xs
xsm
sm
md
lg

"เบิร์บ" ซัด 3 ผีทุบลูกโลกเละ 5-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เบอร์บาตอฟ โหม่งเผาขนให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงฟอร์มสดชาวบัลแกเรียระเบิดฟอร์มกดแฮตทริกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฝ้าบ้านถล่ม เบอร์มิงแฮม ซิตี ยับเยิน 5-0 ครองบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อไปอย่างเหนียวแน่น

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2554
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-0 เบอร์มิงแฮม ซิตี

ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด จ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับ เบอร์มิงแฮม ซิตี ทีมอันดับ 16 เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาชาวบราซิลที่ติดโทษแบน ทำให้ จอห์น โอเชีย ลงมาทำหน้าที่แทน ส่วน คริส สมอลลิง ก็ได้ลงมายืนคุมแนวรับกับ เนมานยา วิดิช ขณะที่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จับคู่ล่าตาข่ายกับ เวย์น รูนีย์ ด้านทีมเยือนไม่มี สกอตต์ แดนน์ ปราการหลังตัวเก่งที่เดี้ยง เลียม ริดจ์เวลล์ จึงถูกหุบเข้ามาเล่นตรงกลางแทน แดนกลางมี เดวิด เบนท์ลีย์ เป็นตัวทำเกม พร้อมทั้งจัด อเล็กซานเดอร์ คเล็บ คอยสนับสนุน แมตต์ ดาร์บีเชียร์ หน้าตัวเป้า

เปิดฉากมาได้เพียง 1 นาที 32 วินาที “ปิศาจแดง” ก็ได้เฮกันก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ ไรอัน กิกส์ เปิดลูกเตะมุมจากด้านขวา โอเชีย โหม่งเสยที่เสาแรกต่อมาให้ เบอร์บาตอฟ โขกเผาขนไม่เหลือซากเป็น 1-0 เป็นประตูที่ 16 รวมทุกรายการของหัวหอกบัลแกเรียนในฤดูกาลนี้ ถัดมานาทีที่ 5 เบอร์บาตอฟ เกือบบวกลูกที่สองของตัวเองได้จากการหลุดเข้าไปกระทุ้งในเขตโทษด้านขวา แต่ เบน ฟอสเตอร์ ยังใช้เท้าเซฟเอาไว้ได้ จากนั้น ไมเคิล คาร์ริค ปะทะกับ คเล็บ จนเจ็บข้อเท้า ดาร์รอน กิบสัน จึงถูกส่งลงมาแทน

“ลูกโลก” มามีโอกาสกดดันเจ้าถิ่นในนาทีที่ 25 เมื่อ คเล็บ ไหลให้ เบนท์ลีย์ บริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดยัดเข้ากลาง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ชกบอลออกมาเข้าทาง คีธ ฟาฮีย์ ยิงสวนจากแถวสอง แต่ลูกไม่ตรงกรอบ จากนั้นเกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่วโมงแรก รูนีย์ เปลี่ยนแกนจากซ้ายมาขวาให้ หลุยส์ นานี หลอกล่อ เดวิด เมอร์ฟี แล้วยิงผ่านหน้าประตูออกไปแบบน่าผิดหวัง

ทว่านาทีที่ 31 แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดบอลได้ตรงกลางสนามโดย อันแดร์สัน ก่อนที่ รูนีย์ จะจ่ายต่อให้ เบอร์บาตอฟ โยกหาช่องหนึ่งทีแล้วซัดในเขตโทษ ลูกลอดขา โรเจอร์ จอห์นสัน ผ่านมือ ฟอสเตอร์ เข้าไปเป็น 2-0 เป็นลูกที่ 2 ของหัวหอกบัลแกเรียนในเกมนี้ ก่อนหมดครึ่งแรก เจ้าบ้านมาบวกเพิ่มเป็น 3-0 เมื่อ เบอร์บาตอฟ กวาดบอลได้จาก เดวิด เมอร์ฟี แล้วเล่นชิ่งหนึ่งสองให้ รูนีย์ หลุดขึ้นไปทางขวาก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ กิกส์ ยิงเสยตาข่าย กระทั่งจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง สกอร์ไหลเป็น 4-0 ในนาทีที่ 53 โดย รูนีย์ จ่ายลอดขา โรเจอร์ จอห์นสัน ให้ กิกส์ ตวัดต่อมาที่เสาแรกแล้ว เบอร์บาตอฟ โฉบเข้ามาชาร์จส่งลูกพุ่งแสกหน้า ฟอสเตอร์ เสยเพดานตาข่ายทำแฮตทริกจนได้ ก่อนที่ ไมเคิล โอเวน จะถูกส่งลงมาแทน กิกส์ ในนาทีที่ 55 หลังจาก ฟาบิโอ ดา ซิลวา ลงมาแทน ปาทริซ เอฟรา ก่อนหน้านี้ นาทีที่ 58 เบอร์มิงแฮม ชวดตีไข่แตกอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ ดาร์บีเชียร์ ได้กดในเขตโทษถูก ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟ ลูกมาเข้าทาง ฟาฮีย์ เหลือแค่เสากับตาข่าย แต่ ฟาฮีย์ กลับวิ่งถลำเลยลูกจึงยิงไม่ถนัด ทำให้บอลแป้กออกหลังไป

