เอฟซี ปอร์โต บุกพ่าย บีญาร์รีล 2-3 ในเกมรอบตัดเชือก นัดสอง แต่ด้วยจำนวนประตูที่ยิงตุนไว้นัดแรกทำให้เป็นฝ่ายชนะขาด 7-4 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลยูโรปา ลีกกับ บรากา ที่โค่น เบนฟิกา ตามกฎยิงประตูทีมเยือน เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
บียาร์รีล (สเปน) 3-2 เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส)
บีญาร์รีล เปิดสนามเอลมาดรีกัล รับมือ ปอร์โต หลังจากบุกแพ้นัดแรก 1-5 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นวางสามประสานแดนหน้าทั้ง นิลมาร์, จูเซปเป รอสซี และ มาร์โก รูเบน เพื่อทำเกมบุกเต็มที่ ส่วนทีมเยือนยังมีสองหัวหอกตัวเก่งทั้ง ฟัลเกา และ ฮัลค์ ไว้ขู่กองหลังเจ้าบ้าน
บีญาร์รีล ทำเกมบุกเข้าใส่ทันทีหลังจากเริ่มครึ่งแรก นาที 4 ซานติ คาซอร์ลา เปิดบอลจากกราบขวามาเข้าหัว มาร์โก รูเบน โหม่งข้ามคาน อีก 3 นาทีถัดมา นิลมาร์ ได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ พยายามแตะหลบกองหลังทีมเยือนไม่พ้น แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทาง จูเซปเป รอสซี สับไกจากนอกเขตโทษให้ เฮลตัน พุ่งปัดออกหลัง
กระทั่งนาที 17 "เยลโลซับมารีน" ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ รูเบน ได้บอลจากการทะลุช่องของเพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนผ่านเรียดให้ กานี ชาร์จบอลผ่านตัว เฮลตัน ซุกก้นตาข่าย ลูกทีมของ ฆวน คาร์ลอส การ์ริโด บุกกดดันต่อ ในนาที 31 คาซอร์ลา แทงบอลให้ รอสซี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ เฮลตัน แต่กองหน้าชาวอิตาเลียนซัดหลุดกรอบไปเอง
เกมรับของ บีญาร์รีล ดันขึ้นสูงกระทั่งเกิดความผิดพลาดในนาที 40 ปล่อยให้ ฮัลค์ กระชากบอลมายิงหน้าเขตโทษแฉลบขาของ พาโบล มุสซาคิโอ จน ดีเอโก โลเปซ พุ่งรับผิดจังหวะบอลเข้าประตูไปให้ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ฮัลค์ เกือบบวกเพิ่มให้ ปอร์โต อีกลูก แต่ซัดในเขตโทษติดเท้า โลเปซ ขณะที่เจ้าถิ่นมีลุ้นเช่นกันในช่วงทดเจ็บจาก นิลมาร์ แต่ยิงหลุดกรอบประตูจากระยะ 18 หลา สุดท้ายจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
เกมครึ่งหลังผ่านมา 2 นาที กลายเป็น ปอร์โต ทำสกอร์พลิกนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฮัลค์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลมาให้ ฟัลเกา ที่ยืนอยู่โล่งๆหน้าประตู แตะหนึ่งจังหวะก่อนซัดบอลสวนตัว โลเปซ เข้าสู่ก้นตาข่าย แม้ความหวังเหลือริบหรี่ แต่ บีญาร์รีล ยังพยายามต่อ ในนาที 49 โซเรียโน สับไกยิงจากนอกเขตโทษให้ เฮลตัน ต้องพุ่งสุดเหยียดปัดทิ้งออกหลัง
ทีมเยือนมีโอกาสบวกเพิ่มเช่นกันในาที 64 จากฟรีคิกระยะ 40 หลา เฟรดีย์ กัวริน ปั่นด้วยขวาบอลผ่านมือ โลเปซ แล้วแต่โชคร้ายไปชนคานเต็มๆ กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 75 เจ้าถิ่นจึงตามตีเสมอ 2-2 เมื่อ กานี เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าเขตโทษ บอลเลยไปทางเสาสอง โจน คัพเดบีญา ซึ่งเติมเกมบุกขึ้นมาแตะบอลลงก่อนซัดมุมแคบตุงตาข่าย
นาที 79 บีญาร์รีล มาได้ลูกจุดโทษหลังจาก รูเบน ถูก นิโกลาส์ โอตาเมนดี ดึงล้มลงในกรอบ 18 หลา รอสซี รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้เจ้าถิ่นพลิกนำ 3-2 แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีปาฏิหารย์ จบเกม 90 นาที ปอร์โต เป็นฝ่ายเอาชนะด้วยประตูรวมสองนัด 7-4 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเจอกับ บรากา ที่เปิดบ้านเฉือนชนะ เบนฟิกา 1-0 จากประตูของ คัสโตดิโอ ในนาที 19 รวมผลสองนัดเสมอกัน 2-2 แต่ได้เข้ารอบตามกฎยิงประตูทีมเยือน โดย ปอร์โต และ บรากา เตรียมชิงดำกันที่สนามดับลิน อารีนา ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บีญาร์รีล : ดีเอโก โลเปซ, โจน คัพเดบีญา, มาริโอ เปเรซ, พาโบล มุสซาคิโอ, กานี, ซานติ คาซอร์ลา, โซเรียโน, มาตี, นิลมาร์, จูเซปเป รอสซี, มาร์โก รูเบน
