัน ประจำวันอาทิตย์
แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล
[1-0 : สจวร์ต ดาวนิง (น.33)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
[0-1 : โจลีออน เลสค็อตต์ (น.43) , 0-2 : เอดิน เซโก (น.62)]
เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี
[1-0 : เจอร์เมน เบ็กฟอร์ด (น.75)]
ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล
[1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.26) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.29) , 2-1 : บ็อบบี ซาโมรา (น.57) , 2-2 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.89)]
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็คพูล
[1-0 : ปาร์ค จี ซอง (น.21) , 1-1 : ชาร์ลี อดัม (น.40) , 1-2 : แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ (น.57) , 2-2 : อันแดร์สัน (น.62) , 3-2 : เอียน อีแวตต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.74) , 4-2 : ไมเคิล โอเวน (น.81)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : สตีเวน เทย์เลอร์ (น.16) , 2-0 : ปีเตอร์ โลเวนครานท์ส (น.39) , 3-0 : โยนาส โอลส์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47) , 3-1 : โซเมน โชยี (น.62) , 3-2 : โซเมน โชยี (น.71) , 3-3 : โซเมน โชยี (น.90)]
สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก
[0-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.78)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
[1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.49) , 1-1 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.79) , 2-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.90)]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-3 ซันเดอร์แลนด์
[0-1 : เบาเดอไวน์ เซนเดน (น.17) , 0-2 : สเตฟาน แซสเซญอง (น.51) , 0-3 : คริสเตียน ริเวรอส (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
[0-1 : เจสัน โรเบิร์ตส (น.22) , 0-2 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.38) , 0-3 : เดวิด ฮอยเลตต์ (น.45) , 1-3 : เจมี โอฮารา (น.73) , 2-3 : สตีเฟน ฮันท์ (น.87)]