xs
xsm
sm
md
lg

สแลมเฟรนช์โอเพ่น ฟินาเล่ "นาดาล-ยอโควิช"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โนวัค ยอโควิช
ASTV ผู้จัดการรายวัน –ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “เฟรนช์ โอเพน” ครั้งที่ 110 เปิดฉากดวลแร็กเก็ตอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดยจะดำเนินการแข่งขันไปจนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 54 ซึ่งมีเงินรางวัลรวมทั้งฝ่ายชายและหญิงอยู่ที่ 17.5 ล้าน (ประมาณ 700 ล้านบาท)โดยการแข่งขันยังคงมีขึ้นที่สนามโรลังด์ การ์รอส กรุงปารีสซึ่งทางสมาพันธ์เทนนิสฝรั่งเศส (FFT) ได้ปรับความจุที่นั่งให้เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ย้ายสนามการแข่งขันเนื่องจากสภาพสนามที่ถูกใช้งานมานานและรับผู้เข้าชมการแข่งขันได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสมาชิกของสมาพันธ์เทนนิสฝรั่งเศสมีมติให้ใช้โรลังด์ การ์รอส ต่อไปโดยจะเพิ่มที่นั่งในสนามให้รองรับต่อจำนวนผู้ชมที่เพิ่มขึ้นแทน

ซึ่งการดวลแร็กเก็ต บนคอร์ตดินที่มีมนต์ขลังอย่างโรลังด์ การ์รอส ในบรรยากาศปรับปรุงใหม่แล้ว การแข่งขันสแลมที่สองของฤดูกาลนี้นับว่าเป็นการดวลเดือดระหว่างสองนักเทนนิสชายที่กำลังขับเคี่ยวตำแหน่งมือหนึ่งโลกอย่าง นาดาล และ ยอโควิช ซึ่งเฟรนช์โอเพ่น นั้นเปรียบเสมือน "ฟินาเล่" ของการดวลบนคอร์ตดินของทั้งคู่ ขณะที่ฝ่ายหญิงนั้นแม้จะไร้เงาของสองพี่น้องวิลเลี่ยมส์ แต่การกลับมาของ มาเรีย ชาราโปว่า หลังคว้าแชมป์บนคอร์ตดินที่กรุงโรม นับเป็นการการันตีผลงานให้กับเจ้าตัวก่อนลงสนาม โรลังด์ การ์รอส ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะกลายเป็นตัวแปรในการชิงชัยของมือหนึ่งและสองระหว่าง คาโรไลน์ วอซเนียคกี และ คิม ไคลจ์สเตอร์ หรือไม่

หลังครองแสลมแรกของฤดูกาล 2011 "ออสตรเลียน โอเพ่น" จากทวีปดาวน์อันเดอร์ ได้เป็นสมัยที่สองดูเหมือนว่า จอมหวดจากเซอร์เบีย โนวัค ยอโควิช มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และเมื่อถึงการแข่งขันในระดับมาสเตอร์ส 1000 บนฮาร์ดคอร์ตที่อินเดียน เวลส์และไมอามี่ จอมหวดจากเซอร์เบีย สามารถเอาชนะราฟาเอล นาดาล ในรอบชิงชนะเลิศได้ติดต่อกันถึงสองรายการทำให้กระแสความแรงของ จอมหวดชาวเซิร์บเพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก่อนลงสนามโรลังด์ การ์รอส "โนเล" เป็นฝ่ายเรียกความมั่นใจให้กับตนเอง ด้วยการพิชิตนาดาล ถึงถิ่นในรายการ มาดริด มาเตอร์ส ต่อด้วยโรม มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นสองทัวร์นาเมนท์ระดับมาสเตอร์ส 1000 บนคอร์ตดิน

จากผลงานดังกล่าวทำให้ โนวัค ยอโควิช ถูกดันขึ้นมาแทนที่ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในฐานะศัตรูหมายเลขหนึ่ง และมีคะแนนในเอทีพี แรงกิ้งที่ตามนาดาลอยู่เพียง 405 แต้มเท่านั้นหาก จอมหวดจากเซอร์เบียโค่นเจ้าของแชมป์เฟรนช์โอเพ่น 5 สมัยลงได้นั่นหมายถึงบัลลังก์นักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลกจะมากองอยู่ตรงหน้าทันที แต่ เจ้าของฉายา "คิงออฟเคลย์" อย่างราฟาเอล นาดาล คงไม่ปล่อยให้คู่ปรับที่ตนเองมีสถิติ 'เฮดทูเฮด' ดีกว่า (16-11) มาเอาชนะบนคอร์ตดินที่ตนเองถนัดไปได้ง่ายๆ เพราะถึงแม้ความพ่ายแพ้ที่มีต่อ ยอโควิช ถึง 4 นัดติดต่อกันในรอบชิงชนะเลิศจะเกิดจากการแก้เกมนักเทนนิสถนัดซ้ายอย่างนาดาล หากจุดอ่อนของ ยอโควิช เมื่อต้องโต้กราวน์สโตรกกับจอมแกร่งอย่างนาดาล หรือแม้แต่ความได้เปรียบบนสนามโรลังด์ การ์รอส ที่นาดาล แทบจะรู้จักทุกซอกทุกมุมของสนาม "ฟิลิปเป ชาร์ติเย" (เซนเตอร์คอร์ต) เป็นอย่างดีโดยสถิติของนาดาลนั้นคว้าแชมป์มาแล้ว 5 สมัยและครั้งนี้กำลังลุ้นสมัยที่ 6 เพื่อเทียบกับนักเทนนิสระดับตำนานอย่าง บิยอร์น บอร์ก