เอฟซี ปอร์โต : เฮลตัน, อัลวาโร เปไรรา, คริสเตียน ซาปูนารู, โรแลนโด, นิโกลาส์ โอตาเมนดี, เจา มูตินโญ, คริสเตียน โรดริเกซ, เฟรดีย์ กัวริน, ฟรานซิสโก เฟร์นานโด, ฟัลเกา, ฮัลค์
ฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง
บียาร์รีล (สเปน) 3-2 เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส)
บีญาร์รีล เปิดสนามเอลมาดรีกัล รับมือ ปอร์โต หลังจากบุกแพ้นัดแรก 1-5 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นวางสามประสานแดนหน้าทั้ง นิลมาร์, จูเซปเป รอสซี และ มาร์โก รูเบน เพื่อทำเกมบุกเต็มที่ ส่วนทีมเยือนยังมีสองหัวหอกตัวเก่งทั้ง ฟัลเกา และ ฮัลค์ ไว้ขู่กองหลังเจ้าบ้าน
บีญาร์รีล ทำเกมบุกเข้าใส่ทันทีหลังจากเริ่มครึ่งแรก นาที 4 ซานติ คาซอร์ลา เปิดบอลจากกราบขวามาเข้าหัว มาร์โก รูเบน โหม่งข้ามคาน อีก 3 นาทีถัดมา นิลมาร์ ได้บอลหลุดเข้ามาในเขตโทษ พยายามแตะหลบกองหลังทีมเยือนไม่พ้น แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทาง จูเซปเป รอสซี สับไกจากนอกเขตโทษให้ เฮลตัน พุ่งปัดออกหลัง
กระทั่งนาที 17 "เยลโลซับมารีน" ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ รูเบน ได้บอลจากการทะลุช่องของเพื่อนร่วมทีมหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนผ่านเรียดให้ กานี ชาร์จบอลผ่านตัว เฮลตัน ซุกก้นตาข่าย ลูกทีมของ ฆวน คาร์ลอส การ์ริโด บุกกดดันต่อ ในนาที 31 คาซอร์ลา แทงบอลให้ รอสซี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ เฮลตัน แต่กองหน้าชาวอิตาเลียนซัดหลุดกรอบไปเอง
เกมรับของ บีญาร์รีล ดันขึ้นสูงกระทั่งเกิดความผิดพลาดในนาที 40 ปล่อยให้ ฮัลค์ กระชากบอลมายิงหน้าเขตโทษแฉลบขาของ พาโบล มุสซาคิโอ จน ดีเอโก โลเปซ พุ่งรับผิดจังหวะบอลเข้าประตูไปให้ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ฮัลค์ เกือบบวกเพิ่มให้ ปอร์โต อีกลูก แต่ซัดในเขตโทษติดเท้า โลเปซ ขณะที่เจ้าถิ่นมีลุ้นเช่นกันในช่วงทดเจ็บจาก นิลมาร์ แต่ยิงหลุดกรอบประตูจากระยะ 18 หลา สุดท้ายจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
เกมครึ่งหลังผ่านมา 2 นาที กลายเป็น ปอร์โต ทำสกอร์พลิกนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฮัลค์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลมาให้ ฟัลเกา ที่ยืนอยู่โล่งๆหน้าประตู แตะหนึ่งจังหวะก่อนซัดบอลสวนตัว โลเปซ เข้าสู่ก้นตาข่าย แม้ความหวังเหลือริบหรี่ แต่ บีญาร์รีล ยังพยายามต่อ ในนาที 49 โซเรียโน สับไกยิงจากนอกเขตโทษให้ เฮลตัน ต้องพุ่งสุดเหยียดปัดทิ้งออกหลัง
ทีมเยือนมีโอกาสบวกเพิ่มเช่นกันในาที 64 จากฟรีคิกระยะ 40 หลา เฟรดีย์ กัวริน ปั่นด้วยขวาบอลผ่านมือ โลเปซ แล้วแต่โชคร้ายไปชนคานเต็มๆ กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 75 เจ้าถิ่นจึงตามตีเสมอ 2-2 เมื่อ กานี เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าเขตโทษ บอลเลยไปทางเสาสอง โจน คัพเดบีญา ซึ่งเติมเกมบุกขึ้นมาแตะบอลลงก่อนซัดมุมแคบตุงตาข่าย
นาที 79 บีญาร์รีล มาได้ลูกจุดโทษหลังจาก รูเบน ถูก นิโกลาส์ โอตาเมนดี ดึงล้มลงในกรอบ 18 หลา รอสซี รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้เจ้าถิ่นพลิกนำ 3-2 แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีปาฏิหารย์ จบเกม 90 นาที ปอร์โต เป็นฝ่ายเอาชนะด้วยประตูรวมสองนัด 7-4 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเจอกับ บรากา ที่เปิดบ้านเฉือนชนะ เบนฟิกา 1-0 จากประตูของ คัสโตดิโอ ในนาที 19 รวมผลสองนัดเสมอกัน 2-2 แต่ได้เข้ารอบตามกฎยิงประตูทีมเยือน โดย ปอร์โต และ บรากา เตรียมชิงดำกันที่สนามดับลิน อารีนา ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บีญาร์รีล : ดีเอโก โลเปซ, โจน คัพเดบีญา, มาริโอ เปเรซ, พาโบล มุสซาคิโอ, กานี, ซานติ คาซอร์ลา, โซเรียโน, มาตี, นิลมาร์, จูเซปเป รอสซี, มาร์โก รูเบน
เอฟซี ปอร์โต : เฮลตัน, อัลวาโร เปไรรา, คริสเตียน ซาปูนารู, โรแลนโด, นิโกลาส์ โอตาเมนดี, เจา มูตินโญ, คริสเตียน โรดริเกซ, เฟรดีย์ กัวริน, ฟรานซิสโก เฟร์นานโด, ฟัลเกา, ฮัลค์
