“วิว” ไม่สนเสียงค้าน ลุยสานฝันกีฬาชาติ

ASTVผู้จัดการรายวัน - ท่ามกลางกระแสความประหลาดใจของแฟนกีฬา และเสียงคัดค้านจากบุคคลรอบข้าง ทว่า "วิว" เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย หาได้หวั่นไหว ประกาศตัวลงสู่ถนนสายการเมืองในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมาโดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ผู้เป็นแกนนำของพรรคทำหน้าที่แนะนำ “ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ในสายนักกีฬา โดยน้องวิว หวังใช้ประสบการณ์ของตนเองผลักดันให้นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไปอีก

โดยภายในงานระดมทุนของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น้องวิว เยาวภา บุรพลชัย ได้กลายเป็นนางเอกของงานไปในทันทีเมื่อเธอได้รับการแนะนำจากแกนนำพรรคอย่าง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะ “ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ซึ่งสถานะที่เปลี่ยนไปของ อดีตนักเทควันโด เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่ปัจจุบันมีอายุได้ 27 ปี และกำลังจะเข้าพิธิวิวาห์ในสัปดาห์หน้า เธอได้เปิดใจถึงการตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองของตนเองว่า

"เรื่องนี้ วิว ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานมานั่งคิดจริงจังช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้รับการทัดทานจากคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือว่าคู่หมั้น (เกรียงศักดิ์ เพิ่มทวี) เพราะกลัวเราจะทนรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และแรงกดดันจากสังคมรอบข้างไม่ไหว หรือพูดง่ายๆ ว่าโดนด่าเพราะในใสายตาขอประชาชนทั่วไปอาจติดภาพลักษณ์ว่าการเมืองเป็นสิ่งไม่ดี มีแต่การสาดโคลนใส่กัน แต่พอมานั่งคิดดูว่า ถ้ามัวกลัวกับเสียงวิจารณ์ ก็คงไม่ต้องทำอะไรกัน เราก็พยายามพิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นว่าเรามีความตั้งใจจริง อยากเข้ามาดูแลเรื่องกีฬา อีกอย่างเรามีมุมมองทางการเมืองโดยยึดมั่นความถูกต้องและยุติธรรมเป็นหลักสุดท้ายทุกคนก็เข้าใจ โดยที่คุณพ่อของคู่หมั้นนั้นให้กำลังใจว่า ถ้าก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองแล้ว ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น และก็อวยพรให้ประสบความสำเร็จด้วย"

ทั้งนี้อดีตลูกศิษย์ "โค้ชเช" กล่าวถึงความตั้งใจมาทำงานการเมืองด้วยว่า "จากประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่อยากให้มันผ่านไป เราอยากจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีเกี่ยวกับเรื่องของกีฬา เข้ามาช่วยพัฒนากีฬาในประเทศ เพราะจากลูกข้าราชการชั้นผู้น้อยกับแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้มามีวันที่เชิดหน้าชูตาได้ก็เพราะกีฬาได้ให้อะไรกับเราหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หน้าที่การงาน จึงอยากตอบแทนสังคมด้วยการทำงานการเมืองดูบ้าง"

ขณะเดียวกัน "วิว" กล่าวถึงงานด้านกีฬาที่อยากร่วมส่งเสริมในฐานะนักการเมืองว่า "ตอนเป็นเด็กเคยอยู่ในค่ายทหาร แล้วมีจัดกิจกรรมออกค่ายให้เด็กๆ มาออกกำลังกาย เล่นกีฬา ซึ่งก็อยากสนับสนุนให้มีการสร้างพื้นที่ หรือลานกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนเข้ามาออกกำลังกายกันมากขึ้น และจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับสมาคมกีฬาที่ยังขาดเงินทุนในการพัฒนาเช่นกัน"

"ซึ่งการทำหน้าที่นักการเมือง มันน่าจะทำให้งานในหลายๆ ด้านง่ายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการหาผู้สนับสนุนวงการกีฬามาช่วยเหลือสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ยังขาดงบประมาณสนับสนุน ยกตัวอย่างกีฬาเทควันโดกว่าจะได้รับความนิยมก็ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย บางครั้งขาดผู้สนับสนุนก็มีแต่คนในสมาคมเท่านั้นที่ต้องหาผู้สนับสนุนเพื่อให้นักกีฬามีโอกาสไปแข่งขันในต่างประเทศ ถึงวันนี้ วิว คิดว่าความเข้าใจกีฬาสามารถต่อยอดในการพัฒนาจุดนี้เพื่อผลักดันให้นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไปอีกได้"

แม้จะยังไม่สามารถระบุได้ว่าพรรคฯจะส่งลงรับสมัครเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ หรือระบบเขต ทว่า "วิว" เองยอมรับว่าต้องการลงพื้นที่ของตนในเขตหลักสี่มากกว่าโดยเปิดเผยทิ้งท้ายว่า "จะลงสมัครเป็น สส. กรุงเทพฯ ในเขตใดนั้น ยังคงให้คำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของผู้ใหญ่ในพรรคฯหากเป็นไปได้อยากจะลงสมัครในเขตพื้นที่หลักสี่ เพราะถือเป็นพื้นที่ที่คุ้นเคยและคลุกคลีรวมถึงมีชื่อตรงตามทะเบียนบ้านในปัจจุบัน โดยพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในฐานะ ส.ส.อย่างเต็มที่"

ประวัติส่วนตัว
เยาวภา บุรพลชัย เกิด 6 ก.ย.2527
ภูมิลำเนา กรุงเทพมหานคร
บิดา-มารดา ร.ต.ธำรง-นางสมศรี บุรพลชัย
เริ่มเล่นเทควันโดตั้งแต่อายุ 15 ปี
อำลาเทควันโดปี 2551 เนื่องจากบาดเจ็บที่หัวเข่า
ผลงานดีที่สุดในฐานะนักเควันโด
เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004
การศึกษา
ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ชีวิตคู่
สำหรับชีวิตคู่เตรียมเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับนายเกรียงศักดิ์ ทวีเพิ่ม คู่หมั้นในวันที่ 26 เม.ย. ก่อนจะจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ ณ สโมสรทหารบก วิภาวดี