เอ็นริเก คาลิสโต กุนซือเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด โล่งอกที่คว้าชัยชนะในศึกเอเอฟซี คัพ 2011 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 ได้ โดยยอมรับว่าเกมน่าจะจบลงด้วยผลเสมอ ขณะที่ อาลี ซูเซน เฮดโค้ชวิคตอรี เอสซี ชอกช้ำที่ถูกยิงท้ายเกม ลั่นขอกลับไปล้างตาที่มัลดีฟส์ ซึ่งสภาพอากาศจะเอื้ออำนวยให้กับลูกทีม
ฟุตบอลถ้วยสโมสรใบรองของทวีปเอเชีย เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา “กิเลนผยอง” หวิดทำ 2 แต้มหลุดมือ หลังจาก ดานโญ เซียกา ยิงจุดโทษไม่เข้าในนาทีที่ 81 ก่อนที่มิดฟิลด์ชาวไอวอรีโคสต์จะตอกลูกส้นจ่อๆ เป็นประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีแรก เอาชนะ วิคตอรี เอสซี จากมัลดีฟส์ 1-0 ทำให้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2 ปีล่าสุดผงาดขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มจีแต่เพียงผู้เดียว มี 7 แต้ม นำ แทมปิเนส โรเวอร์ส จากสิงคโปร์ 2 คะแนน
ด้าน คาลิสโต โค้ชชาวโปรตุเกสของ เมืองทองฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “ก่อนลงสนามดูเหมือนว่าเกมนี้จะง่าย แต่เมื่อแข่งจริงแล้วกลับยากกว่าที่คิด เราเล่นด้วยความอึดอัดตลอดทั้งเกม เพราะไม่สามารถได้ประตูเร็ว แม้จะมีโอกาสมากแต่ก็ยิงไม่เข้าเสียทีรวมทั้งลูกจุดโทษด้วย โชคดีที่มาได้ประตูชัยในนาทีสุดท้าย ซึ่งผมเกือบคิดว่าเกมจะจบลงด้วยการเสมอกันเสียแล้ว”
“ส่วนเกมที่จะออกไปเยือนพวกเขานัดหน้าในวันที่ 27 เมษายนนี้ เมืองทองฯ ไม่หวั่นอากาศร้อนซึ่งพวกเขาบอกว่าจะช่วยให้ได้เปรียบและพร้อมที่จะเล่นในทุกสภาพอากาศ ขณะเดียวกัน หากเขากล้าเล่นเกมรุกในบ้านตัวเองมากขึ้น เราก็จะมีช่องให้โจมตีเขามากขึ้นเช่นกัน และผมหวังว่าเราจะชนะอีกครั้งที่มัลดีฟส์ ตลอดจนมัน่ใจว่าเราจะคว้าแชมป์กลุ่มจีได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากนัดสุดท้ายเราได้เล่นในบ้านพบ แทมปิเนส โรเวอร์ส วันที่ 10 พฤษภาคมนี้” กุนซือหนวดงามทิ้งท้าย
ส่วน อาลี ซูเซน นายใหญ่วิคตอรี เอสซี อดีตแชมป์ลีกสูงสุดมัลดีฟส์ 20 สมัย กล่าวว่า “วันนี้เราเล่นได้ดีแล้ว แต่โชคร้ายที่มาเสียประตูในช่วงท้ายเกม สำหรับนัดหน้าที่มัลดีฟส์เราจะเล่นในช่วงบ่ายเวลา 16.10 น. ซึ่งอากาศจะร้อนกว่านี้และน่าจะช่วยให้เราได้เปรียบพวกเขามากกว่าการเล่นตอนกลางคืน อีกทั้ง 2 ผู้เล่นต่างชาติตัวหลักอย่าง ซามูเอล ทาย สมิธ ศูนย์หน้า และ มันเดย์ พาทริค กองหลังที่ทำวีซ่าไม่ทันจนไม่ได้เดินทางมาในครั้งนี้จะกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง ทำให้เรามีโอกาสชนะหรือไม่ก็เสมอได้ ท้ายสุดต้องขอขอบคุณ เมืองทองฯ ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี”
