"โค้ชอ้วก" วรกร วิจารณรงค์ กุนซือป้ายแดง "ตะหานน้ำ" สโมสรฟุตบอลราชนาวี พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเองและเน้นฝึกวินัยนักเตะ อีกทั้งยังเตรียมแผนเสริมนักเตะไม่ว่าจะเป็นไทยหรือต่างชาติทั้งในส่วนกองหน้า, ปีก และกองหลัง เข้ามาเพิ่มเติมในช่วงเลกหลัง เพื่อทำให้ศักยภาพของทีมแข็งแกร่งขึ้น และมั่นใจว่าจะทำให้ทีมสามารถติด 1 ใน 10 ไทยพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ พลเรือตรีเริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ ผู้จัดการทีมฯ แย้มข่าวดีเลกสองได้กลับคืนสู่รังเหย้า สนามกีฬาราชนาวี กม.5
หลังจากที่สโมสรฟุตบอลราชนาวี โดยการบริหารงาน บริษัท สยามนาวี ลีค คลับ จำกัด ได้จัดวางแนวทางนโยบายอีกครั้ง เพื่อให้ทีมมีความพร้อมลงสนามแข่งขันในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2011 และเพื่อความแข็งแกร่งของทีมในการนำทีมสู่เป้าหมายของความสำเร็จ ในเบื้องต้นได้เสริมทัพของบุคลากรคุณภาพ อย่าง "โค้ชอ้วก" นายวรกร วิจารณรงค์ ซึ่งถือว่าคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงกีฬาฟุตบอลมากว่า 20 ปี
โดย "โค้ชอ้วก" อดีตกุนซือแบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวขอบคุณบริษัท สยามนาวี ลีค คลับ จำกัด และสโมสรฟุตบอลราชนาวี ว่า "ขอบคุณที่ได้ให้โอกาสผมในการเข้ามาคุม และฝึกสอนทีม ในเบื้องต้นในการเข้ามาทำทีมคงต้องปรับและศึกษาแนวทางการเล่นเดิม ให้สอดคล้องกับแนวทางการเล่นใหม่ๆ ตามแบบที่ผมเคยมีประสบการณ์มา ซึ่งการได้เข้ามาคุมทีม สโมสรราชนาวี ในครั้งนี้ ผมรู้ดีว่ามีงานหนักรออยู่ข้างหน้า แต่อย่างน้อยจากประสบการณ์ที่ผมเคยคลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลในประเทศมานานพอสมควร ผมเชื่อมั่นจะช่วยให้ทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี มีโอกาสลุ้นอันดับที่ดีขึ้นในไทยพรีเมียร์ลีกครั้งนี้
"ซึ่งผมตั้งมั่นว่าจะถ่ายทอดวิธีการเล่นจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา และฝึกความมีวินัยให้กับนักเตะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญและเป็นตัวชี้วัดในความสำเร็จของนักกีฬา คือความมุ่งมั่น ความพยายาม และวินัยในการฝึกซ้อม แต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ ทุกๆ ฝ่ายต้องร่วมมือกัน มุ่งสู่เป้าหมายของทีมให้ผ่านในไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ให้ได้ ส่วนการเสริมทัพนักเตะนั้น ผมเองได้เตรียมมองหานักเตะฝีเท้าดี ๆ มาเสริมในช่วงเลก 2 หลังจากที่ทีมสโมสรราชนาวีเสียตัวหลักของทีมไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อความลงตัวของทีมมากขึ้น ทั้งในส่วนของกองหน้า, ปีก และหลัง และมองถึงการฝึกซ้อมที่ต้องเสริมสมรรถนะความแข็งแกร่งของร่างกายที่ต้องเพิ่มมากขึ้น"
ขณะเดียวกัน พลเรือตรีเริงฤทธิ์ บุญส่งประเสริฐ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวี กล่าวว่า "ในส่วนของการบริหารจัดการทีมที่ผ่านมาต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เสียสละให้กับทีมมาโดยตลอด โดยเฉพาะนาวาเอกเรืองฤทธิ์ แสงแก้ว หรือโค้ชเรือง ที่ทุ่มเทกับทีมมาโดยตลอด หากแต่วันนี้นาวาเอกเรืองฤทธิ์ติดภารกิจในด้านการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ซึ่งอาจลดบทบาทลงในการบริหารทีมของสโมสร สโมสรฯ จึงมีการปรับเปลี่ยนการทำทีม แผนการเล่นของนักเตะ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ "โค้ชอ้วก" มาคุมทีมในช่วงหลังจากนี้ ซึ่งจากความสามารถของเขาแล้ว ผมมั่นใจว่าจะทำให้ทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวีมีแผนการเล่นที่ดีขึ้น และจากประสบการณ์ของเขาทั้งในและต่างประเทศ และยังผ่านการทำทีมในระดับชาติมาแล้ว จะสามารถถ่ายทอดแผนงาน กลยุทธ์ให้ทีมสโมสรฟุตบอลราชนาวีได้เป็นอย่างดี"
"สโมสรฟุตบอลราชนาวีในปีนี้ ถือว่านักเตะที่เข้ามายืนเป็นตัวผู้เล่นในทีมถือว่าใหม่เกือบหมด หากแต่กำลังใจและความพยายามของนักเตะก็ยังคงสู้อย่างถึงที่สุด วันนี้โอกาสของการเป็นเป็นตัวจริงในวงการฟุตบอลไทยอยู่ไม่ไกลเกินฝัน เยาวชนที่ได้รับโอกาสจากหลายๆ ฝ่ายของสโมสรฟุตบอลราชนาวีสู่ลีกชั้นแนวหน้าอย่างไทยพรีเมียร์ลีก มีรุ่นพี่ในวงการฟุตบอลคอยสอนแนะเทคนิคต่าง ๆ ตลอดจนผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพที่จะมาถ่ายทอดวิธีการเล่นให้เสริมความสามารถในด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น อีกทั้งแนวทางการเล่นจากนักฟุตบอลต่างชาติ"
"ในส่วนของสนามการแข่งขัน สโมสรฟุตบอลราชนาวีวางแผนที่จะกลับมาเล่นที่สนามกีฬาราชนาวี กม.5 อ.สัตหีบ ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้ทันในช่วงเลก 2 ซึ่งถือเป็นฐานกำลังของเรา และกลุ่มกองเชียร์ของเราในพื้นที่สัตหีบและจ.ระยอง ในส่วนของความคืบหน้าปัจจุบันได้เริ่มมีการปรับปรุงในด้านโครงสร้างบางส่วน และช่วงต่อไปจะมีการปรับปรุงสนาม พื้นหญ้า ระบบไฟฟ้า ตลอดจนที่พักอาศัยของนักแตะ" ผจก.ทีม "ตะหานน้ำ" กล่าว