เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวสรรเสริญบรรดาลูกทีมทุกคนที่ช่วยกันทำผลงานตลอดทั้งฤดูกาลจนพา "ผีแดง" คว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีสมัยที่ 19 ของสโมสรได้สำเร็จ
โทรฟีแชมป์ลีกใบที่ 12 ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จากการคุมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 25 ปี เกิดขึ้นหลังจากบุกเสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 ที่สนามอีวูด ปาร์ก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต้องขอบคุณจุดโทษนาที 73 ของ เวย์น รูนีย์ ที่ช่วยตามตีเสมอ หลังถูกเจ้าถิ่นออกนำก่อนตั้งแต่ครึ่งแรกจากประตูของ เบรตต์ อีเมอร์ตัน
หลังจบเกม กุนซือวัย 69 ปีกล่าวสดุดีลูกทีมว่า "มันเป็นการกระทำที่สุดยอดมากจากผู้เล่น แฟนบอลและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสร นี่เป็นวันที่สุดพิเศษ" พร้อมกล่าวถึงเกมกับ แบล็คเบิร์นว่า "มันเป็นเกมที่ไม่ง่าย เราตามหลัง 0-1 แต่เราก็พยายามและไม่ยอมแพ้ นี่เหมือนกับเป็นเกมดาร์บีแมตช์ท้องถิ่น(ตะวันตก-เหนือ) แบล็คเบิร์นต่อสู้อย่างหนักเพราะพวกเขาต้องการอยู่รอด แต่ในที่สุดเราก็สามารถทำได้ มันเป็นเกมที่มีคุณภาพ"
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีสูงสุดสมัยที่ 19 แซงหน้าสถิติของคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล และเมื่อถูกถามถึงการที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันทำผลงานดีภายใต้การคุมทีมของ เคนนี ดัลกลิช จะลุ้นแย่งแชมป์ด้วยในฤดูกาลหน้า เฟอร์กูสัน ตอบว่า "เคนนี เข้ามาและทำให้ ลิเวอร์พูล ดีขึ้นในทุกส่วน แต่การแข่งขันลีกนี้ไม่ง่ายและพวกเขาจะได้รู้เรื่องนั้น ในฤดูกาลนี้เราได้ทำคะแนนตกหล่นหลายต่อหลายเกม มันชี้ให้เห็นถึงความยากของพรีเมียร์ลีก"
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ก่อนที่เจอกับ แบล็กพูล ในเกมปิดฉากฤดูกาลสัปดาห์หน้า และนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุที่สนามเวมบลีย์ในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป
ขณะที่บางคนมองว่า แบล็คพูล ซึ่งกำลังดิ้นรนหนีตกชั้นจะได้ประโยชน์จากการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้าย แต่ เฟอร์กูสัน ยืนยันจะสั่งลูกทีมให้เล่นเต็มที่เพื่อชัยชนะ "การคว้าแชมป์แล้วเป็นโบนัสสำหรับเรา ตอนนี้เราสามารถที่พิจารณาให้ใครได้พักหรือลงสนามเกมแต่ไป ผมรู้ว่ามีการพูดถึงทีมของเราในเกมสัปดาห์หน้า แต่เพื่อความยุติธรรมต่อทุกทีม อย่ากังวลเลย เราจะไปที่นั้นเพื่อชนะ"
โทรฟีแชมป์ลีกใบที่ 12 ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จากการคุมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 25 ปี เกิดขึ้นหลังจากบุกเสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 ที่สนามอีวูด ปาร์ก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต้องขอบคุณจุดโทษนาที 73 ของ เวย์น รูนีย์ ที่ช่วยตามตีเสมอ หลังถูกเจ้าถิ่นออกนำก่อนตั้งแต่ครึ่งแรกจากประตูของ เบรตต์ อีเมอร์ตัน
หลังจบเกม กุนซือวัย 69 ปีกล่าวสดุดีลูกทีมว่า "มันเป็นการกระทำที่สุดยอดมากจากผู้เล่น แฟนบอลและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสร นี่เป็นวันที่สุดพิเศษ" พร้อมกล่าวถึงเกมกับ แบล็คเบิร์นว่า "มันเป็นเกมที่ไม่ง่าย เราตามหลัง 0-1 แต่เราก็พยายามและไม่ยอมแพ้ นี่เหมือนกับเป็นเกมดาร์บีแมตช์ท้องถิ่น(ตะวันตก-เหนือ) แบล็คเบิร์นต่อสู้อย่างหนักเพราะพวกเขาต้องการอยู่รอด แต่ในที่สุดเราก็สามารถทำได้ มันเป็นเกมที่มีคุณภาพ"
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีสูงสุดสมัยที่ 19 แซงหน้าสถิติของคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล และเมื่อถูกถามถึงการที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันทำผลงานดีภายใต้การคุมทีมของ เคนนี ดัลกลิช จะลุ้นแย่งแชมป์ด้วยในฤดูกาลหน้า เฟอร์กูสัน ตอบว่า "เคนนี เข้ามาและทำให้ ลิเวอร์พูล ดีขึ้นในทุกส่วน แต่การแข่งขันลีกนี้ไม่ง่ายและพวกเขาจะได้รู้เรื่องนั้น ในฤดูกาลนี้เราได้ทำคะแนนตกหล่นหลายต่อหลายเกม มันชี้ให้เห็นถึงความยากของพรีเมียร์ลีก"
แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ก่อนที่เจอกับ แบล็กพูล ในเกมปิดฉากฤดูกาลสัปดาห์หน้า และนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุที่สนามเวมบลีย์ในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป
ขณะที่บางคนมองว่า แบล็คพูล ซึ่งกำลังดิ้นรนหนีตกชั้นจะได้ประโยชน์จากการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้าย แต่ เฟอร์กูสัน ยืนยันจะสั่งลูกทีมให้เล่นเต็มที่เพื่อชัยชนะ "การคว้าแชมป์แล้วเป็นโบนัสสำหรับเรา ตอนนี้เราสามารถที่พิจารณาให้ใครได้พักหรือลงสนามเกมแต่ไป ผมรู้ว่ามีการพูดถึงทีมของเราในเกมสัปดาห์หน้า แต่เพื่อความยุติธรรมต่อทุกทีม อย่ากังวลเลย เราจะไปที่นั้นเพื่อชนะ"