ผ่านมาถึงนาทีที่ 76 แมนฯ ยูไนเต็ด ปิดฉากด้วยการยำใหญ่ 5-0 โดย นานี ยิงลูกเก่งหลังรับบอลจาก โอเชีย แล้วโยกตัดจากด้านขวาเข้ากลางก่อนสับไกด้วยซ้ายส่งลูกหนีมือ ฟอสเตอร์ เสียบเสาสองตุงตาข่าย ทำให้ปิศาจแดงเก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนน ยึดจ่าฝูงเหนียวแน่นโดยนำหน้า อาร์เซนอล ที่เปิดบ้านสยบ วีแกน แอธเลติก 3-0 อยู่ 2 แต้ม ขณะที่ เบอร์มิงแฮม มี 23 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 16 ต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, คริส สมอลลิง, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, หลุยส์ นานี, ไมเคิล คาร์ริค, อันแดร์สัน, ไรอัน กิกส์, เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

เบอร์มิงแฮม ซิตี - เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟน คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี, เดวิด เบนท์ลีย์, แบร์รี เฟอร์กูสัน, คีธ ฟาฮีย์, จอร์แดน มัทช์, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, แมตต์ ดาร์บีเชียร์

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (เฟร์นานโด ตอร์เรส 0-1 นาที 36), (ราอูล เมเรเลส 0-2 นาที 50), (เฟร์นานโด ตอร์เรส 0-3 นาที 90)

อาร์เซนอล ชนะ วีแกน แอธเลติก 3-0 (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 1-0 นาที 22), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 2-0 นาที 58), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี 3-0 นาที 85)

แบล็คพูล แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (คีแรน ริชาร์ดสัน 0-1 นาที 15), (คีแรน ริชาร์ดสัน 0-2 นาที 36), (ชาร์ลี อดัม 1-2 จุดโทษ นาที 86)

เอฟเวอร์ตัน เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 (โจนาธาน สเปคเตอร์ 0-1 นาที 26), (ดินิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ 1-1 นาที 77), (เฟรเดริก ปิกิยอนน์ 1-2 นาที 84), (มารูยาน เฟลลายนี 2-2 นาที 90)

ฟูแลม ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-0 (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 1-0 นาที 33), (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 2-0 จุดโทษ นาที 56)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี 5-0 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 1-0 นาที 2), (ดิมิทาร์ เบอรบาตอฟ 2-0 นาที 31), (ไรอัน กิกส์ 3-0 นาที 45+2), (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 4-0 นาที 53), (หลุยส์ นานี 5-0 นาที 76)

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1 (ฟาบริซิโอ โคลอชชินี 1-0 นาที 59), (อารอน เลนนอน 1-1 นาที 90)

แอสตัน วิลลา ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 18)
เบิร์บ ในจังหวะกดเม็ดที่ 2 ก่อนทำแฮตทริก
โรบิน ฟาน เพอร์ซี (ที่ 2 จากซ้าย) ทำแฮตทริกให้ อาร์เซนอล ด้วย
ฟาบริซิโอ โคลอชชินี กระทุ้งให้ นิวคาสเซิล นำก่อนเจ๊า
เอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอ เวสต์แฮม 2-2 แบบหืดจับ
กำลังโหลดความคิดเห็น