สำหรับการแข่งขันในสแลมเฟรนช์ฯ นาดาล ถูกจัดให้เป็นมือหนึ่งของรายการอยู่ในสายบนซึ่งมีมือวางอย่าง แอนดี้ เมอร์เรย์ (4) และ โรบิน โซเดอร์ริ่ง (5) ขณะที่ยอโควิช นั้นถูกจัดให้เป็นมือสองของทัวร์นาเมนท์อยู่ในสายล่างร่วมกับมือวางอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (3) และ ดาวิด เฟร์เรร์ (7) เมื่อพิจารณาสายการแข่งขันแล้ว นาดาล นั้นพบกับศึกที่เบากว่า ยอโควิช ที่อยู่ในสายล่าง ซึ่งนั่นหมายถึงสภาพร่างกายของทั้งคู่หากเดินทางมาถึงจุดหมายบนคอร์ต "ฟิลิปเป ชาร์ติเย" ได้สำเร็จและนั่นหมายถึง ดรีมแมทช์ที่แฟนเทนนิสทั้งโลกพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

เมื่อการดวลแร็กเก็ตของฝ่ายชายเรียกได้ว่าจะเป็นการสร้างตำนานบทใหม่บนสนามโรลังด์ การ์รอส ซึ่งอาจบดบังความสำคัญในฟากหญิงเดี่ยวไปบ้าง แต่ด้วยความน่าสนใจของ แร็กเก็ตสาวที่ลงสนามในปีนี้นอกจากมือหนึ่งและสองอย่าง คาโรไลน์ วอซเนียคกี และ คิม ไคลจ์สเตอร์ แล้วชื่อที่ปรากฎตามมาอย่าง มาเรีย ชาราโปว่า ที่เพิ่งคว้าแชมป์บนคอร์ตดินที่โรม มาครองได้ก่อนหน้าลงสนามสแลมเฟรนช์ โอเพ่น เพียงหนึ่งสัปดาห์ได้กลายเป็นจุดสนใจของสื่อทันที เพราะผลงานดังกล่าวทำให้อันดับโลกของเธอนั้นพุ่งขึ้นไปอยู่ในท้อปเทน โลกทันทีและอาจหมายถึงโอกาสที่ ชาราโปว่า จะได้ครองถ้วย "คูป ซูซานน์ ลองลอน" เป็นสมัยแรกก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

ส่วน วอซเนียคกี นั้นเธอครองตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกมาแล้ว 31 สัปดาห์ผลงานดีที่สุดในสแลม เฟรนช์ฯ คือรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว และคอร์ตดิน ไม่ใช่งานถนัดของเธอสักเท่าไร ผิดกับ "ซุเปอร์มัม" คิม ไคลจ์สเตอร์ ที่เคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศมาแล้วถึงสองครั้ง (2001, 2003) และเพิ่งคว้าแสลม ออสซี่ มาครองได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บ จนทำให้เรื้อสนามหากแต่นักเทนนิสที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่างคิม เรื่องดังกล่าวคงไม่ใช่ปัญหาและถ้าเธอต้องการปิดฉากชีวิตนักเทนนิสอาชีพภายในฤดูกาลนี้นั่นหมายถึงการคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น มาครองให้สำเร็จให้ได้

เส้นทางการแข่งขันตลอดสองสัปดาห์ต่อจากนี้ คือการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด บนคอร์ตดินที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังอย่าง โรลังด์ การ์รอสเป็นสองสัปดาห์ที่แฟนเทนนิสทั่วโลกจะได้ชมเกมกราวสโตรก อันหนักหน่วงของนักเทนนิสชื่อดัง เกมการชิงชัยที่ไม่ได้ใช้แค่ความแรงของลูกเสิร์ฟ หรือ โฟร์แฮนด์ วินเนอร์ หากแต่ผู้เข้าแข่งขันยังต้องต่อสู้กับตนเองด้วยสมาธิ และความอดทน โดยผู้ที่แกร่งที่สุดจะได้ครองถ้วย "คูป เดส์ มัสเกอแตร์ส" ในประเภทชายเดี่ยว และ "คูป ซูซานน์ ลองลอน" ในประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งอาจมีบิ๊กโบนัสพ่วงท้ายด้วยตำแหน่งมือหนึ่งโลกตามมาก็เป็นได้
ราฟาเอล นาดาล
วอซเนียคกี ต้องพิสูจน์ตัวเอง
ชาราโปวา กำลังจะกลับมา
กำลังโหลดความคิดเห็น