"มาดามมล" นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาติดตามผลคืบหน้าการเตรียมความพร้อมและตรวจสอบการเป็นเจ้าภาพจัดการการแข่งขันฟุตซอลโลก ปี 2012 เสนอจังหวัดชลบุรี รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก ระหว่างวันที่ 2-18 พ.ย.55 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพดีเยี่ยม ทั้งสถานที่ การเดินทาง และประสบการณ์ หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ประกาศถอนตัว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันอังคารที่ 5 เมษายน 2554 มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาติดตามผลคืบหน้าการเตรียมความพร้อมและตรวจสอบการเป็นเจ้าภาพจัดการการแข่งขันฟุตซอลโลก ปี 2012 ครั้งที่ 1/2554 โดยมี นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ 308 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2
สืบเนื่องจากที่คณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ได้ติดตามผลคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดเตรียมการแข่งขันฟุตซอลโลก ปี 2012 ที่ผ่านมาพบว่าในขณะนี้การเตรียมการในด้านต่างๆ ยังไม่มีความคืบหน้าและเตรียมความพร้อมเท่าที่ควร ทั้งในเรื่องของสถานที่สำหรับใช้ก่อสร้างสนามแข่งขัน การบริหารจัดการ งบประมาณ การประชาสัมพันธ์ ที่พักนักกีฬา และสิทธิประโยชน์
ดังนั้นเพื่อให้การจัดการแข่งขันและการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลกปี 2012 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและสำเร็จตามวัตถุประสงค์ จึงจำเป็นที่คณะกรรมาธิการฯ จะได้รับทราบข้อมูลเพื่อติดตามตรวจสอบ ส่งเสริมสนับสนุน ตลอดจนรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการจัดเตรียมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 135 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ.2551 ข้อ 88 และระเบียบวุฒิสภา หลักเกณฑ์ตั้งอนุกรรมาธิการซึ่งมิใช่กรรมาธิการในคณะ พ.ศ.2551 ประกอบมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกีฬา ขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อติดตามปัญหาและอุปสรรคของการจัดการแข่งขันครั้งนี้
โดยที่ประชุมได้รับทราบว่ามีจังหวัดที่ถูกเสนอเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตซอลโลกครั้งที่ 7 ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2-18 พ.ย.55 นอกเหนือจาก กรุงเทพมหานคร คือ เชียงใหม่, ภูเก็ต, สงขลา, นครราชสีมา และ สุพรรณบุรี ปรากฏว่าในขณะนี้ จ.เชียงใหม่ ได้ส่งหนังสือถอนตัวออกจากการเป็นเจ้าภาพร่วมอย่างเป็นทางการเนื่องจากติดปัญหาที่งบประมาณในการปรับปรุงสนาม อีกทั้ง จ.เชียงใหม่ เองก็ไม่ทราบว่าจังหวัดตนถูกเสนอชื่อเป็นเจ้าภาพร่วม ในขณะเดียวกัน จ.ภูเก็ต ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็นเจ้าภาพร่วมได้หรือไม่ เนื่องจากติดที่งบประมาณอีกเช่นกัน เพราะการเป็นเจ้าภาพร่วมต้องใช้งบของแต่ละจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ในแต่ละจังหวัดต้องมีความพร้อมในเรื่องการประชาสัมพันธ์, สถานที่, ความปลอดภัย, การอำนวยกลาง, การแข่งขัน,สันทนาการ และอื่นๆ
ในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรีก็ต้องแก้ไขพื้นที่สนามให้กว้างมากกว่าเดิมเนื่องจากแบบเดิมมีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน อีกทั้งการปรับปรุงครั้งนี้เกรงว่าที่นั่งจะถึง 4,000 ที่นั่งตามที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) กำหนดไว้ได้หรือไม่ นอกจากนั้น จ.สงขลา ก็ต้องมีการกระตือรือร้นในการผลักดันเต็มที่อีกเช่นกัน โดยมีเพียงจ.นครราชสีมา ที่ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าภาพร่วมได้อย่างไร้ปัญหา
ที่สำคัญกำหนดการที่ฟีฟาจะเดินทางมาตรวจสอบสภาพความพร้อมของสนามเมืองเจ้าภาพและตรวจเมืองเจ้าภาพร่วมที่มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตโลก ระหว่างวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ ปรากฏว่า ฟีฟา ได้ติงที่พื้นที่ที่จะใช้เป็นสนามหลัก บริเวณสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก ที่ใช้งบประมาณการสร้าง 1,300 ล้านบาท จุที่นั่งได้จำนวน 12,000 ที่นั่ง รองรับทีมแข่งขันกว่า 24 ทีม ส่วนใหญ่เกี่ยวกับเส้นทางการคมนาคมว่ายังไม่สามารถรองรับการเดินทางของผู้ชมได้อย่างเพียงพอ เพราะมีเพียงถนนสายหลักแค่เส้นเดียว โดยฟีฟาได้แนะนำว่าต้องมีการตัดถนนสายใหม่เพิ่มเติม
ท้ายนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เสนอแนะว่า "เมืองที่มีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งชันฟุตซอลโลกอีกเมืองหนึ่งคือ จ.ชลบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ส่งเสริมกีฬาอย่างจริงจัง มีประสบการณ์ในการจัดมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ มีความพร้อมทั้งในเรื่องสถานที่ การเดินทาง บุคคลากร ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามจังหวัดชลบุรี อย่างไรก็ตามเป็นเพียงการเสนอกรอบแนวทางไว้เท่านั้น เนื่องจากอนุกรรมาธิการชุดนี้กำลังจะหมดวาระลงในวันที่ 11 เมษยนนี้ ก่อนที่จะมีการประกาศสมาชิกวุฒิสภาสรรหาและคัดเลือกอนุกรรมาธิการชุดใหม่ขึ้นมา ซึ่งหากชุดใหม่เห็นด้วยก็ถือเป็นเรื่องดี"