"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หืดจับกว่าจะบุกตามตีเสมอ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 แต่ก็เพียงพอกับการผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2010/11 มาครองเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2554
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดหนักหวังนำ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าให้ได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มเพื่อขึ้นไปเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 โดยทีมเยือนมีการปรับทัพเล็กน้อยให้ โทมัสซ์ คุสแซ็ค เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ได้พัก แนวรับให้ โจนาธาน อีแวนส์ ยืนแบ็กซ้ายจำเป็น แนวรุกยังใช้ เวย์น รูนีย์ ประสานงาน ฮาเวียร์ "ชิชาริโต" เฮอร์นานเดซ ด้าน "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น ยังต้องการคะแนนเพื่อความอยู่รอด เกมนี้กุนซือ สตีฟ คีน วางหมากอัดกลางแน่น 5 คน ห้อยไว้เพียง เจสัน โรเบิร์ตส สำหรับความหวังในการลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 4 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบขึ้นนำเร็ว เวย์น รูนีย์ ถ่างไปเล่นด้านขวาก่อนเปิดเข้าในให้ หลุยส์ นานี สลัดหลุดการประกบของ คริสโตเฟอร์ แซมบา ก่อนโหม่งเต็มๆ บอลกระแทกคานออกมา แบล็คเบิร์น ตั้งหลักได้ลุยขึ้นมาเหมือนกัน เดวิด ฮอยเล็ตต์ ตะลุยเข้ากรอบโทษก่อนไหลให้ คริสโตเฟอร์ แซมบา เติมขึ้นมาซัดบอลเหินข้ามคาน นาที 18 แฟนๆ เจ้าถิ่นในอีวูด ปาร์ค เฮกันเก้อแม้ แซมบา โชว์ทักษะเดาะด้วยเข่าก่อนเอี้ยวตัววอลเย์เสียบตาข่าย อย่างไรก็ตาม กองหลังตัวแกร่งไปกระแทก เนมันยา วิดิช ก่อนที่จะเล่นบอล
ให้หลังอีกสองนาที "กุหลาบไฟ" ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ มาร์ติน โอลส์สัน เปิดจากเขตโทษด้านซ้ายให้ เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน สอดเข้ามาแปเหน่งๆ ไม่เหลือ พอเสียประตูไปทีมเยือนดันเกมรุกหวังทวงคืนแต่ผ่านครึ่งชั่วโมงยังเจาะไม่เข้า นาที 34 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ได้จังหวะพลิกยิงหนแรกของเกม พอล โรบินสัน พุ่งไปปัดบอลออกหลังไป สามนาทีถัดมา เจ้าบ้านสวนขึ้นมาได้เสียว มิเชล ซัลกาโด ตักไปเสาไกลให้ โอลส์สัน ตะบันด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบนิดเดียวเท่านั้น ท้ายครึ่งแรก นานี ได้ซ้ำเน้นๆ แต่โด่งเกินไปทำให้จบ 45 นาทีแรก เฟอร์กี ต้องกลับไปแก้เกมพอสมควร
ลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ปูพรมบุกต่อ "ชิชาริโต" เฮอร์นานเดซ ลุยขึ้นมาแต่จังหวะแทงทะลุให้ ไรอัน กิกส์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวดันเบาเกินไป แบล็คเบิร์น มีสวนขึ้นมาเหมือนกัน เจสัน โรเบิร์ตส โผขึ้นโหม่งทว่า โทมัส คุสซ์แซ็ค ยังชกบอลทิ้งไปได้ กำลังจะเข้าหนึ่งชั่วโมงเต็มเป็น สตีฟ คีน ปรับหมากก่อนปล่อย มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน ที่หายเจ็บแล้วกลับมาเล่นแทน ฮอยเล็ตต์ ถัดมา กิกส์ ได้ยิงลูกขลุกขลิกในกรอบโทษทว่าโดนกองหลังเจ้าถิ่นตามบล็อกได้ทัน ทำให้ ท่านเซอร์ ต้องแก้เกมบ้างส่ง พอล สโคลส์ กลางตัวเก๋าลงมาเล่นแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา พร้อมปรับแท็คติกถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไปยืนแบ็กขวาจำเป็น
