xs
xsm
sm
md
lg

"ฟัลเกา" โขกนำชัยปอร์โตคว้าแชมป์ยูโรปา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราดาเมล ฟัลเกา (ซ้าย) โหม่งพังประตูชัยให้ ปอร์โต เฉือนชนะ บรากา คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก
ราดาเมล ฟัลเกา ศูนย์หน้าทีมชาติโคลอมเบีย โหม่งพังประตูในช่วงท้ายครึ่งแรกช่วยให้ ปอร์โต เฉือนชนะ บรากา ทีมร่วมลีกโปรตุเกส 1-0 คว้าแชมป์ยูโรปาลีก ประจำฤดูกาล 2010-2011 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี

ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ
ปอร์โต (โปรตุเกส) 1-0 บรากา (โปรตุเกส)

เกมตัดสินแชมป์ฟุตบอลถ้วยสโมสรใบรองของยุโรปที่สนามอวีวา สเตเดียม ในกรุงดับลิน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เป็นการทำศึกสายเลือดโปรตุเกสระหว่าง ปอร์โต ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ลีกสูงสุดในประเทศมาหมาดๆ กับ บรากา ทีมอันดับ 4 ของลีกฝอยทอง เกมนี้ ปอร์โต ของกุนซือหนุ่มไฟแรง อันเดร วิลลาส-โบอาส จัดชุดเก่งลงสนาม นำทัพโดย ฮัลค์ หัวหอกร่างยักษ์ชาวบราซิล และ ราดาเมล ฟัลเกา ดาวยิงที่กดไปแล้ว 16 ลูกในรายการนี้ ส่วน บรากา มี ฮูโก วิอานา มิดฟิลด์อดีตทีมชาติโปรตุเกสเป็นจอมทัพ ส่วนแดนหน้าฝากความหวังไว้ที่ อลัน, เปาโล เซซาร์ และ ลิมา

เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาทีเศษ บรากา มีโอกาสใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำหลังจากชิงจังหวะโหม่งตัดบอลได้ในแดนของ ปอร์โต ลูกมาเข้าทาง คาสโตร คัสตูดิโอ ที่หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปกดด้วยขวาในเขตโทษ ทว่าบอลเฉี่ยวเสาแรกออกหลังอย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาทีที่ 7 เป็นทีของ ปอร์โต บ้างโดย ฮัลค์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงแหวกแนวรับ 2-3 คน เข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียวไส้

ต่อมา “เดอะ ดรากอนส์” เริ่มครองเกมได้เหนือกว่าก่อนจะมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 28 จากการตะบันฟรีคิกเกือบ 35 หลาของ ฮัลค์ แต่ลูกก็พุ่งเหินข้ามคานออกไป 3 นาทีให้หลัง ซิลเวสเตร วาเรลา พุ่งโหม่งไม่ตรงกรอบ จากนั้นนาทีที่ 40 ฟัลเกา เข้าไปบีบ อาร์ตูร์ นายทวารบรากาจนเตะไปติดตัวดาวยิงทีมชาติโคลอมเบีย แต่ยังโชคดีที่ลูกไม่เข้ากรอบ

กระทั่งนาทีที่ 44 ปอร์โต ก็มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ เฟรดี กวาริน เปิดบอลจากกราบขวาอย่างแม่นยำไปที่เสาสองให้ ฟัลเกา ที่เทกตัวกลางอากาศโหม่งบอลหนีมือ อาร์ตูร์ เบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม และเป็นประตูที่ 17 ของเจ้าตัวในยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง บรากา แก้เกมด้วยการเปลี่ยนทีเดียว 2 คนส่ง มอสโซโร กับ เคลาดิโอ กาก้า ลงมาแทน ฮูโก วิอานา และ อัลเบอร์โต โรดริเกซ เพื่อเสริมเกมรุก ซึ่งก็เกือบได้ผลทันตาเห็นในนาทีที่ 46 เมื่อ มอสโซโร ฉกบอลจากความผิดพลาดของ โรลันโด ที่ไม่ทันระวังตัวก่อนแตะเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ถูก เอลตัน ล้มตัวใช้เท้าขวาเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 72 มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ คริสเตียน ซาปูนารู แบ็กขวาปอร์โตที่รับใบเหลืองไปแล้วก่อนหน้านี้ดับเครื่องชน ซิลวิโอ ของ บรากา ล้มคว่ำ แต่ผู้ตัดสิน คาร์ลอส เบลาสโก คาร์บาโย ให้เพียงแค่ฟรีคิกเท่านั้น ทำให้ผู้เล่น บรากา เข้ามาประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่ เปาเลา จะเติมขึ้นมาโขกข้ามคานและถูกจับล้ำหน้าด้วย จากนั้น “เดอะ ดรากอนส์” ก็ปรับแผนด้วยการส่ง เฟอร์นานโด เบลลุสชี ลงมาแทน กวาริน ตามด้วย เจมส์ โรดริเกซ ลงมาแทน วาเรลา

ปอร์โต หวิดได้เพิ่มอีกเม็ดในนาทีที่ 86 จากการยิงไกลของ เบลลุสชี แต่ลูกเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ช่วงเวลาที่เหลือ บรากา ไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ ทำให้จบเกม ปอร์โต เฉือนชนะ 1-0 คว้าแชมป์ยูโรปาลีก ไปครอง โดยที่ ราดาเมล ฟัลเกา คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของรายการที่ 17 ประตู ขณะที่ อันเดร วิลลาส-โบอาส เป็นกุนซืออายุน้อยที่สุดที่ได้แชมป์รายการนี้ด้วยวัยเพียง 33 ปี 233 วัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์โต - เอลตัน, คริสเตียน ซาปูนารู, โรลันโด, นิโคลัส โอตาเมนดี, อัลวาโร เปเรรา, ฟรานซิสโก เฟอร์นานโด, เฟรดี กวาริน, เจา มูตินโญ, ซิลเวสเตร วาเรลา, ฮัลค์, ราดาเมล ฟัลเกา

บรากา - อาร์ตูร์, มิเกล การ์เซีย, เปาเลา, อัลเบอร์โต โรดริเกซ, ซิลวิโอ, คาสโตร คัสตูดิโอ, วานดินโญ, ฮูโก วิอานา, อลัน, เปาโล เซซาร์, ลิมา
ฮัลค์ หัวหอกร่างยักษ์ของปอร์โตพลิ้วหนี เปาโล เซซาร์
ซิลเวสเตร วาเรลา แนวรุกปอร์โตโดน มิเกล การ์เซีย และ อลัน ของบราการุมประกบ
มอสโซโร ตัวสำรองของ บรากา ได้หลุดเดี่ยวแต่ยิงไปติดเซฟของ เอลตัน
อันเดร วิลลาส-โบอาส (ขวา) นายใหญ่ปอร์โตกลายเป็นกุนซือที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ยูโรปา ลีก
กำลังโหลดความคิดเห็น