ราดาเมล ฟัลเกา ดาวยิงทีมชาติโคลอมเบียระเบิดฟอร์มฮอต เหมาคนเดียว 4 ลูกช่วยให้ เอฟซี ปอร์โต พลิกจากตามหลัง บียาร์รีล ในครึ่งแรกแซงกลับมาถล่มคว้าชัยขาดลอย 5-1 ในศึกยูโรปา ลีก รอบตัดเชือก นัดแรก ทำให้โอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศสดใส
ฟุตบอลยูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) 5-1 บียาร์รีล (สเปน)
เริ่มเกมที่เอสตาดิโอ โด ดราเกา มาได้เพียง 7 นาที “เรือดำน้ำสีเหลือง” เกือบทะลวงตาข่ายขึ้นนำได้ก่อนตั้งแต่ไก่โห่ เมื่อ นิลมาร์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงยัดเสาแรกเอง แม้ว่าจะมี จูเซ็ปเป รอสซี รอชาร์จอยู่หน้าปากประตู ซึ่ง เอลตัน นายทวารปอร์โตล้มตัวปัดออกหลังไป จากนั้นทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกแลกหมัด ผลัดกันสร้างความหวาดเสียวได้เป็นระยะๆ
นาทีที่ 28 บียาร์รีล น่าได้ประตูอย่างยิ่งจากจังหวะที่ บอร์ฆา บาเลโร จ่ายทะลุช่องให้ รอสซี หลุดเข้าไปแตะหลบ เอลตัน แล้วยิงมุมแคบ แต่ โรลันโด ปราการหลังเจ้าถิ่นยังตามมาสไลด์ขวางทางบอลออกหลังได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ ปอร์โต ยังเจาะเข้าไปแทบไม่ได้จึงอาศัยการซัดนอกเขตโทษ นาทีที่ 38 เฟรดี กวาริน ลองส่องด้วยขวาไม่ผ่านมือ ดิเอโก โลเปซ ถัดมา 4 นาที คริสเตียน โรดริเกซ ได้กดด้วยซ้าย แต่ โลเปซ ยังล้มตัวคว้าไว้ได้
กระทั่งนาทีที่ 45 ทีมเยือนจากแดนกระทิงดุก็ขยับสกอร์ขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อ บาเลโร พาบอลหลบผู้เล่นเจ้าบ้านแล้วจ่ายออกทางขวาให้ นิลมาร์ เปิดเข้ากลาง รูเบน การ์เซีย กานี สอดเข้ามาโหม่งเช็ดบางๆ ที่เสาแรกส่งลูกผ่านมือ เอลตัน เข้าไปซุกก้นตาข่าย ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ปอร์โต สามารถตามตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 49 จากลูกจุดโทษ ซึ่งเริ่มมาจาก เฟรดี กวาริน ไหลทะลุช่องให้ ฟัลเกา หลุดเข้าไปถูก โลเปซ รวบล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ ฟัลเกา จะลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด จากนั้นนาทีที่ 61 เจ้าถิ่นพลิกสถานการณ์แซงนำ 2-1 ได้สำเร็จ เมื่อ กวาริน ได้บอลวางยาวจากแดนหลังหลุดขึ้นมาทางขวา ล็อกหลบ โซเรียโน บรูโน หนึ่งทีแล้วยิงมุมแคบถูก เอลตัน เซฟได้ก่อนที่ กวาริน จะโหมงซ้ำเข้าไป
ถัดมา 2 นาที ปอร์โต พลาดทำสกอร์หนีห่างออกไปจากจังหวะที่ กวาริน ผ่านบอลเรียดจากด้านขวา ทว่า ฟัลเกา กลับลื่นล้มเสียก่อน ลูกจึงโดนหลังหัวหอกทีมชาติโคลอมเบียเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย แต่แล้วก็มาบวกประตู 3-1 จนได้ในนาทีที่ 67 เมื่อ ฮัลค์ พลิ้วหนี โฆเซ มานูเอล คาตาลา แล้วตบเข้ามาให้ ฟัลเกา ชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่าย
นาทีที่ 75 เกมมาขาดลอย 4-1 สำหรับเจ้าถิ่น เมื่อ กวาริน เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวา ฟัลเกา วิ่งสอดทะลุไลน์ไม่ล้ำหน้าก่อนพุ่งโหม่งสุดตัวส่งบอลย้อนศรผ่านมือ โลเปซ ตุงตาข่ายเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 14 ในยูโรปาลีกฤดูกาลนี้ด้วย เรือดำน้ำสีเหลืองพยายามทวงคืนบ้างในนาทีที่ 87 จาก ซานติ กาซอร์ลา ที่ลองตะบันหน้าเขตโทษ ทว่า เอลตัน ยังล้มตัวปัดออกหลังไปได้
ถึงนาทีสุดท้าย ปอร์โต มาตอกย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาด 5-1 จากจังหวะที่ เจมส์ โรดริเกซ ตัวสำรองเปิดโด่งจากกราบซ้ายเลยมาที่เสาไกล ฟัลเกา จัดการโขกย้อนทางส่งบอลย้อยหนีมือ โลเปซ เสียบหน้าต่างเสาสองอย่างแม่นยำ ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ ทำให้ทีมดังจากแดนฝอยทองแทบจะลอยลำเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ยังต้องออกไปเยือน บียาร์รีล ที่สนามเอล มาดรีกัล ในวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอฟซี ปอร์โต - เอลตัน, คริสเตียน ซาปูนารู, โรลันโด, อัลวาโร เปเรรา, นิโคลัส โอตาเมนดี, เจา มูตินโญ, เฟรดี กวาริน, คริสเตียน โรดริเกซ, ฟรานซิสโก เฟอร์นานโด, ฮัลค์, ราดาเมล ฟัลเกา
บียาร์รีล - ดิเอโก โลเปซ, มาเตโอ มุสซาชิโอ, คาร์ลอส มาร์เชนา, มาริโอ เปเรซ, โฆเซ มานูเอล คาตาลา, ซานติ กาซอร์ลา, บอร์ฆา บาเลโร, รูเบน การ์เซีย กานี, โซเรียโน บรูโน, นิลมาร์, จูเซ็ปเป รอสซี
อีกคู่หนึ่ง เบนฟิกา เปิดสนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ เฉือนชนะ บรากา ทีมร่วมลีกสูงสุดโปรตุเกส 2-1 โดย ชาร์เดล ยิงให้ "เหยี่ยวลิสบอน" ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 50 จากนั้น วานดินโญ มาตีเสมอให้ทีมเยือนในนาทีที่ 53 ก่อนที่ ออสการ์ คาร์โดโซ ศูนย์หน้าทีมชาติปารากวัยจะมาพังประตูชัยให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 59 เบนฟิกา จึงถือความได้เปรียบเล็กน้อยก่อนออกไปเยือนในสัปดาห์หน้า