นาที 65 "ผีแดง" ทำไม่ได้ยังเกือบจะมาเสียอีก เอเมอร์ตัน โยนบอลจากกราบขวาไปเสาสองให้ โอลส์สัน ขึ้นโหม่งบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ แปดนาทีถัดมา ผู้มาเยือนได้จุดโทษเมื่อ "ถั่วน้อย" กระชากบอลเข้ากรอบโทษแล้วโดน โรบิสัน พุ่งมาปัดขาล้มลง ฟิล ดาวด์ เชิ้ตดำเข้าไปปรึกษาผู้ช่วยผู้ตัดสินก่อนชี้เป็นจุดโทษและก็เป็น รูนีย์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดสกอร์มาเท่ากัน 1-1 ช่วงที่เหลือทั้งสองฝ่ายประคองตัว ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนจาก 37 นัด ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก 2010/11 แน่นอนแล้ว เนื่องจากทิ้ง เชลซี อันดับ 2 ห่าง 7 แต้ม ส่วน "กุหลาบไฟ" มี 40 คะแนน รั้งที่ 15 มีโอกาสรอดตกชั้นสูงทีเดียว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , มิเชล ซัลกาโด , คริสโตเฟอร์ แซมบา , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , ฟิล โจนส์ , เจอร์เมน โจนส์ , สตีเฟน เอ็นซ็องซี , เดวิด ฮอยเล็ตต์ , เจสัน โรเบิร์ตส
แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสแซ็ค , ฟาบิโอ ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , โจนาธาน อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล คาร์ริค , ไรอัน กิกส์ , หลุยส์ นานี , เวย์น รูนีย์ , ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันเสาร์
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[1-0 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.20) , 1-1 : เวย์น รูนีย์ (จุดโทษ น.73)]
แบล็คพูล 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : เควิน เดวีส์ (น.6) , 1-1 : ดีเจ แคมป์เบลล์ (น.9) , 2-1 : เจสัน ปูนชอง (น.19) , 2-2 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.24) , 3-2 : ดีเจ แคมป์เบลล์ (น.45) , 3-3 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.53) , 4-3 : ชาร์ลี อดัม (น.63)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-3 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : โจดี แคร็ดด็อก (น.23) , 1-1 : สเตฟาน แซสเซญอง (น.34) , 1-2 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.54) , 1-3 : จอร์จ เอโลโกบี (น.78)]
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 : ยูซุฟ มูลัมบู (น.10)]
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดหนักหวังนำ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าให้ได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มเพื่อขึ้นไปเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 โดยทีมเยือนมีการปรับทัพเล็กน้อยให้ โทมัสซ์ คุสแซ็ค เฝ้าเสาแทน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ได้พัก แนวรับให้ โจนาธาน อีแวนส์ ยืนแบ็กซ้ายจำเป็น แนวรุกยังใช้ เวย์น รูนีย์ ประสานงาน ฮาเวียร์ "ชิชาริโต" เฮอร์นานเดซ ด้าน "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น ยังต้องการคะแนนเพื่อความอยู่รอด เกมนี้กุนซือ สตีฟ คีน วางหมากอัดกลางแน่น 5 คน ห้อยไว้เพียง เจสัน โรเบิร์ตส สำหรับความหวังในการลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 4 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบขึ้นนำเร็ว เวย์น รูนีย์ ถ่างไปเล่นด้านขวาก่อนเปิดเข้าในให้ หลุยส์ นานี สลัดหลุดการประกบของ คริสโตเฟอร์ แซมบา ก่อนโหม่งเต็มๆ บอลกระแทกคานออกมา แบล็คเบิร์น ตั้งหลักได้ลุยขึ้นมาเหมือนกัน เดวิด ฮอยเล็ตต์ ตะลุยเข้ากรอบโทษก่อนไหลให้ คริสโตเฟอร์ แซมบา เติมขึ้นมาซัดบอลเหินข้ามคาน นาที 18 แฟนๆ เจ้าถิ่นในอีวูด ปาร์ค เฮกันเก้อแม้ แซมบา โชว์ทักษะเดาะด้วยเข่าก่อนเอี้ยวตัววอลเย์เสียบตาข่าย อย่างไรก็ตาม กองหลังตัวแกร่งไปกระแทก เนมันยา วิดิช ก่อนที่จะเล่นบอล
ให้หลังอีกสองนาที "กุหลาบไฟ" ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ มาร์ติน โอลส์สัน เปิดจากเขตโทษด้านซ้ายให้ เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน สอดเข้ามาแปเหน่งๆ ไม่เหลือ พอเสียประตูไปทีมเยือนดันเกมรุกหวังทวงคืนแต่ผ่านครึ่งชั่วโมงยังเจาะไม่เข้า นาที 34 ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ได้จังหวะพลิกยิงหนแรกของเกม พอล โรบินสัน พุ่งไปปัดบอลออกหลังไป สามนาทีถัดมา เจ้าบ้านสวนขึ้นมาได้เสียว มิเชล ซัลกาโด ตักไปเสาไกลให้ โอลส์สัน ตะบันด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบนิดเดียวเท่านั้น ท้ายครึ่งแรก นานี ได้ซ้ำเน้นๆ แต่โด่งเกินไปทำให้จบ 45 นาทีแรก เฟอร์กี ต้องกลับไปแก้เกมพอสมควร
ลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ปูพรมบุกต่อ "ชิชาริโต" เฮอร์นานเดซ ลุยขึ้นมาแต่จังหวะแทงทะลุให้ ไรอัน กิกส์ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยวดันเบาเกินไป แบล็คเบิร์น มีสวนขึ้นมาเหมือนกัน เจสัน โรเบิร์ตส โผขึ้นโหม่งทว่า โทมัส คุสซ์แซ็ค ยังชกบอลทิ้งไปได้ กำลังจะเข้าหนึ่งชั่วโมงเต็มเป็น สตีฟ คีน ปรับหมากก่อนปล่อย มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน ที่หายเจ็บแล้วกลับมาเล่นแทน ฮอยเล็ตต์ ถัดมา กิกส์ ได้ยิงลูกขลุกขลิกในกรอบโทษทว่าโดนกองหลังเจ้าถิ่นตามบล็อกได้ทัน ทำให้ ท่านเซอร์ ต้องแก้เกมบ้างส่ง พอล สโคลส์ กลางตัวเก๋าลงมาเล่นแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา พร้อมปรับแท็คติกถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไปยืนแบ็กขวาจำเป็น
นาที 65 "ผีแดง" ทำไม่ได้ยังเกือบจะมาเสียอีก เอเมอร์ตัน โยนบอลจากกราบขวาไปเสาสองให้ โอลส์สัน ขึ้นโหม่งบอลกระแทกเสาออกมาเต็มๆ แปดนาทีถัดมา ผู้มาเยือนได้จุดโทษเมื่อ "ถั่วน้อย" กระชากบอลเข้ากรอบโทษแล้วโดน โรบิสัน พุ่งมาปัดขาล้มลง ฟิล ดาวด์ เชิ้ตดำเข้าไปปรึกษาผู้ช่วยผู้ตัดสินก่อนชี้เป็นจุดโทษและก็เป็น รูนีย์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดสกอร์มาเท่ากัน 1-1 ช่วงที่เหลือทั้งสองฝ่ายประคองตัว ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนจาก 37 นัด ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก 2010/11 แน่นอนแล้ว เนื่องจากทิ้ง เชลซี อันดับ 2 ห่าง 7 แต้ม ส่วน "กุหลาบไฟ" มี 40 คะแนน รั้งที่ 15 มีโอกาสรอดตกชั้นสูงทีเดียว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , มิเชล ซัลกาโด , คริสโตเฟอร์ แซมบา , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , ฟิล โจนส์ , เจอร์เมน โจนส์ , สตีเฟน เอ็นซ็องซี , เดวิด ฮอยเล็ตต์ , เจสัน โรเบิร์ตส
แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัสซ์ คุสแซ็ค , ฟาบิโอ ดา ซิลวา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันยา วิดิช , โจนาธาน อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล คาร์ริค , ไรอัน กิกส์ , หลุยส์ นานี , เวย์น รูนีย์ , ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำคืนวันเสาร์
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[1-0 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.20) , 1-1 : เวย์น รูนีย์ (จุดโทษ น.73)]
แบล็คพูล 4-3 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : เควิน เดวีส์ (น.6) , 1-1 : ดีเจ แคมป์เบลล์ (น.9) , 2-1 : เจสัน ปูนชอง (น.19) , 2-2 : แม็ทธิว เทย์เลอร์ (น.24) , 3-2 : ดีเจ แคมป์เบลล์ (น.45) , 3-3 : ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (น.53) , 4-3 : ชาร์ลี อดัม (น.63)]
ซันเดอร์แลนด์ 1-3 วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
[0-1 : โจดี แคร็ดด็อก (น.23) , 1-1 : สเตฟาน แซสเซญอง (น.34) , 1-2 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.54) , 1-3 : จอร์จ เอโลโกบี (น.78)]
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-0 เอฟเวอร์ตัน
[1-0 : ยูซุฟ มูลัมบู (น.10)]